ผจญภัยไปกับ Isuzu Suphan V-Cross Max ตะลุยป่าโลกล้านปีที่ลาวใต้

0

ทรัพยากรทางด้านการท่องเที่ยวของลาวใต้นั้น มีอยู่ค่อนข้างมาก ทั้งสถานที่ทางธรรมชาติอันงดงามและบริสุทธิ์ วิถีชีวิต ประเพณีและวัฒนธรรมของผู้คน ทั้งหลายทั้งมวลล้วนตั้งอยู่บนความเรียบง่าย ใสซื่อ และบริสุทธิ์ กลายเป็นเสน่ห์และเป็นจุดขายสำคัญของลาวใต้ไปโดยปริยาย และไฮไลท์ประจำปีนี้ ที่ส่งให้ชื่อของลาวใต้กลับมาคึกคักอีกครั้ง นั่นก็คือ น้ำตกแซป่องไล ที่ตั้งอยู่บนที่ราบสูงโบโลเวน หรือดินแดนภูเขาไฟ ในเขตอัตตปือ ที่ว่ากันว่าสวยงามมากที่สุดของลาวใต้ และเพิ่งเปิดตัวสู่สายตาชาวโลกเมื่อไม่นานมานี้เอง

ด้วยมูลเหตุแห่งความงดงามทางธรรมชาติ ศิลปะ วัฒนธรรมที่มีอัตลักษณ์เฉพาะตัวดังกล่าว ส่งผลให้ทาง บริษัท อีซูซุอึ้งง่วนไต๋สุพรรณ จำกัด ที่นำโดยทาง ประสิทธิ์ ดีศิลปกิจ กรรมการผู้จัดการ จึงได้จัดงานคาราวาน Isuzu Suphan V-Cross Max พาลูกค้าผู้ใช้รถ Isuzu D-Max และ V-Cross Max 4×4 ใหม่ รวมทั้ง Isuzu Mu-X ไปร่วมผจญภัยตะลุยป่าโลกล้านปีที่ลาวใต้ โดยจะเข้าไปพักแรมแบบแคมปิ้งใช้ชีวิตกลางไพรพฤกษ์ในวงล้อมแห่งธรรมชาติและขุนเขา ที่น้ำตกแซพะและน้ำตกแซป่องไล สถานที่ท่องเที่ยวใหม่แกะกล่องของลาวใต้ พร้อมๆ กันนี้ก็ร่วมสัมผัสสมรรถนะอันยอดเยี่ยมของ Isuzu Mu-X และ D-Max V-Cross Max 4×4 รุ่นใหม่แกะกล่อง ที่เพิ่งเปิดตัวเฉลิมฉลองในวาระครบรอบ 60 ปีของอีซูซุในประเทศไทยอีกด้วย

Isuzu D-Max V-Cross Max 4×4 ได้ชื่อว่าเป็นสปอร์ตออฟโรด ซึ่งเปิดตัวเมื่อปลายปี พ.ศ.2558 และได้รับกระแสตอบรับที่เกินความคาดหมายจากผู้ใช้รถ เพื่อตอบรับกับความนิยมของผู้ใช้รถในเมืองไทย “อีซูซุ ดีแมคซ์ บลูเพาเวอร์” จึงได้มีการพัฒนาสุดยอดสปอร์ต ออฟโรดแนวคิดใหม่ “ใหม่สุด! อีซูซุ ดีแมคซ์ V-Cross Max 4×4 ที่สมบูรณ์แบบด้วยขุมพลังบลูเพาเวอร์ และรูปลักษณ์ที่ปรับโฉมใหม่ทั้งภายนอกและภายใน สปอร์ตเหนือชั้น เท่ ดุดันมากขึ้นกว่าเดิม พร้อมความสะดวกสบายหรูหราของห้องโดยสารใหม่ ผสานสุดยอดสมรรถนะของรถออฟโรดที่พร้อมลุย ตอบโจทย์คนรุ่นใหม่ที่ชอบชีวิตอิสระ ไร้ขีดจำกัด เพื่อเป็นรถธงของอีซูซุดีแมคซ์ และให้เข้าถึงกลุ่มลูกค้าใหม่ที่ชื่นชอบการผจญภัย

