สัมผัสความมหัศจรรย์ของธรรมชาติป่าโลกล้านปี

อะไรคือ Unseen Asian Episode I

ความมหัศจรรย์ของแหล่งท่องเที่ยวทางธรรมชาติ ศิลปะ วัฒนธรรมที่มีอัตลักษณ์เฉพาะถิ่น ในภูมิภาคอาเซียนของเรานั่นเอง และแน่นอนว่า ไฮไลท์ของคาราวานครั้งนี้ ก็คือ การเดินทางตามหาน้ำตกที่ว่ากันว่าสวยงามมากที่สุดของลาวใต้  ที่เพิ่งเปิดตัวสู่สายตาชาวโลกเมื่อไม่นานมานี้ นั่นก็คือ น้ำตกแซป่องไล ที่ตั้งอยู่บนที่ราบสูงโบโลเวน หรือดินแดนภูเขาไฟ ในเขตอัตตปือ แขวงจำปาสักของลาวใต้

การเดินทางครั้งนี้ถือว่า เป็นคาราวานรถออฟโรดที่มีจำนวนมากที่สุดที่เดินทางมาจากทั่วทุกภาคของประเทศไทย และเข้าไปพักแรมแบบแคมปิ้งกลางธรรมชาติในเขตป่าป้องกันแหล่งน้ำเซเปี่ยน ซึ่งตั้งอยู่ที่น้ำตกแซพะและน้ำตกแซป่องไล ซึ่งปกติการกางเต็นท์พักแรมในลาวนั้น ต้องขอเป็นกรณีพิเศษ และที่สำคัญทุกคันได้ร่วมกันผจญภัยแบบสุดขีด ด้วยการขับฝ่าสายน้ำลึกและเชี่ยวกรากจำนวน 3 แห่ง เพื่อไปรับโบนัสชิ้นใหญ่จากธรรมชาติที่ปลายทาง

ทรัพยากรทางด้านการท่องเที่ยวของลาวใต้ มีอยู่ค่อนข้างมาก ทั้งสถานที่ทางธรรมชาติอันงดงามและบริสุทธิ์ วิถีชีวิต ประเพณีและวัฒนธรรมของผู้คน ทั้งหลายทั้งมวลตั้งอยู่บนความเรียบง่าย ใสซื่อ และบริสุทธิ์ กลายเป็นเสน่ห์และเป็นจุดขายสำคัญของลาวลาวใต้ ไม่ว่าจะเป็น น้ำตกคอนพะเพ็ง น้ำตกหลี่ผี ปราสาทหินวัดพู น้ำตากตาดฟาน น้ำตกตาดเยือง น้ำตกผาส้วม และน้ำตกเซกะตาม ฯลฯ

ต้นเดือนมิถุนายน 2560 ที่ผ่านมา ทีมงานนิตยสารออฟโรด ในเครือ บริษัท กรังด์ปรีซ์ อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด (มหาชน) ได้จัด คาราวาน Unseen Asian Episode I หลังจากที่ทีมงานเคยเดินทางไปสำรวจมาแล้วครั้งหนึ่งเมื่อเดือนกุมภาพันธ์ และไม่น่าเชื่อว่า เปิดรับสมัครแค่ 2 วัน มีรถขอเข้าร่วมเดินทางมากกว่า 50  กว่าคัน จากชมรมออฟโรดทั่วประเทศ ไม่ว่าจะเป็นภาคใต้ จาก จ.สุราษฎร์ธานี,จ.ชุมพร และ จ.ประจวบคีรีขันธุ์ ภาคเหนือ จาก จ.ตาก, จ.พิษณุโลก ภาคอีสาน จาก จ.ขอนแก่น ภาคตะวันออกจาก จ.ชลบุรี จ.จันทบุรี จ.ระยอง จ.สระแก้ว และ จ.ชลบุรี นอกจากนั้นเป็นรถจากภาคกลาง ทั้งกรุงเทพมหานคร จ.ปทุมธานี จ.นนทบุรี จ.สมุทรสาคร และ จ.นครปฐม เป็นต้น ซึ่งส่วนใหญ่เป็นรถจากชมรมออฟโรดต่างๆ แทบทั้งสิ้น

รถทุกคันออกเดินทางมารวมตัวกันในช่วงเย็นของวันพฤหัสบดีที่ 1 มิถุนายน 2560 ที่โรงแรมอารยา รีสอร์ท โขงเจียม จ.อุบลราชธานี โดยมี ทีมงานของนิตยสารออฟโรด ทีมงาน KC Indochina Tour รวมทั้งอดีตแชมป์ประเทศไทยอย่าง มงคล จุลทัศน์ มาคอยให้การต้อนรับเหล่าสมาชิก โดยมารวมตัวกันที่ อบต.ช่องเม็ก อ.สิรินธร เพื่อจัดขบวนและออกเดินทางสู่ช่องเม็ก ด่านผ่านแดนเพียงแห่งเดียวที่ไม่มีแม่น้ำโขงขวางกั้นระหว่างไทย-ลาว หลังจากผ่านด่านตม.ช่องเม็กก็ออกเดินทางผ่านเมืองโพนทอง และใช้เวลาไม่ถึงชั่วโมงก็ถึงเมืองปากเซ โดยมีด่านจ่ายค่าธรรมเนียมตั้งอยู่ก่อนสะพานลาว-ญี่ปุ่น ที่ทอดยาวข้ามแม่น้ำโขง ซึ่งสมัยก่อนที่ยังไม่มีสะพาน ก็ต้องอาศัยข้ามแพขนานยนต์ จึงใช้เวลาค่อนข้างนานพอสมควร ขบวนของเราแวะพักขบวนที่โรงแรมจำปาสักแกรนด์ พร้อมกับจัดขบวนเป็น 2 ขบวน เพื่อสะดวกในการเดินทางไปยังเมืองปากซอง ซึ่งอยู่ห่างจากปากเซไปราว 50 กิโลเมตร และแวะทานอาหารกลางวันที่ สบายดี วัลเล่

