ISUZU Car of The Year 2018…”อีซูซุ” คว้า 8 รางวัลรถยอดเยี่ยมแห่งปี 2018”

0

 

บทพิสูจน์ความเป็นรถยนต์คุณภาพขวัญใจมหาชน ปิกอัพจาก Isuzu ที่สามารถคว้า 8 รางวัลรถยอดเยี่ยมแห่งปี 2018 จากงาน “Thailand Car of The Year 2018” มาได้ ซึ่งงานนี้เป็นที่ยอมรับถึงมาตรฐานเกณฑ์การตัดสินที่เชื่อถือได้ จากคณะกรรมการตัดสินผู้เชี่ยวชาญทางด้านยานยนต์หลายฝ่าย รวมไปถึงวิธีการที่ใช้รวมไปถึงการทดสอบขับขี่จริง จึงทำทุกคนรวมไปถึงผู้บริโภคมั่นใจได้ในคุณภาพและมาตรฐานของปิกอัพ Isuzu…

 

งาน Car of The Year 2018 เป็นกิจกรรมที่จัดขึ้นเพื่อเป็นเวทีในการค้นหา “รถคุณภาพ” จัดขึ้นโดย บริษัท กรังด์ปรีซ์ อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด (มหาชน) เป็นบริษัทผู้ผลิตสื่อในแวดวงสื่อสารมวลชนสายยานยนต์ของประเทศไทยมาอย่างยาวนาน และยังเป็นบริษัทที่จัดงานแสดงเทคโนโลยีรถยนต์และรถจักรยานยนต์ที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในประเทศไทยและภูมิภาคอาเซียน นั่นคืองานบางกอก อินเตอร์เนชั่นแนล มอเตอร์โชว์

 

มาตราฐาน กฏเกณฑ์และวิธีการในการตัดสินมอบรางวัลในงาน Car of The Year 2018 นั้นได้รับความร่วมมือจากอาจารย์ผู้ทรงคุณวุฒิ ผู้เชี่ยวชาญทางด้านเทคโนโลยียานยนต์จากสถาบันการศึกษาอันเป็นที่ยอมรับในประเทศไทย สื่อมวลชนสายรถยนต์จากหลายสำนักเป็นคณะกรรมการในการตัดสิน และมีผู้สังเกตุการณ์เข้าร่วมในงานครั้งนี้อีกเป็นจำนวนมาก

 

 

วิธีการตัดสินและให้คะแนน จะมาจากตัวรถในทุกส่วน ทั้งการดีไซน์ภายนอก ภายในอรรถประโยชน์ใช้สอย สมรรถนะเครื่องยนต์และช่วงล่าง ความคุ้มค่าในการใช้งาน รวมไปถึงรายละเอียดที่เกี่ยวข้องอื่นๆ มีการขับขี่ทดสอบจริงในรูปแบบของเส้นทางทดสอบที่หลากหลาย เพื่อค้นหาสมรรถนะและการตอบสนองที่แท้จริงเพื่อให้ได้รถยนต์รุ่นที่สมควรได้รับรางวัลอย่างเหมาะสมถูกต้องที่สุด โดยแต่ละปีของงานจะนำเอารถยนต์ที่ทำตลาดอยู่ในประเทศไทยจากทุกแบรนด์รถยนต์ทุกรุ่นที่ส่งเข้ามาร่วมงาน แบ่งตามกลุ่มประเภท แบ่งตามกลุ่มรถยนต์เพื่อความยุติธรรมนั่นเอง

 