สำหรับกำหนดคาราวานครั้งนี้ ทางอีซูซุอึ้งง่วนไต๋สุพรรณปักหมุดเอาไว้ในช่วงปลายปีนี้ คือ วันที่ 21-24 ธันวาคม 2560 ด้วยจำนวนรถทั้งหมด 22 คัน ผสมผสานระหว่าง Isuzu D-Max V- Cross Max 4×4 และ Mu-X โดยรถทั้งหมดออกเดินทางมาจากโชว์รูมอีซูซุอึ้งง่วนไต๋สุพรรณฯ ไปรวมตัวกันในช่วงเย็นของวันพฤหัสบดีที่ 21 ธันวาคม 2560 ที่โรงแรมพีรดา ริเวอร์วิว รีสอร์ท โขงเจียม จ.อุบลราชธานี เพื่อร่วมงานเลี้ยงต้อนรับท่ามกลางอากาศที่หนาวเย็นริมแม่น้ำโขง ก่อนที่ช่วงเช้าจะเดินทางไปท่องเที่ยวต่อที่วัดภูพร้าว หรือ วัดสิรินธรวรารามภูพร้าว ที่ตั้งอยู่บนยอดเขาสูง ใกล้กับด่านข้ามพรมแดน โดยวัดภูพร้าวเป็นหนึ่งในแหล่งท่องเที่ยวสำคัญของอุบลราชธานี โดยเฉพาะจิตรกรรมฝาผนังที่จำลองต้นกัลปพฤกษ์บริเวณด้านหลังของพระอุโบสถจะเรืองแสงยามเย็นสวยงามน่าอัศจรรย์อย่างยิ่ง

 

จากนั้นขบวนทั้งหมดก็เดินทางต่อมายัง อบต.ช่องเม็ก อ.สิรินธร โดยมีทีมงาน KC Indochina Tour ให้การต้อนรับอยู่ก่อนแล้ว และค่อยๆ เคลื่อนตัวเข้าสู่ช่องเม็ก ด่านข้ามพรมแดนเพียงแห่งเดียวที่ไม่มีแม่น้ำโขงขวางกั้นระหว่างไทย-ลาว หลังจากผ่านด่านตรวจคนเข้าเมืองช่องเม็กก็ออกเดินทางผ่านเมืองโพนทอง และใช้เวลาไม่ถึงชั่วโมงก็เดินทางถึงเมืองปากเซ โดยมีด่านจ่ายค่าธรรมเนียมตั้งอยู่ก่อนสะพานลาว-ญี่ปุ่น ที่ทอดยาวข้ามแม่น้ำโขง ซึ่งสมัยก่อนที่ยังไม่มีสะพาน ก็ต้องอาศัยข้ามแพขนานยนต์ จากนั้นขบวน Isuzu Suphan V-Cross Max ก็เดินทางต่อสู่ที่ราบสูงโบโลเวนของเมืองปากซอง ซึ่งอยู่ห่างจากปากเซไปราว 50 กิโลเมตร เพื่อแวะทานอาหารกลางวันที่ สบายดี วัลเล่

เมืองปากซองเป็นเมืองเล็กๆ แต่ก็ตั้งอยู่บนที่ราบสูงโบโลเวน สูงจากระดับน้ำทะเลประมาณ 1,300 เมตร พื้นที่แห่งนี้เคยเป็นปากป่องภูเขาไฟในอดีต จึงมีอากาศที่หนาวเย็นตลอดทั้งปี ปากซองเป็นเมืองท่องเที่ยวที่สำคัญของลาวใต้ มีน้ำตกเกือบตลอดปี เป็นเมืองที่ปลูกกาแฟเยอะมาก ที่มีชื่อเสียงที่สุดก็คือ “ดาวคอฟฟี่” ของกลุ่มบริษัทดาวเฮือง

หลังทานอาหารกลางวันเรียบร้อย ก็ออกเดินทางสู่ที่หมายต่อไปอีกครั้ง นั่นก็คือ การไปร่วมกันมอบอุปกรณ์การเรียนการสอน อุปกรณ์กีฬา และทุนอาหารกลางวันให้กับ เด็กๆ นักเรียนที่โรงเรียนทองวา ซึ่งตั้งอยู่ที่บ้านหลักห้าหรือบ้านหนองหลวง ในเขตเมืองปากซอง โดยมีนักเรียนและคณะครูให้การต้อนรับอย่างอบอุ่น หลังทุกคันอิ่มเอมใจกับการร่วมกันมอบสิ่งของและทุนอาหารกลางวันให้กับเด็กๆ แล้ว ก็เคลื่อนขบวนต่อไปยังน้ำตกแซพะ ที่อยู่ห่างจากบ้านหลักห้าไปราว 50 กิโลเมตร โดยใช้เส้นทางเดียวกับทางไปเมืองประทุมพร ขับมาได้ราว 20 กิโลเมตร เลี้ยวซ้ายต่อไปยังเมืองสนามไชย เส้นทางช่วงแรกเป็นทางลาดยาง จากนั้นเป็นทางลูกรังบดอัดแน่นตลอด บางช่วงอยู่ในระหว่างการก่อสร้างทางจึงเต็มไปด้วยฝุ่นที่ค่อนข้างหนาราวกับการขับผ่านเมืองในหมอก สลับกับการขับข้ามลำห้วยทั้งหมด 3 ห้วย ได้ออกกำลังเกียร์กันพอหอมปากหอมคอ