พูดถึงเมืองปากซองแล้ว แม้จะเป็นเมืองเล็กๆ แต่ก็ตั้งอยู่บนที่ราบสูงโบโลเวน สูงจากระดับน้ำทะเลประมาณ 1,300 เมตร พื้นที่แห่งนี้เคยเป็นปากป่องภูเขาไฟในอดีต จึงมีอากาศที่หนาวเย็นตลอดทั้งปี ปากซองเป็นเมืองท่องเที่ยวที่สำคัญของลาวใต้ นอกจากจะมีน้ำตกมากมายแล้ว เป็นเมืองที่ปลูกกาแฟเยอะมาก ที่มีชื่อเสียงที่สุดก็คือ “ดาวคอฟฟี่” ของกลุ่มบริษัทดาวเฮือง

หลังทานอาหารกลางวันเรียบร้อย ก็ออกเดินทางสู่ที่หมายต่อไปอีกครั้ง และแบ่งเป็น 2 ขบวนเช่นเคย จากปากซอง ขวาไปยังบ้านหลักห้าหรือบ้านหนองหลวง เคลื่อนขบวนต่อไปยังน้ำตกแซพะ ที่อยู่ห่างจากบ้านหลักห้าไปราว 55 กิโลเมตร โดยใช้เส้นทางเดียวกับทางไปเมืองประทุมพร ขับมาได้ราว 20 กิโลเมตร เราเลี้ยวซ้ายต่อไปยังเมืองสนามไชย หากเลี้ยวขวาไปเมืองประทุมพร เส้นทางช่วงแรกเป็นทางลาดยาง จากนั้นเป็นทางลูกรังบดอัดแน่นตลอด บางช่วงอยู่ในระหว่างการก่อสร้างทาง และก่อนถึงน้ำตกแซพะก็ต้องข้ามลำห้วยทั้งหมด 3 ห้วย ได้ออกกำลังเกียร์กันพอหอมปากหอมคอ

ราวชั่วโมงเศษๆ ขบวนทั้งหมดก็ผ่าทะเลเข้าสู่เขตป่าป้องกันแหล่งน้ำเซเปี่ยน ที่ตั้งของน้ำตกแซระ ในเขตสัมปทานของนักธุรกิจชาวปากเซ ที่เข้ามาพัฒนาพื้นที่ให้เป็นแหล่งท่องเที่ยวแห่งใหม่ของลาว ซึ่งปัจจุบันนี้มีนักท่องเที่ยวรู้จักกันน้อยมาก ทั้งๆ ที่เขตป่าป้องกันแหล่งน้ำเซเปี่ยน เป็นจุดที่มีธรรมชาติสมบูรณ์และบริสุทธิ์มาก ปกคลุมด้วยเรือนไม้ใหญ่ เงียบสงบ สวยงาม เหมาะสำหรับการพักแรมกลางวงล้อมแห่งธรรมชาติ ตัวน้ำตกแซพะจะอยู่บริเวณตอนล่างของจุดพักแรม จะเดินหรือขับรถอ้อมเขาไปชมก็ได้

แต่ไฮไลท์จริงๆ ของที่นี่ก็คือ น้ำตกแซป่องไล ที่อยู่ห่างจากจุดพักแรมไปราว 2 กิโลเมตร ความยิ่งใหญ่และอลังการของน้ำตกแห่งนี้  สร้างความตื่นตะลึงให้กับผู้พบเห็นเป็นอย่างมาก

น้ำตกแซป่องไล หรือตาดป่องไลแห่งนี้ เป็นสถานที่ท่องเที่ยวใหม่แกะกล่องของลาวใต้ ไม่ปรากฏข้อมูลของน้ำตกแห่งนี้เท่าไรนัก เป็นน้ำตกขนาดใหญ่ สายน้ำที่ไหลกระโจนลงมาตามธารลาวาเก่าที่มีลักษณะเป็นรูปสามเหลี่ยมมุมป้านแผ่กระจายเต็มแผ่นผา มีความกว้างมากกว่า 60 เมตร คะเนจากสายตาความสูงของน้ำตกไม่น่าจะต่ำกว่า 20 เมตร แต่ชั้นด้านขวาสุดน่าจะสูงเกือบๆ 30 เมตร สวยงามลงตัวราวกับสวรรค์ปั้นแต่ง บางคนถึงขนาดบอกว่า มันน่าจะเป็นน้ำตกที่สวยที่สุดในลาวเท่าที่เคยเห็นมา