รถทุกคันในแต่ะกลุ่มจะถูกจะถูกให้คะแนนจากคณะกรรมการตามหัวข้อที่กำหนดไว้ดังเช่นที่กล่าวมาเรียบร้อยแล้ว จากนั้นจะมีการขับขี่ทดสอบในเส้นทางสถานีทดสอบ ทั้งการหาอัตราเร่ง อัตราเร่งแซง เพื่อดูสมรรถนะของเครื่องยนต์ การขับขี่แบบสลาลม การขับขี่เข้าโค้งในระดับต่างๆ เพื่อดูการทำงานของช่วงล่าง ระบบรองรับ พวงมาลัย การทดสอบระบบเบรก เป็นต้น ทั้งหมดเพื่อค้นหาสมรรถนะที่แท้จริงของรถแต่ละคัน เพื่อนำไปรวมคะแนนทั้งหมดสู่การตัดสินรางวัล Car of The Year 2018 ในแต่ละสาขา

 

ในปีนี้รถยนต์ปิกอัพ Isuzu เข้าร่วมงาน Car of The Year 2018 เหมือนเช่นทุกปีที่ผ่านมา และในปีนี้รถในกลุ่มปิกอัพหรือรถยนต์พื่อการพาณิชย์และรถยนต์อเนกประสงค์ที่มีพื้นฐานมาจากรถปิกอัพ (PPV) สามารถคว้ารางวัลอันน่าภาคภูมิใจมาได้ทั้งหมดรวม 8 รางวัล โดย 7 รางวัลเป็นรางวัลในส่วนของผลิตภัณฑ์รถยนต์ปิกอัพและรถยนต์อเนกประสงค์ส่วนอีก 1 รางวัลเป็นรางวัลที่มอบให้กับกิจกรรมเพื่อสังคม (CSR) ที่มีประโยชน์ ที่จัดขึ้นโดย Isuzu รางวัลที่ได้ทั้งหมดได้แก่

BEST PICKUP 2WD UNDER 2,500 c.c. / ISUZU D-MAX 1.9 Ddi BLUE POWER
ด้วยคุณสมบัติของรูปลักษณ์ภายนอกที่โดดเด่น “Strong Emotional Sporty”และยังออกแบบตามหลักอากาศพลศาสตร์ ภายในมากับแนวคิด “Universal Design” ผู้ขับขี่สามารถใช้ฟังก์ชั่นต่างๆ ได้อย่างสะดวกสบาย เครื่องยนต์ดีเซล คอมมอนเรลบล็อก 1.9 ลิตรเล็กสุดในตลาดรถปิกอัพเมืองไทย แต่ให้แรงม้าเพิ่มขึ้น 10% แรงบิดเพิ่มขึ้น 9% ประหยัดเชื้อเพลิงมากขึ้น 19%  ในการทดสอบขับขี่ พละกำลังจากเครื่องยนต์กับช่วงล่าง สามารถขับเคลื่อนและรองรับตัวรถได้อย่างคล่องตัวมีเสถียรภาพ การตอบสนองของพวงมาลัยในการขับขี่แบบ Lane Change และ Slalom ทำให้เห็นถึงสมรรถนะที่ชัดเจนสร้างความประทับใจให้กับคณะกรรมการจนสามารถคว้ารางวัลนี้มาได้

 

 

BEST PICKUP 4WD UNDER 3,200 c.c. / ISUZU D-MAX V-Cross Max 4×4
ด้วยความประทับใจของคณะกรรมการในองค์ประกอบตัวรถที่ลงตัว ในรุ่นขับเคลื่อน 4 ล้อรุ่นนี้ จะมีดีไซน์ที่แข็งแกร่งบึกบึน เพิ่มเติมด้วยของแต่งทำให้มีความแตกต่าง ห้องโดยสาร ตกแต่งด้วยสไตล์สปอร์ต รวมไปถึงจุดเด่นจากเทคโนโลยี BLUE POWER กับเครื่องยนต์ ดีเซล คอมมอนเรล บล็อก 3.0 ลิตร ให้กำลังสูงสุดถึง 177 แรงม้า ที่ 3,600 รอบต่อนาที ให้แรงบิดสูงต่อเนื่องแบบ High Flat-Torque 380 นิวตันเมตร ที่ 1,800-2,800 รอบต่อนาที

