Volkswagen Golf R แปลงโฉมเป็นออฟโรดตัวดุ ผลงานจาก Delta 4×4
ด้วยความนิยมในรถเอสยูวีจึงทำให้ Volkswagen มีรถประเภทนี้หลากหลายรุ่นให้เลือกในปัจจุบัน ส่งผลให้ Golf Country รถแฮทช์แบ็กในสไตล์ออฟโรดที่ทางผู้ผลิตรถเยอรมนีรายนี้เคยร่วมมือกับ Steyr-Daimler-Puch ในออสเตรียทำออกมาตอนรุ่น Mk2 แล้วยุติการผลิตไปเมื่อปี 1989 ไม่มีโอกาสกลับมาสู่ตลาดอีก แต่ก็ไม่สามารถหยุดไม่ให้สำนักแต่งรถออฟโรด Delta 4×4 ในเยอรมนีมีแนวคิดทำแฮทช์แบ็กตัวแรงในสไตล์ลุยออฟโรดออกมา
Delta 4×4นำเสนอแนวคิด Volkswagen Golf Rที่มาพร้อมกับระบบขับเคลื่อนด้วยทุกล้อของรถ 4Motion และเครื่องยนต์สมรรถนะสูงมีกำลัง 319-333 แรงม้าขึ้นอยู่กับรุ่นย่อยมาแปลงเป็นรถออฟโรดสำหรับลุยเส้นทางวิบาก โดยใช้ชุดเพิ่มความสูงของรถเพิ่มขึ้นจากรถมาตรฐาน 80 มม. ส่วผลให้รถแฮทช์แบ็กตัวแรงมีใต้ท้องรถสูงจากพื้นไม่น้อยหน้ารถเอสยูวีส่วนใหญ่ และช่วงล่างที่เพิ่มความสูงยังส่งผลให้รถสามารถรับมือกับการลุยบนเส้นทางทุรกันดารต่างๆ ได้
ส่วนอุปกรณ์อื่นที่มาพร้อมกับรถแฮทช์แบ็กสำหรับลุยออฟโรดยังมีล้อ Hanma ขนาด 18 นิ้วพร้อมยางออล-เทอร์เรนเพื่อช่วยในการยึดเกาะถนนบนเส้นทางต่างๆ รวมทั้งติดชุดแต่งซุ้มล้อเพื่อให้ครอบคลุมความกว้างของล้อที่มากขึ้นทั้งด้านหน้าและด้านหลังของรถ นอกจากนี้ทาง Delta 4×4 ยังติดไฟ LED ของ PIAA เข้าไปที่ฝากระโปรงหน้าของรถ 5 ดวง และติดรูฟแร็กเหล็กกล้าที่หลังคารถสำหรับการบรรทุกสัมภาระต่างๆ เมื่อออกไปผจญภัย ส่วนด้านหลังของรถก็มีล้ออะไหล่ขนาดเท่าล้อจริง โดยนอกจากความเปลี่ยนแปลงข้างต้นแล้ว ทางสำนักแต่งรถออฟโรดจากเยอรมนียังคงรักษาชุดแต่งเสริมแอโรไดนามิกอื่นๆ ที่มาพร้อมกับรถเอาไว้
อย่างไรก็ตามการเปลี่ยนรถแฮทช์แบ็กตัวแรงเป็นตัวลุยออฟโรดยังคงเป็นแค่ภาพรถจากการสร้างด้วยวิธีการดิจิตอลไม่ใช่ภาพรถจริง แต่ทาง Delta 4×4 ก็ระบุว่าหากมีความสนใจมากพอก็อาจมีการทำรถจริงออกมาในแบบจำกัด 25 คัน โดยค่าใช้จ่ายสำหรับการแปลงรถจะอยู่ที่ประมาณ 35,000 ยูโร ไม่รวมราคารถที่นำมาแปลง และใช้เวลาในการทำรถประมาณ 6-9 เดือน
เรื่อง: กองบรรณาธิการ
เรียบเรียงข้อมูลโดย Off Road Magazine
ติดตามข่าวสาร ยานยนต์ รถใหม่ ได้ที่ https://offroadmag-thailand.grandprix.co.th/
Comments are closed, but trackbacks and pingbacks are open.