หลายต่อหลายครั้งที่การเดินทางด้วยพาหนะที่สะดวกสบาย ทำให้การเดินทางนั้นไปถึงจุดหมายได้เร็วขึ้น แต่สิ่งที่ไม่มีในการเดินทางด้วย เครื่องบิน รถยนต์ รถไฟ คือ การได้สัมผัสบรรยากาศแห่ง สายลม อากาศ แสงแดด หรือกลิ่นไอจากธรรมชาติ ที่จะช่วยเพิ่มความสุขในการเดินทางมากขึ้นไปอีก ดังนั้น หากต้องการท่องเที่ยวที่ได้ครบทุกอัถรสอีกทั้งยังเป็นบทพิสูจน์ตัวเอง ลองเดินทางด้วยจักรยานกันดูครับ
“ถ้าใจไปถึง ตัวก็ไปถึง”
เรามารู้จักกับจักรยานที่ใช้ในการขี่ท่องเที่ยวระยะไกล เพราะมีการออกแบบที่ให้มีจุดยึดสำหรับใส่ตะแกรง ใส่กระเป๋ามากกว่าประเภทอื่น ยางและวงล้อไม่ใหญ่ ไม่เล็ก ผิวเรียบ หรืออาจจะใส่ยางสำหรับทางขรุขระก็ได้ ตัวเฟรมออกแบบมาให้มีระยะเอื้อมให้ปั่นสบาย ในบางรุ่นอาจมีจุดเปลี่ยนเกียร์ 2 ที่ ระบบเกียร์ส่วนมากจะใช้ของเสือภูเขา เพราะไม่ได้ใช้ความเร็วสูงหรือความลื่นไหลในการเปลี่ยนเกียร์ แฮนด์ จะเหมือนกับเสือหมอบหรือเสือภูเขา ส่วนเบรกจะใช้เป็นปั้มเบรกหรือวีเบรก นี่คือ ลักษณะเด่นๆ ของจักรยานทัวร์ริ่ง
ก่อนที่เราจะเดินทางได้นั้นเราจะต้องมีจักรยานกันเสียก่อน วิธีเลือกจักรยานสำหรับปั่นท่องเที่ยวระยะทางไกลนั้นไม่ยาก
– ข้อแรกเลยคือ ต้องตั้งงบประมาณในการซื้อ ซึ่งถ้าว่าเป็นตัวกำหนดที่เราจะรู้ว่าเราควรเลือกรถอะไร
– ต้องยอมรับกันก่อนว่าร่างกายคนเรานั้นไม่เท่ากัน จักรยานจึงไม่มีคันไหนเหมาะกับร่างกายเป๊ะๆ จะต้องมีการปรับเปลี่ยนอะไหล่บางส่วนให้เหมาะสมกับร่างกาย
– จักรยานทั่วร์ริ่งที่ใช้ปั่นกันในระยะทางหลักร้อยกิโลเมตรขึ้นไป สิ่งที่เราจะต้องได้จากจักรยานคือ การปั่นที่ผ่อนแรงเราที่สุด ไม่ว่าจะมาจากอะไหล่ส่วนไหนก็ตามของจักรยาน
– สิ่งสำคัญที่ลืมไม่ได้เลยคือ แร็คบรรทุกของซึ่งทำหน้าที่ตามชื่อของมัน ควรจะเลือกอุปกรณ์ชั้นดี โดยดูจากวัสดุและจุดเชื่อมต่อต่างๆ
– ล้อและยาง นั้นควรจะมีขนาดที่พอเหมาะ สำหรับการปั่นทางไกลนั้นควรใช้ล้อขนาด 26 นิ้ว เพราะควบคุมได้ง่าย หรือจะใช้ขนาด 700c ก็ได้แต่จะเป็นรองเรื่องความนิ่งในการปั่น
– เกียร์และโซ่ที่โดนมองข้ามกัน เมื่อก่อนระบบเกียร์มีแค่ 12 เกียร์ถือว่าหรูแล้ว แต่ในปัจจุบัน มีกันถึง 27 เกียร์ ทำให้โซ่และชุดเฟืองนั้นบางมากกว่าเดิม จึงทำให้เกิดโซ่ขาดได้ง่ายกว่า ดังนั้นควรเหลือบมองชุดเกียร์และโซ่บ่อยๆ
ถึงแม้ว่าจักรยานทัวร์ริ่งนั้น จะไม่ได้เป็นที่นิยมในบ้านเรามากนัก แต่ยังมีผู้นำเข้าร้านค้าไม่น้อยที่เลือกจะนำจักรยานทัวร์ริ่งมาขายให้กับผู้ที่สนใจ สำหรับคนที่กำลังหาจักรยานทัวร์ริ่งอยู่นั้นอาจจะต้องทำใจเรื่องร้านค้าไม่มีของขายที่หน้าร้าน ต้องสั่งนำเข้าอยู่บ่อยๆ