พร้อมทั้งฟังก์ชั่นระบบขับเคลื่อน 4 ล้อ ที่ทนทาน ใช้งานได้สะดวก สามารถใช้ประโยชน์ในการเดินทางหลากหลายรูปแบบ หรือแม้ช่วยเอาตัวรอดในยามต้องเจอเหตุการณ์คับขัน ยกระดับความมั่นใจในการขับขี่ใช้งาน ทำให้สามารถคว้ารางวัลนี้มาได้

 


BEST PPV DIESEL 2WD UNDER 3,200 c.c. / ISUZU MU-X 3.0 Ddi BLUE POWER

ยานยนต์อเนกประสงค์รองรับการใช้งานได้อย่างครบถ้วนหลากหลายจากดีไซน์ที่แตกต่าง และพื้นที่ภายในห้องโดยสารพร้อมฟังก์ชั่นอันทันสมัย ที่มาพร้อมเทคโนโลยี BLUE POWER ที่ทรงพลังแต่ประหยัดน้ำมันเป็นเยี่ยม ด้วยเครื่องยนต์ดีเซล คอมมอนเรล บล็อก 3.0 ลิตร ติดตั้งระบบอัดอากาศและอินเตอร์คูลเลอร์ ให้กำลังสูงสุด 177 แรงม้า ที่ 3,600 รอบต่อนาที พร้อมแรงบิดสูงสุดแบบต่อเนื่อง High Flat-Torque 380 นิวตันเมตร ที่ 1,800-2,800 รอบต่อนาที ส่งกำลังด้วยเกียร์อัตโนมัติ 6 สปีดขับเคลื่อน 2 ล้อ

การขับขี่ทดสอบแสดงให้เห็นถึงการตอบสนองของคันเร่งที่สั่งการทำงานเครื่องยนต์ให้ขับเคลื่อนตัวรถได้อย่างเร้าใจ จังหวะเปลี่ยนเกียร์ที่ต่อเนื่องนุ่มนวล ห้องโดยสารเงียบแบบฉบับรถอเนกประสงค์ PPV การทำงานของพวงมาลัย แม่นยำน้ำหนักเหมาะสมด้วยระบบเพาเวอร์ ช่วยผ่อนแรง ทำให้การตอบสนองในสถานีทดสอบทั้งหมดเป็นไปอย่างคล่องตัว
ประทับใจในระบบช่วงล่างด้านหน้าแบบอิสระปีกนก 2 ชั้น พร้อมเหล็กกันโคลง โช้คอัพคอยล์สปริง ด้านหลังเป็นแบบ 5-Link Suspension และโช้คอัพแก๊ส ส่งผลให้การรองรับและรักษาการทรงตัวมีความมั่นใจในการขับขี่ ผ่านทั้งการขับขี่ในย่านความเร็วต่างๆ การหักเปลี่ยนเลนส์ ด้วยสมรรถนะและคุณสมบัติทั้งหมด ทำให้สามารถคว้ารางวัลนี้มาได้

 

BEST FUEL ECONOMY PICKUP UNDER 2,500 c.c. / ISUZU D-MAX 1.9 Ddi BLUE POWER
ในการใช้งานจริงเรื่องของการประหยัดน้ำมันเป็นสิ่งที่สำคัญ เทคโนโลยี BLUE POWER ในเครื่องยนต์ 1.9 ลิตร ตอบโจทย์ได้อย่างตรงใจผู้บริโภค โดยเฉพาะอย่างยิ่งใน เรื่องของการประหยัดน้ำมันที่โดดเด่นที่สุดในกลุ่มรถประเภทเดียวกัน ด้วยตัวเลขความ ประหยัดน้ำมันที่สูงขึ้นกว่าเดิมถึง 19%

 