ราวชั่วโมงเศษๆ ขบวนก็ผ่าทะเลฝุ่นเข้าสู่เขตป่าป้องกันแหล่งน้ำเซเปี่ยน ที่ตั้งของน้ำตกแซพะ ในเขตสัมปทานของนักธุรกิจชาวปากเซ ที่เข้ามาพัฒนาพื้นที่ให้เป็นแหล่งท่องเที่ยวแห่งใหม่ของลาว ซึ่งปัจจุบันนี้มีนักท่องเที่ยวรู้จักกันน้อยมาก ทั้งๆ ที่เขตป่าป้องกันแหล่งน้ำเซเปี่ยน เป็นจุดที่มีธรรมชาติสมบูรณ์และบริสุทธิ์มาก ปกคลุมด้วยเรือนไม้ใหญ่ เงียบสงบ สวยงาม เหมาะสำหรับการพักแรมกลางวงล้อมแห่งธรรมชาติ ตัวน้ำตกแซพะจะอยู่บริเวณตอนล่างของจุดพักแรม

แต่ไฮไลท์จริงๆ ของที่นี่ก็คือ น้ำตกแซป่องไล ที่อยู่ห่างจากจุดพักแรมไปราว 6 กิโลเมตร ความยิ่งใหญ่และอลังการของน้ำตกแห่งนี้ สร้างความตื่นตะลึงให้กับคณะของ Isuzu Suphan V-Cross Max เป็นอย่างมาก แม้ในช่วงดังกล่าวนี้ น้ำจะลดน้อยลงไปพอสมควร แต่ความสวยงามและลีลาของ สายน้ำที่ไหลกระโจนลงมาตามธารลาวาเก่าที่มีลักษณะเป็นรูปสามเหลี่ยมมุมป้านแผ่กระจายเต็มแผ่นผา มีความกว้างมากกว่า 60 เมตร คะเนจากสายตาความสูงของน้ำตกไม่น่าจะต่ำกว่า 20 เมตร แต่ชั้นด้านขวาสุดน่าจะสูงเกือบๆ 30 เมตร สวยงามลงตัวราวกับสวรรค์ปั้นแต่ง บางคนถึงขนาดบอกว่า มันน่าจะเป็นน้ำตกที่สวยที่สุดในลาวเท่าที่เคยเห็นมา

คณะโปกมือลาน้ำตกเซป่องไล ย้อนกลับมายังน้ำตกแซพะ เพื่อจัดเตรียมสถานที่ตั้งเต็นท์พักแรม และทานอาหารเย็นร่วมกันท่ามกลางบรรยากาศที่โอบล้อมด้วยขุนเขาและสายน้ำ ถือเป็นจุดพักแรมที่สวยงามและเงียบสงบ อยู่ติดกับน้ำตกแซพะที่มีความสวยงามไม่ยิ่งหย่อนไปกว่าแซป่องไลมากนัก

จากนั้นในช่วงเช้าก็เดินทางย้อนกลับมาเส้นทางทางเดิม และแวะชิมกาแฟสดที่บ้านหนองหลวง ของ ผู้ใหญ่คำสุข แก้วบัวพา ที่ยืนรอขบวนอยู่ก่อนแล้ว โดยผู้ใหญ่คำสุขได้ช่วยประสานงานกับอำเภอและแขวง ในการขออนุญาตในการเข้าพื้นที่และกางเต็นท์พักแรมที่น้ำตกแซพะ หลังร่ำลาบ้านหลักสองแล้ว ก็ขับรถตามกันมาเป็นขบวนก็ไปเที่ยวชมไร่กาแฟปากซองไอส์แลนด์ ก่อนจะเดินทางต่อไปทานกลางวันกันที่น้ำตกผาส้วม น้ำตกที่สวยงามอีกแห่งหนึ่งของลาวใต้ ที่ใครมาเที่ยวจำปาสักแล้วต้องแวะมาเที่ยวชมและทานอาหารที่นี่ “ส้วม” ตามความหมายของลาว ก็คือ “ห้องหอ” ของคู่บ่าวสาว น้ำตกแห่งนี้มีธรรมชาติที่ร่มเย็นและงดงามตามธรรมชาติ