สำหรับผู้ที่ต้องการจักรยานทัวร์ริ่งมาใช้งานจริงจัง ชอบออกทริปไกลๆ เป็นประจำ ควรจะดูในเรื่องของอะไหล่ต่างๆ ให้สามารถซ่อมบำรุงได้ง่าย โดยไม่ต้องใช้เครื่องไม้เครื่องมือที่แปลกประหลาดกว่าจักรยานคันอื่น เพราะหากเราออกทริปแล้วจักรยานเสียจะสามารถหาอะไหล่และอุปกรณ์ที่ใช้แก้ไขได้ง่าย
ก่อนที่เราจะเริ่มต้นการปั่นจักรยานทางไกล จึงมีสิ่งที่ต้องเรียนรู้และตระเตรียมกันกันให้พร้อม เพื่อการเดินทางที่สมบูรณ์ ไม่ว่าจะเป็นทั้งในเรื่องจักรยาน ร่างกาย อุปกรณ์สัมภาระที่ต้องนำติดไป เส้นทาง รวมถึงสภาพภูมิอากาศของแต่ละที่
การเตรียมตัวออกทริป
1.จักรยานไม่ว่าจะใหม่หรือเก่าก่อนใช้ ควรตรวจตราดูความพร้อมเสมอ เช่น เบรกหมดหรือยัง ลมยางอ่อนไปไหม อุปกรณ์บนตัวรถยังทำงานได้ปกติหรือไม่ สรุปคือ รถต้องพร้อมสมบูรณ์ที่จะพาเราไปได้
2.อุปกรณ์ประกอบที่ซื้อมาแล้วอย่านำไปวางไว้เป็นของประดับบ้านเฉยๆ ควรนำมาใช้ ไม่ว่าจะเป็น ไฟหน้า-หลัง กระดิ่ง หรือพวกเครื่องป้องกันร่างกายเราอย่าง ถุงมือ ถุงแขน แว่นตา เพราะไม่ว่าทางจะใกล้หรือไกล มักเกิดอันตรายที่ไม่คาดคิดได้เสมอ โดยเฉพาะหมวกกันน็อกควรสวมใส่ให้ติดเป็นนิสัย
3.ควรติดตั้งไฟหน้าด้วยสีขาวหรือสีเหลือง ปรับให้อยู่ในระดับสายตาของรถคันหน้า แล้วเปิดให้กระพริบหรือสว่างตลอดเวลา ส่วนไฟหลังติดตั้งไฟหลังสีแดงเปิดให้กระพริบหรือสว่างตลอดเวลาเช่นกัน ไม่ว่าจะกลางคืนหรือกลางวัน
4.อุปกรณ์ปฐมพยาบาลเบื้องต้น และยาสามัญทั่วไปให้นำติดตัวกันไปบ้าง เพราะอุบัติเหตุย่อมเกิดขึ้นได้เสมอกับนักจักรยาน ไม่ว่าจะเป็น ยาใส่แผลสด น้ำยาฆ่าเชื้อ ผ้าก๊อต พลาสเตอร์ ครีมหรือยาแก้เคล็ดขัดยอก ยาแก้ไข้ หรือพวกครีมกันแดด เป็นต้น
5.วางแผนในการออกทริปแต่ละทริปด้วย ถ้าเรามีการวางแผนที่ดี ศึกษาหาข้อมูลเกี่ยวกับเส้นทางหรือสภาพทางที่เราจะต้องไป รวมถึงสถานที่เที่ยวไปพักให้พอมีข้อมูลบ้าง จะช่วยเราได้มาก เพราะการวางแผนการเดินทางสำหรับจักรยานนั้นมีความสำคัญมาก การเดินทางด้วยจักรยานนั้น หากมีสิ่งใดสิ่งหนึ่งผิดพลาดระหว่างการเดินทางแล้ว จะทำให้เสียเวลาเยอะ ไม่ว่าจะเป็นการหลงทาง ยางแตก อุบัติเหตุเล็กๆ น้อยๆ หรือรถมีปัญหา
6.สิ่งของหรืออุปกรณ์ที่พกไปในการออกทริป ต้องบอกว่าแล้วแต่ลักษณะการออกทริป เช่น จะใช้เวลาออกทริปกี่วัน จะพักกันแบบไหน และเมื่อได้รูปแบบการออกทริปแล้ว จึงจะมาจัดเตรียมข้าวของเครื่องใช้ รวมทั้งอุปกรณ์ต่างๆ แต่ที่ต้องไม่ลืมเลยก็คือ ชุดเครื่องมือในการซ่อมแซมจักรยาน และอุปกรณ์ปะเปลี่ยนยาง สูบลมแบบติดรถ ยางในสำรอง ส่วนข้าวของเครื่องใช้อย่างอื่นๆ ที่ต้องติดตัวไปด้วยเสมอ เช่น ไฟฉาย ไฟแช็ค มีดพกขนาดเล็ก เชือก ผ้าสักผืนสองผืน น้ำมันหล่อลื่นโซ่ แต่ขอแนะนำสักนิด ว่าเราเดินทางด้วยจักรยานไม่ใช่รถยนต์ น้ำหนักที่เราแบกไปนั้น ควรจะน้อยที่สุดเท่าที่ทำได้ เอาเฉพาะของที่จำเป็นไปเท่านั้น เพื่อที่จะได้ไม่อ่อนล้าเปลืองแรงกับการแบกน้ำหนักเกินความจำเป็น