การันตีตัวเลขอัตราการประหยัดน้ำมันซึ่งอ้างอิงจากข้อมูล ECO Sticker สามารถ ทำได้ถึง 5.2 ลิตรต่อ 100 กม. หรือเท่ากับ 19.23 กม./ลิตร ที่เรียกได้ว่า “ประหยัด” เกือบ เทียบเท่ารถพิกัดเล็กอย่าง Eco Car แต่มีความสามารถที่มากกว่าหลายเท่าด้วยคุณสมบัติ ของรถปิกอัพ ซึ่ง รวมถึงความทนทานที่ไม่เป็นสองรองใคร และทั้งหมดนี้เกิดจากนวัตกรรมใหม่ การลดแรงเสียดทานภายในเครื่องยนต์และการลดน้ำหนักเครื่องยนต์

 

นอกจากนี้ด้วยเทคโนโลยีอัจฉริยะ ISUZU INSIGHT หนึ่งเดียวในวงการปิกอัพที่สามารถพัฒนาผู้ขับขี่ให้ขับขี่ได้อย่างถูกต้อง ทำให้ประหยัดน้ำมันและปลอดภัยยิ่งขึ้น

 

 

THE BEST ECO-FRIENDLY PICKUP / ISUZU D-MAX 1.9 Ddi BLUE POWER
การพัฒนานั้นไม่ได้มีเพียงแค่เรื่องของสมรรถนะหรือการประหยัดเชื้อเพลิงเท่านั้น เรื่องของ “ความเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม” มีความสำคัญไม่ยิ่งหย่อนไปกว่ากัน คุณสมบัตินี้เกิดจาก แนวคิดการพัฒนา “LESS CO2” ที่พัฒนาร่วมกับส่วนสำคัญอื่นๆ ไม่ว่าจะเป็นเรื่อง “LESSWeight” ที่พัฒนาให้มีน้ำหนักน้อยลงกว่าเดิมถึง 20% “LESS Friction” ที่พัฒนาให้การทำงานของเครื่องยนต์มีการเสียดทานน้อยลง เพื่อลดการสูญเสียพลังงาน รวมไปถึง “LESS Maintenance” การบำรุงรักษาที่สามารถทำได้ง่ายขึ้น

 

โดยในส่วนของเครื่องยนต์ก็มีการพัฒนายกระดับขึ้น ด้วยระบบกระเดื่องกดวาล์วใหม่แบบลูกกลิ้ง (Roller Rocker Arm) ที่มากับระบบปรับตั้งระยะวาล์วอัตโนมัติ(Hydraulic Lash Adjuster) ลดแรงเสียดทานจากการหมุนของเพลาลูกเบี้ยว

 

ระบบฉีดจ่ายเชื้อเพลิงและโปรแกรมการฉีดน้ำมันแบบใหม่ Multi-Injection ฉีดจ่ายได้อย่างแม่นยำและมีความละเอียดมาก ทำให้เกิดการเผาไหม้ที่หมดจด ภายในห้องเผาไหม้ที่พัฒนาขึ้นใหม่แบบโคลธอยด์-เคิร์ฟ (Clothoid Curve) ท่อไอดีใหม่แบบ Free Flow เพื่อให้อากาศไหลอย่างต่อเนื่อง พร้อมระบบเทอร์โบแปรผัน (VGS Turbo) แบบ Zero Gap และอินเตอร์คูลเลอร์ขนาดใหญ่ จึงมีตัวเลขการปล่อยคาร์บอนไดออกไซด์ที่ลดลงถึง 21% ซึ่งเป็นตัวเลขที่ดีที่สุด จึงเหมาะสมและคู่ควรที่จะครอบครองรางวัลนี้

 

