WAYMO ใช้เทคโนโลยีขับขี่อัตโนมัติในรถยนต์จริง
Waymo บริษัทเทคโนโลยีขับขี่อัตโนมัติซึ่งก่อตั้งโดย Google ได้เปิดตัวชุดฮาร์ดแวร์และซอฟต์แวร์ Driver เวอร์ชั่นล่าสุดซึ่งเป็นเจนเนอเรชั่นที่ 5 ที่มีพื้นฐานการทำงานที่สามารถเดินทางได้โดยไม่ต้องการการใส่ข้อมูลจากคน
ชุดเทคโนโลยีขับขี่อัตโนมัติเจนเนอเรชั่นที่ 5 ของ Waymo เป็นการปรับการออกแบบใหม่อย่างสมบูรณ์หลังจากการขับขี่ด้วยตนเองบนถนนสาธารณะ 20 ล้านไมล์ และในซิมูเลชั่นมากกว่า 1 หมื่นล้านไมล์ จึงทำให้เป็นแพ็กเกจการทำงานที่ไม่เพียงมีพลังและความสามารถมากขึ้นกว่ารุ่นก่อนหน้าเท่านั้น แต่ยังยังมีราคาเพียงครึ่งหนึ่งของแพ็กเกจการทำงานเจนเนอเรชั่นก่อนหน้าด้วย
โดยแพ็กเกจของระบบขับขี่อัตโนมัติใหม่จาก Waymo ประกอบด้วยเซ็นเซอร์ Lidar ใหม่หลายตัว ที่สร้างระบบ 360 องศาและภาพของสิ่งที่อยู่รอบรถ ซึ่งด้วยการใช้ Lidar นี้ระบบจะสามารถวัดขนาดและระยะของวัตถุรอบรถที่อยู่ห่างออกไปถึง 300 เมตรได้ จึงเพิ่มความละเอียดและแม่นยำขึ้นในด้านตำแหน่งเมื่อเทียบกับรุ่นก่อน นอกจากนี้ Lidar ใหม่จะทำงานร่วมกับกล้องซึ่งแน่นอนว่าสามารถจับรายละเอียดและภาพที่คมชัดขึ้นกว่าก่อนหน้าแม้ในสถานกาารณ์การขับที่ยุ่งยาก โดยการทำงานร่วมกันของทั้ง Lidar และกล้องใหม่ยังทำให้รถของ Waymo สามารถแยกแยะสิ่งต่างๆ อย่างคนเดินถนน และสัญญาณหยุดรถที่อยู่ห่างไป 500 เมตรได้
แพ็กเกจขับขี่อัตโนมัติล่าสุดของ Waymo ยังรวมไปถึงเซ็นเซอร์เรดาร์เจนเนอเรชั่นล่าสุดที่สามารถตรวจจับและวัดความเร็วของวัตถุได้ทันทีแม้ในสภาพอากาศที่ไม่ดีอย่างเช่นมีหมอก ฝนตก หรือ หิมะตกเพื่อให้ภาพรอบตัวรถตลอดเวลา
จากข้อมูลของ Waymo เกี่ยวกับชุดเทคโนโลยีขับขี่อัตโนมัติเจนเนอเรชั่น 5 หมายความว่า Waymo เป็นผู้พัฒนาระบบขับขี่อัตโนมัติรายแรกของโลกที่สร้างระบบเรดาร์สร้างภาพสำหรับการขับขี่อัตโนมัติที่ให้ประสิทธิภาพสูงที่สุดทั้งด้านความละเอียด ระยะ และมุมมองของภาพ โดยรถทดสอบแรกที่จะใช้ชุดเซ็นเซอร์และซอฟต์แวร์ของ Waymo คือรถไฟฟ้า Jaguar i-Pace ซึ่งเมื่อติดตั้งอุปกรณ์กับรถแล้วยังมีพื้นที่เก็บของด้านหลังสำหรับอุปกรณ์ต่างๆ ด้วย
Comments are closed, but trackbacks and pingbacks are open.