7.สำหรับการขี่ออกทริปเป็นหมู่คณะนั้นก็มีข้อดีคือ เราสามารถแชร์เรื่องสัมภาระกันได้ เพราะว่าเราไม่ต้องแบกเครื่องไม้เครื่องมืออยู่เพียงคนเดียว หรือเครื่องมือ เครื่องใช้ บางอย่างก็สามารถใช้ร่วมกันได้ เช่น พวกเต็นท์ ยางอะไหล่ เครื่องมือซ่อมรถทั่วๆ ไป
การปั่นจักรยานทางไกลให้ได้หลักร้อยกิโลเมตรขึ้นไปนั้น เป็นเรื่องที่ไม่ง่ายเลย หากแต่เป็นนักกีฬาปั่นจักรยานที่การปั่นจักรยานร้อยกิโลเมตรนั้นถือว่าปกติ แต่กับคนธรรมดาสามัญอย่างเราๆ นั้น ใช่ว่าการปั่นให้ไปได้เกินร้อยกิโลเมตร จะทำไม่ได้หรือยากจนเกินแรง แต่อาจจะต้องมีเตรียมตัวกันก่อนสักเล็กน้อย
การปั่นจักรยานทางไกลนั้นสิ่งสำคัญคือ จะต้องออมแรงเก็บไว้ เพราะการปั่นระยะทางไกลๆ ต้องใช้แรงเยอะ หากมัวแต่จดจ่อกับการไปให้ถึงเร็วที่สุดก็คงไม่ใช้เป้าหมายหลักในการปั่นจักรยาน อย่างเช่น การเดินทางในทริปนี้มีระยะทาง 300 กิโลเมตร ควรเดินทางเฉลี่ยที่ 20-25 กิโลเมตรต่อชั่วโมง หรืออาจจะเป็น 15-20 กิโลเมตรต่อชั่วโมง แล้วแต่สภาพเส้นทางที่ควรจะศึกษาและวางแผนในการเดินทางมาเป็นอย่างดี เพราะจะช่วยการเดินทางปลอดภัย ถึงเป้าหมายได้รวดเร็ว ไม่เสียเวลาไปมาก
TRICK ในการปั่นจักรยานทางไกล
เตรียมตัวก่อนออกทริป : จะต้องคำนวณเวลาในการเดินทางว่าจะต้องใช้เวลากี่ชั่วโมง กำหนดเวลาตั้งแต่เริ่มจนถึงปลายทาง และจะกลับถึงที่พักจะใช้เวลาเท่าไหร่ โดยอาศัยการคาดคะเนจากระยะทางและความเร็วในการปั่น
กินไปเรื่อย : ในระหว่างการปั่นจักรยาน ควรมีของว่างหรือขนมเพิ่มพลังงานติดตัวไปด้วย เพราะการปั่นจักรยานเป็นเวลานาน ทำให้ร่างกายเสียพลังงานมาก ยิ่งหากเป็นคนที่พลังงานน้อยแล้ว เรื่องนี้จะกลายเป็นเรื่องใหญ่ทันที เพราะร่างกายจะอ่อนเพลียเร็วกว่าคนอื่น อาการเมื่อร่างกายหมดพลังงานคือ ตัวจะเย็น รู้สึกหวิวๆ ตาพล่า หากใครมีอาการแบบนี้ ควรรีบจอดทันทีอย่าคิดว่าไหวหรืออีกนิดเดียวก็จะถึง
น้ำอย่าขาด : เมื่อร่างกายมีความร้อน จะขับน้ำที่ออกมาในรูปแบบเหงื่อ เราจะควรกินน้ำระหว่างทางบ่อยๆ หากใครยังนึกภาพว่าทำไมต้องการน้ำมาก ลองมโนภาพว่าร่างกายเหมือนรถยนต์ ที่จะต้องมีหม้อน้ำไว้ระบายความร้อน ถ้าน้ำในหม้อน้ำหมดเครื่องจะฮีต ทำให้ไม่สามารถระบายความร้อนได้ เครื่องยนต์ก็จะสามารถทำงานต่อไป