THE MOST POPULAR PICKUP / ISUZU D-MAX 1.9 Ddi BLUE POWER
นับแต่อดีต แบรนด์ ISUZU คือแบรนด์อันดับต้นของเมืองไทย ที่สร้างปรากฏการณ์จากมหาชน อย่างล้นหลามได้ทุกครั้งเมื่อทำการเปิดตัวยนตรกรรมใหม่ๆ ISUZU D-MAX1.9 Ddi BLUE POWER ที่สร้างปรากฏการณ์ BLUE POWER ในทุกหย่อมหญ้าของเมืองไทย ด้วยเครื่องยนต์พิกัด เล็กที่สุดในเมืองไทย แต่มีสมรรถนะเต็มเปี่ยมด้วยคุณสมบัติ “LESS Weight” , “LESS Friction” , “LESS Noise” , “LESS CO2” และ “LESSMaintenance”

 

ด้วยแรงม้าที่มากขึ้น 10% ตามด้วยแรงบิดที่เพิ่มขึ้น 9% ส่งผลให้มีอัตราเร่งที่เร็วกว่าเดิมถึง 8% และยังมีความประหยัดน้ำมันมากขึ้น หรือ “MOREFuelEfficiency” จากแนวทางการออกแบบตามหลักอากาศพลศาสตร์เพื่อให้มีค่าแรงเสียดทานอากาศต่ำสุด รวมถึงการมีเครื่องยนต์ที่มีน้ำ หนักเบา ส่งผลให้อัตราการประหยัดนั้นดีขึ้นกว่าเดิมถึง 19% พร้อมทั้งมีความ “MORE Durability” หรือความทนทานที่ก้าวล้ำขึ้นไปอีกขั้น เป็นตัวเลือกในใจอันดับต้นๆ ของผู้บริโภค โดยเฉพาะในช่วงเปิดตัว ที่มีการจัดงานพิเศษ (ISUZU D-MAX BLUEPOWER SHOW) ในแต่ละจังหวัด ซึ่งจะมีลูกค้ามาเข้าร่วมงานอย่างคับคั่ง และยังคงเป็นที่ต้องการของผู้บริโภคชาวไทยในทุกพื้นที่ และสร้างยอดขายอย่างต่อเนื่อง อันเป็นสิ่งยืนยันให้เห็นถึง“คุณภาพ และการบริการ” ที่ยอดเยี่ยม เป็นที่ไว้วางใจ ฉะนั้น จึงไม่มีรางวัลไหนที่เหมาะสมไปกว่ารางวัลนี้

 



THE MOSTINNOVATION DIESEL ENGINE / ISUZU 1.9 Ddi BLUE POWER

เทคโนโลยีแห่งขุมพลังเครื่องยนต์ดีเซลใหม่ ที่อยู่ในร่างของ ISUZU 1.9 DdiBLUE POWER นั้น เริ่มต้นขึ้นจากการลดน้ำ หนักเครื่องยนต์ที่หดหายไปอีกราว20% หรือ 60 กก. พร้อมด้วยการใช้ระบบกระเดื่องกดวาล์วใหม่แบบลูกกลิ้งพร้อมระบบปรับตั้งระยะวาล์วอัตโนมัติ กระบอกลูกสูบที่มีการออกแบบให้เยื้องศูนย์ พร้อมด้วยเคลือบสารพิเศษ Graphite Coating ปิดท้ายด้วยการเปลี่ยนไปใช้ประกับก้านสูบใหม่ที่ช่วยลดการขยับตัว เพื่อให้เกิดการลดแรงเสียดทาน และลดการสูญเสียพลังงานจากการเผาไหม้ได้ดีที่สุด

 

ออกแบบให้มีสายพานเครื่องใหม่แบบเส้นเดียว ทำหน้าที่ขับเคลื่อนระบบระบายความร้อน ระบบปรับอากาศ ระบบไฟชาร์จ มาพร้อมระบบปรับตั้งความตึงสายพานอัตโนมัติ มีการติดตั้ง Oil Galler- ies ใหม่ บริเวณช่องกักเก็บน้ำมันเครื่องบริเวณเสื้อสูบชุบแข็ง ด้วยระบบเหนี่ยวนำด้วยคลื่นความถี่สูง Roller Rocker Arm และ Timing Gear เพื่อให้ส่งน้ำ มันเครื่องไปหล่อลื่นชิ้นส่วนต่างๆ ได้อย่างรวดเร็วขึ้น