เราโปกมือลาน้ำตกเซป่องไล เดินทางย้อนกลับมายังน้ำตกแซพะ เพื่อจัดเตรียมสถานที่ตั้งเต็นท์พักแรม และทานอาหารเย็นร่วมกันท่ามกลางบรรยากาศที่โอบล้อมด้วยขุนเขาและสายน้ำ ถือเป็นจุดพักแรมที่สวยงามและเงียบสงบ อยู่ติดกับน้ำตกแซพะที่สวยงามไม่ยิ่งหย่อนไปกว่าแซป่องไลมากนัก

จากนั้นในช่วงเช้าก็เดินทางย้อนกลับมาเส้นทางทางเดิม และแวะชิมกาแฟสดที่บ้านหลักห้าหรือบ้านหนองหลวง ของ ผู้ใหญ่คำสุข แก้วบัวพา ที่ยืนรอขบวนอยู่ก่อนแล้ว โดยผู้ใหญ่คำสุขได้ช่วยประสานงานกับอำเภอและแขวง ในการขออนุญาตในการเข้าพื้นที่และกางเต็นท์พักแรมที่น้ำตกแวพะ หลังร่ำลาผู้ใหญ่คำสุข แก้วบัวพา ที่บ้านหลักสองแล้ว ก็ขับรถตามกันมาเป็นขบวนเพื่อทานกลางวันกันที่น้ำตกผาส้วม น้ำตกที่สวยงามอีกแห่งหนึ่งของลาวใต้ ที่ใครมาเที่ยวจำปาสักแล้วต้องแวะมาเที่ยวชมและทานอาหารที่นี่ “ส้วม” ตามความหมายของลาว ก็คือ “ห้องหอ” ของคู่บ่าวสาว น้ำตกแห่งนี้มีธรรมชาติที่ร่มเย็นและงดงามตามธรรมชาติ

จากนั้นในช่วงบ่ายของวันเสาร์ที่ 3 มิถุนายน 2560 ด้วยการขับกันยาวๆ เป็นการย่อยอาหารไปเที่ยวชมน้ำตกตาดเลาะ ที่ตั้งอยู่ห่างจากปากเวไปราว 80 กิโลเมตร น้ำตกตาดเลาะถือเป็นแหล่งท่องเที่ยวทางธรรมชาติที่สวยงามและอากาศบริสุทธิ์ ตามลำน้ำเซดเป็นแม่น้ำใสเย็นไหลผ่านสามตาดคือ ตาดเซด , ตาดเลาะ , และตาดรังผสมผสานกับต้นไม้ใหญ่ที่เขียวสด เลียบตามสองฟากฝั่งลำน้ำ และมีความสงบ เป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่งดงามอีกแห่งหนึ่งของลาวใต้

จากน้ำตกตาดเลาะ ขบวนคาราวาน Unseen Asian Episode I ก็ตั้งขบวนย้อนกลับมาเข้าพักที่โรงแรมจำปาสักแกรนด์ ซึ่งตั้งอยู่ติดกับสะพานลาว-ญี่ปุ่นริมแม่น้ำโขง เพื่อเข้าพักแรมและร่วมงานเลี้ยงและรับแจกของรางวัลจากผู้ให้การสนับสนุนมากมาย งานนี้สมาชิกรับของรางวัลติดไม้ติดมือกันถ้วนหน้า

ปิดท้ายทริปนี้ด้วยการเดินทางไปยือน ปราสาทวัดพู โบราณสถานที่สำคัญอีกแห่งหนึ่งในลาวใต้ และยูเนสโก้ได้บรรจุเป็นมรดกโลกแห่งที่สองของประเทศลาว เป็นโบสถ์พราหมณ์ที่สร้างถวายพระศิวะ ตั้งอยู่บนเนินเขาภู หรือเรียกกันว่าภูควาย ห่างจากตัวเมืองเก่าจำปาศักดิ์ประมาณ 6 กิโลเมตร ลักษณะของปราสาทเป็นเทวสถานขอม คล้ายกับเขาพระวิหาร สร้างในราวพุทธศตวรรษที่ 12 ในสมัยของพระเจ้ามเหนทรวรมัน ถือว่าเป็นปราสาทหินที่มีอายุเก่าแก่ที่สุด

ขบวนทั้งหมดของคาราวาน Unseen Asian Episode I เริ่มทะยอยเดินทางกลับสู่ไทยในช่วงบ่ายแก่ๆ ของวันที่ 4 มิถุนายน 2560 หลังเก็บความประทับใจและประสบการณ์แห่งความสุขกลับมาตุภูมิเต็มกระเป๋า

 

 

 

เรื่อง : จิตรกร ถาวร

เรียบเรียงข้อมูลโดย Off Road Magazine

ติดตามข่าวสาร ยานยนต์ รถจักรยานยนต์ รถใหม่ ได้ที่ Off Road Magazine