ประสบการณ์เท่านั้น : หลายท่านที่ปั่นจักรยานทางไกลมาก่อนแล้วจะเจอกับปัญหานี้ ที่เมื่อรับประทานอาการกลางวันเสร็จแล้ว ถือว่าเป็นครึ่งหลังของทริป เพราะทุกอย่างจะค่อยๆ ทยอยเข้ามาหาอย่างไม่ทันตั้งตัว ไม่ว่าจะเป็น ความอ่อนล้าของร่างกาย อาการปวดเมื่อย อากาศร้อน และอีกหลายอย่างที่เราจะต้องอดกลั้นฝ่าไปให้ได้
อย่างที่เรารู้กันดีว่า จักรยานนั้นไม่สามารถบรรทุกสิ่งของได้มากนัก เพราะพื้นที่ในการบรรทุกนั้นไม่เอื้ออำนวย สัมภาระจึงเป็นสิ่งสำคัญมากโดยเฉพาะจักรยานทัวร์ริ่ง ที่จะต้องนำสัมภาระแต่สิ่งที่จำเป็นไปด้วยเท่านั้น อุปกรณ์สัมภาระที่ขาดไม่ได้ในการออกทริปสำหรับผู้ปั่นจักรยานก็คงจะคล้ายกันกับสัมภาระที่เรานำไปแคมป์ปิ้ง ซึ่งในฉบับนี้เรามีอุปกรณ์แคมปิ้งมาแนะนำเล็กน้อย
เต็นท์ : สำหรับเต็นท์นั้น มีหลายแบบหลายขนาด แต่สำหรับจักรยานแล้วก็จะมีแบบที่เหมาะสม สามารถพกพาและพับเก็บได้ง่าย เนื้อผ้าหนา มีตาข่ายชั้นในช่วยกันแมลงได้ดี ที่สำคัญเต็นท์จาก KARANA มีน้ำหนักเบามากเมื่อเทียบกับเต็นท์ปกติ
ถุงนอน : เมื่อเราไปต่างที่ต่างจังหวัดแล้วจะพบกับอากาศที่เปลี่ยนแปลงบ่อย ยิ่งเวลากลางคืนอาจจะมีอากาศเย็นมาก ดังนั้นจึงควรติดถุงนอนเผื่อมาด้วย นอกจากจะช่วยให้ร่างกายอบอุ่นแล้ว ถุงนอนจาก KARANA ยังช่วยให้การนอนสบายด้วยผ้าที่ลื่นไม่ติดตัวเมื่อผิวเนื้อสัมผัส
ชุดประกอบอาหาร : อาหารคือสิ่งจำเป็นที่สุดสำหรับการเดินทาง กองทัพต้องเดินทางด้วยท้อง ในสถานที่เราไปอาจจะไม่มีร้านอาหารขายจึงต้องประกอบอาหารเอง เตาแก๊สสามขาที่ใช้คู่กับแก๊สกระป๋องซึ่งหาได้ง่าย รวมถึงชุดหม้อและถ้วย ไว้สำหรับเป็นภาชนะในการประกอบอาหาร ด้วยความที่เป็นสินค้าจาก KARANA จึงมั่นใจได้ว่ามีความปลอดภัยและทนทานแน่นอน
สัมภาระของการเดินด้วยจักรยานนั้นส่วนมากจะใช้ของที่มีน้ำหนักเบา อีกทั้งยังต้องเป็นอุปกรณ์อเนกประสงค์ เพราะไม่สามารถนำสัมภาระติดตัวไปได้เยอะ ควรจะหาอุปกรณ์ที่มีคุณสมบัติตามที่ได้กล่าวไว้ เผื่อวันข้างหน้าเราอาจจะได้ใช้มันไม่ว่าจะในโอกาสใดก็ตาม
อย่างไรก็ดีการเดินทางท่องเที่ยวด้วยจักรยานนั้น กำลังเป็นกิจกรรมใหม่สำหรับผู้ที่รักการเดินทางแบบอนุรักษ์นิยม หรือผู้ที่ต้องการสัมผัสธรรมชาติอย่างใกล้ชิด แต่ก่อนที่จะเดินทางด้วยจักรยาน ควรจะวางแผนให้ดีและอย่าลืมว่า เมื่อเราจะไปไหนควรแจ้งให้คนที่รอปลายทางหรือทางบ้านทราบก่อน เพราะอันตรายจากการเดินทางด้วยจักรยานนั้นมีมาก แต่ถ้าหากใจพร้อม การเดินทางด้วยจักรยานก็ไม่เป็นปัญหา เพราะมีสองสามีภรรยาชาวไทยที่เคยเดินทางรอบโลกด้วยจักรยานมาแล้ว
Comments are closed, but trackbacks and pingbacks are open.