 

ระบบชาร์จไฟแบตเตอรี่แบบตัดการทำงานอัตโนมัติ ระบบฉีดจ่ายน้ำมันเชื้อเพลิงแบบ Multi-Injection พร้อมโปรแกรมการฉีดน้ำมันแบบใหม่ ห้องเผาไหม้ใหม่แบบโคลธอยด์-เคิร์ฟ (Clothoid Curve) ใช้ระบบอัดอากาศเทอร์โบแปรผัน (VGS Turbo) แบบ Zero Gap และท่อไอดีใหม่แบบ Free Flow ที่ช่วยให้อากาศไหลเข้าห้องเผาไหม้ได้ดีขึ้น โดยมีอินเตอร์คูลเลอร์ขนาดใหญ่ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการระบายความร้อน ไปจนถึงท่อร่วมไอเสียที่ใช้วัสดุพิเศษ เพิ่มส่วนผสมของสารโมลิบดีนัม ซึ่งทนความร้อนได้สูงกว่าปกติ

 

นอกจากนี้ยังออกแบบให้ทนทานเพื่อรองรับการใช้งานหนักได้อย่างเต็มประสิทธิภาพ จากชุดขับเคลื่อนเพลา ลูกเบี้ยวด้วยเฟืองและโซ่ ที่ไม่ต้องบำรุงรักษาตลอดอายุการใช้งาน ระบบหล่อเย็นน้ำ มันเครื่องที่เสื้อสูบ ออกแบบสำหรับงานหนักต่อเนื่อง ตลอดจนระบบโพรงน้ำ ระบายความร้อนแบบแยกเฉพาะกระบอกสูบซึ่งทำ ให้ค่าบำรุงรักษาน้อยลงด้วย

 

ซึ่งด้วยเทคโนโลยีใหม่ดังกล่าว ได้ทำให้ISUZU 1.9Ddi BLUE POWER มีประสิทธิภาพแรงม้าเพิ่มขึ้น 10% แรงบิดเพิ่มขึ้น 9% มีความประหยัดน้ำ มันมากขึ้น 19% และปล่อยค่าคาร์บอนไดออกไซด์ในระดับต่ำ ลงถึง 21% รวมถึงสามารถทำ ความเร็วได้มากกว่าเครื่องยนต์เดิมถึง 8%

 

THE BEST CSR PROJECT OF THE YEAR / “ISUZU GIVES WATER…FOR LIFE” PROJECT
อีกสิ่งหนึ่งที่ทำให้เกิดความไว้วางใจจากผู้บริโภคชาวไทย ก็คือสำนึกความรับผิดชอบที่มีต่อสังคม โดยมีโครงการ CSR (Corporate Social Responsibility) เป็นแนวทางหลัก ล่าสุดกับโครงการ “อีซุซุให้น้ำ …เพื่อชีวิต” โครงการที่ ให้ความช่วยเหลือโรงเรียนในจังหวัดต่างๆ ที่ประสบปัญหาเรื่องน้ำสะอาด ไม่ว่าจะเป็นการขาดแคลนน้ำ หรือการมีน้ำที่ปนเปื้อนสาร โดยโครงการนี้จะเป็นการจัดสร้างระบบน้ำดื่มสะอาดแบบครบวงจร ให้กับโรงเรียนต่างๆ ทั่วประเทศ สนับสนุนทั้งด้านกำลังทรัพย์และการส่งทีมสนับสนุนลงพื้นที่ร่วมสำรวจ พร้อมเจ้าหน้าที่ระดับปฏิบัติการของ กรมทรัพยากรน้ำบาดาล เพื่อวางแผนติดตั้งชุดอุปกรณ์ขุดเจาะน้ำบาดาลและจัดสร้างอาคารผลิตน้ำดื่ม พร้อมทั้งดำเนินการปรับปรุง สภาพภูมิทัศน์โดยรอบเพื่อให้ถูกสุขลักษณะ

