Twin Jeep JK “Crave to Brave”… By VVP. 4×4 Center จี๊ป แรงเลอร์ 2 รุ่น 2 สไตล์ “แต่งหล่อ เตรียมลุย”… ( Black JK พร้อมของแต่งรอบคัน )

การที่ใครสักคน มีความคิดที่จะทำการใหญ่ สิ่งสำคัญอันดับแรก ต้องมีจิตใจที่มุ่งมั่น ห้าวหาญ แน่วแน่ ไม่ยอมแพ้ต่ออุปสรรคที่รุมเร้า ดังตัวอย่างที่ทางเราจะนำเสนอในหน้าคอลัมน์นี้ ปิดท้ายปลายปี ด้วยขาลุยอเนกประสงค์จากค่าย Jeep แบรนด์เก่าแก่สไตล์อเมริกัน ที่ผลิตออกมาตั้งแต่ปี ค.ศ. 1941 จนได้รับความนิยมทั่วโลก ด้วยชื่อชั้น สมรรถนะ และความทนทานที่ถ่ายทอดเทคโนโลยีจากยุทธภัณฑ์ทางทหารที่ใช้ในสมัยสงคราม สืบสานคอนเซ็ปต์ความแกร่ง ลุยสนุก ขับมันส์ มาจนถึงยุคปัจจุบัน กับบอดี้ Jeep Wrangler JK ที่นำมาโชว์ให้มิตรรักได้ชมกัน 2 คัน 2 สไตล์ จากค่าย VVP. 4×4 Center ถ. ศรีนครินทร์ ที่ผ่านการปรับปรุงบุคลิกรอบคันเพื่อเพิ่มประโยชน์ในการใช้งาน บวกกับความแข็งแกร่ง และความสวยงามของงานดีไซน์ ด้วยการใช้อุปกรณ์ตกแต่งตรงรุ่น มาพร้อมการเปลี่ยนแปลงในส่วนต่างๆ มากมาย ตบท้ายด้วยการปรับแต่งชุดช่วงล่างใหม่ เพิ่มขีดความสามารถในการใช้งาน ทั้งในทางเรียบ และทางอุปสรรค จาก Jeep เดิมๆ ที่เคยลุยมันส์อยู่แล้ว ก็ยิ่งสนุกเพิ่มขึ้นไปกันใหญ่…

Black JK พร้อมของแต่งรอบคัน

เริ่มที่คันสีดำ 4 ประตู Wrangler Sahara ที่เลือกใช้กันชนแต่งจาก ARB มาพร้อมสปอตไลท์ร่วมสังกัดในรุ่น Intensity โดยใช้หลอด Led ที่กินไฟน้อยกว่า อีก 1 คู่ ในกันชนติดตั้ง WARN Winch รุ่น ZEON 10S เพื่อการลากจูง ช่วยเหลือฉุกเฉิน ส่วนบริเวณแก้มข้างฝั่งคนขับ มีสนอร์เกิ้ล Safari ช่วยยืดช่องรับอากาศให้สูงขึ้น ลงน้ำได้ลึกกว่าเดิม นอกจากนี้ยังได้เพิ่มชุดส่องสว่างแบบ Lightbar LED และ สปอตไลท์ LED จาก Rigid Industry เข้าไปอีก 3 จุด บริเวณกระจกบังลมหน้า ส่วนกันชนหลังเป็นของ ARB ที่มาพร้อมขาจับแม่แรง Hi-Lift…

สำหรับการตกแต่งภายในห้องโดยสาร เพิ่มเติมในส่วนของสวิตช์ควบคุมสปอตไลท์ และ Lightbar LED และสวิตช์ควบคุมระบบ Air Locker ส่วนที่เหลือก็เป็นอุปกรณ์ ที่มีมาจากโรงงาน อาทิ ระบบปรับอากาศอัตโนมัติ เครื่องเล่นแบบ Single Disc พร้อมภาครับวิทยุ am-fm พวงมาลัยมัลติฟังชั่น ควบคุมเครื่องเล่น และเปิด-ปิด ระบบควบคุมความเร็ว (Cruise Control)…

ขุมพลังที่ติดตัวมาจากโรงงาน เป็นแบบคอมมอนเรลดีเซล (CRD) 4 สูบเรียง 16 วาล์ว วางตามยาว กับความจุ 2.8 ลิตร พร้อมเทอร์โบแปรผัน และอินเตอร์คูลเลอร์ ให้กำลังสูงสุด 197 แรงม้าที่ 3,600 รอบ/นาที กับแรงบิดต่อเนื่องแบบ Flat Torque ที่ 460 นิวตัน-เมตร ตั้งแต่ 1,600 ต่อเนื่องจนถึง 2,600 รอบ/นาที ส่งกำลังด้วยเกียร์อัตโนมัติ 5 สปีด ขับเคลื่อนสี่ล้อแบบ Full-Time พร้อมระบบ Command-Trac ช่วยควบคุมเสถียรภาพการขับขี่ในทุกสภาพเส้นทาง…

เพิ่มความสูง 6 นิ้ว ด้วยชุด Flexarm Kit จาก Teraflex

ระบบช่วงล่างเป็นแบบคานแข็ง 4 Links ถูกเพิ่มความสูงในระดับ 6 นิ้ว ด้วยชุดแต่ง Long Arm จาก Teraflex พร้อมเพลาขับหน้า-หลังที่เปลี่ยนใหม่ทั้งชุด เสริมทีเด็ดในการปีนป่ายด้วยระบบ Air Locket  จาก ARB ในเพลาหน้า เสริมกันสะบัด Fox สำหรับโช้คอัพใช้ของ King แบบซับแทงค์ คู่กับคอยล์สปริง Teraflex ทั้ง 4 ล้อ มาพร้อม Speed Bumps ช่วยซับแรงกระแทก ป้องกันโช้คอัพเสียหาย ระบบเบรกปรับปรุงใหม่ โดยเปลี่ยนมาใช้จานเบรก dba และสายน้ำมันเบรก Teraflex ที่ยาวกว่าเดิม ตามความสูงที่เพิ่มขึ้น สำหรับล้อที่ใช้เป็นของ Procomp ขนาด 20×10 สวมยาง BFGoodrich ขนาด 38×14.5R20…

ใส่ตาราง

รายละเอียดการตกแต่ง

-กันชนหน้า ARB, วินช์ Warn Zeon 10S

-สปอตไลท์ ARB , Lightbar Rigid

-สนอร์เกิ้ล Safari

-กันชนหลัง ARB

การปรับแต่งช่วงล่าง

-ชุดเพลา Teraflex

-ชุด Flex Arm Teraflex 6 นิ้ว

-โช้คอัพ King คอยล์สปริง Teraflex พร้อม Speed Bump ช่วยซับแรง

-ระบบล็อคเฟืองท้าย Air Locker จาก ARB

-จานเบรก dba พร้อมสายน้ำมันเบรก Teraflex

-ล้อ Procomp 20×10 ยาง BFGoodrich 38×14.5R20

 

เรียบเรียงข้อมูลโดย นิตยสาร ออฟโรด : www.grandprix.co.th/offroadmagazine
ติดตามข่าวสาร ยานยนต์  รถจักรยานยนต์ รถใหม่ ได้ที่ www.grandprix.co.th