ส่วนในช่วงบ่ายของวันเสาร์ที่ 23 ธันวาคม 2560 ด้วยการขับรถย้อนกลับไปทางเมืองปากซองอีกครั้ง เพื่อเที่ยวชมน้ำตกตาดฟานที่หมายต่อมา ตาดฟานเป็นน้ำตกขนาดใหญ่และสูงมาก เป็นสถานที่ถ่ายทำจูราสิค พาร์ค ภาคแรก มีอากาศเย็นตลอดปี ปัจจุบันมีบริการโหนสลิง หรือ Zipline ชมน้ำตก นักท่องเที่ยวท่านใดสนใจ สนนราคาก็อยู่ที่ 1,400.-บาท ใช้เวลาประมาณ 40นาที

ขบวนคาราวาน Isuzu Suphan V-Cross Max ก็ตั้งขบวนย้อนกลับมาเข้าพักที่โรงแรมจำปาสักแกรนด์ ซึ่งตั้งอยู่ติดกับสะพานลาว-ญี่ปุ่นริมแม่น้ำโขง เพื่อเข้าพักแรมและร่วมงานเลี้ยงและพิธีบายศรี ท่ามกลางบรรยากาศอันอบอุ่นและสนุกสนาน
ก่อนปิดท้ายทริปนี้ด้วยการเดินทางไปยือน ปราสาทวัดพู โบราณสถานที่สำคัญอีกแห่งหนึ่งในลาวใต้ และยูเนสโก้ได้บรรจุเป็นมรดกโลกแห่งที่สองของประเทศลาว เป็นโบสถ์พราหมณ์ที่สร้างถวายพระศิวะ ตั้งอยู่บนเนินเขาภู หรือเรียกกันว่าภูควาย ห่างจากตัวเมืองเก่าจำปาศักดิ์ประมาณ 6 กิโลเมตร ลักษณะของปราสาทเป็นเทวสถานขอม คล้ายกับเขาพระวิหาร สร้างในราวพุทธศตวรรษที่ 12 ในสมัยของพระเจ้ามเหนทรวรมัน ถือว่าเป็นปราสาทหินที่มีอายุเก่าแก่ที่สุด

ขบวนทั้งหมดของคาราวาน Isuzu Suphan V-Cross Max ตะลุยป่าโลกล้านปีที่ลาวใต้ เริ่มทะยอยเดินทางกลับสู่ไทยในช่วงบ่ายแก่ๆ ของวันที่ 24 ธันวาคม 2560 หลังเก็บความประทับใจและประสบการณ์แห่งความสุขกลับมาตุภูมิเต็มกระเป๋า

 

Leave A Reply

Your email address will not be published.

เราใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของคุณ คุณสามารถศึกษารายละเอียดได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และสามารถจัดการความเป็นส่วนตัวเองได้ของคุณได้เองโดยคลิกที่ ตั้งค่า

Privacy Preferences

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

Allow All
Manage Consent Preferences
  • คุกกี้ที่จำเป็น
    Always Active

    ประเภทของคุกกี้มีความจำเป็นสำหรับการทำงานของเว็บไซต์ เพื่อให้คุณสามารถใช้ได้อย่างเป็นปกติ และเข้าชมเว็บไซต์ คุณไม่สามารถปิดการทำงานของคุกกี้นี้ในระบบเว็บไซต์ของเราได้

  • คุกกี้เพื่อการวิเคราะห์

    คุกกี้ประเภทนี้จะทำการเก็บข้อมูลการใช้งานเว็บไซต์ของคุณ เพื่อเป็นประโยชน์ในการวัดผล ปรับปรุง และพัฒนาประสบการณ์ที่ดีในการใช้งานเว็บไซต์ ถ้าหากท่านไม่ยินยอมให้เราใช้คุกกี้นี้ เราจะไม่สามารถวัดผล ปรับปรุงและพัฒนาเว็บไซต์ได้
    Cookies Details

Save