 

ตั้งแต่ปี 2015 จนมาถึงปีล่าสุด 2018 ได้จัดสร้างไปแล้ว 28 โรงเรียน โดยโรงเรียนล่าสุดคือ โรงเรียนบ้านนาทามอำเภอดอนตาล จังหวัดมุกดาหาร

 

อีกทั้งยังได้รับรางวัลระดับนานาชาติ “ผู้ประกอบธุรกิจที่รับผิดชอบต่อสังคมดีเด่นแห่งเอเชีย 2014” (Asia ResponsibleEntrepreneurship Awards 2014) สาขาการส่งเสริมสุขภาพ (Health Promotion) เมื่อปี2557 ณ ประเทศสิงคโปร์, รางวัล “The GreatAwards” สาขา “ภาพยนตร์โฆษณาที่สุดแห่งปี” ในงาน “Daradaily the Great Awardsครั้งที่ 4” โดยภาพยนตร์โฆษณาของโครงการ “อีซูซุ…ให้น้ำ เพื่อชีวิต” ได้รับคะแนนโหวตสูงสุดจากประชาชนชาวไทยทั่วประเทศ รวมถึงรางวัล “โครงการเพื่อสังคมยอดเยี่ยมแห่งปี2559” จากงานประกาศรางวัล “THAILAND TOP COMPANY AWARDS 2016” จัดโดยนิตยสาร Business+ อีกด้วยเช่นกัน และรวมถึงรางวัล “ความดีตอบแทนคุณแผ่นดิน” จากมูลนิธิเพื่อสังคมไทย

 

ด้วยมาตรฐาน หลักเกณฑ์ และคณะกรรมการในการตัดสินรางวัลในงาน Car of The Year 2018 ทำให้ตัวรางวัลนั้นมีความเหมาะสมน่าเชื่อถือ ไม่เพียงแต่สร้างกำลังใจในการทำงานให้กับบริษัทผู้ผลิตรถยนต์ ยังเพิ่มเติมและตอกย้ำให้เกิดความเชื่อมั่นของผู้บริโภค ที่มีต่อผลิตภัณฑ์รถยนต์ทุกรุ่นที่ได้รางวัล ส่งผลดีต่อเศรษฐกิจ และสร้างมาตรฐานในการแข่งขันเพื่อพัฒนารถยนต์ที่มีคุณภาพยอดเยี่ยมออกมาให้กับผู้บริโภคได้เป็นทางเลือกตลอดไป…

Leave A Reply

Your email address will not be published.

เราใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของคุณ คุณสามารถศึกษารายละเอียดได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และสามารถจัดการความเป็นส่วนตัวเองได้ของคุณได้เองโดยคลิกที่ ตั้งค่า

Privacy Preferences

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

Allow All
Manage Consent Preferences
  • คุกกี้ที่จำเป็น
    Always Active

    ประเภทของคุกกี้มีความจำเป็นสำหรับการทำงานของเว็บไซต์ เพื่อให้คุณสามารถใช้ได้อย่างเป็นปกติ และเข้าชมเว็บไซต์ คุณไม่สามารถปิดการทำงานของคุกกี้นี้ในระบบเว็บไซต์ของเราได้

  • คุกกี้เพื่อการวิเคราะห์

    คุกกี้ประเภทนี้จะทำการเก็บข้อมูลการใช้งานเว็บไซต์ของคุณ เพื่อเป็นประโยชน์ในการวัดผล ปรับปรุง และพัฒนาประสบการณ์ที่ดีในการใช้งานเว็บไซต์ ถ้าหากท่านไม่ยินยอมให้เราใช้คุกกี้นี้ เราจะไม่สามารถวัดผล ปรับปรุงและพัฒนาเว็บไซต์ได้
    Cookies Details

Save