TOYOTA HILUX TRAVO และ TRAVO-e เปิดตัวครั้งแรกในโลกที่ไทย เคาะราคา 774,000 -1,491,000 บาท

บริษัท โตโยต้า มอเตอร์ ประเทศไทย เปิดตัวรถกระบะมหาชนรุ่นใหม่ล่าสุด เป็นครั้งแรกของโลกที่ประเทศไทยกับ TOYOTA HILUX TRAVO และ HILUX TRAVO-e ด้วยคอนเซ็ปต์ “GREATER TOGETHER…สู่ความยิ่งใหญ่ไปด้วยกัน”

ในประเทศไทย รถกระบะสะท้อนความผูกพันอันลึกซึ้ง เสมือนเพื่อนร่วมเดินทาง ที่อยู่เคียงข้างกันมาอย่างยาวนาน จนถึงปัจจุบันเราจะเห็นรถกระบะในทุกมิติของชีวิต ไม่ว่าจะใช้ในการประกอบอาชีพ ขนส่งสินค้า เดินทางในชีวิตประจำวัน หรือเติมเต็มไลฟ์สไตล์ที่หลากหลาย จึงกล่าวได้ว่า สำหรับคนไทย รถกระบะไม่ใช่แค่พาหนะ แต่เป็นเหมือนเพื่อนคู่ใจและเป็นส่วนหนึ่งของชีวิต

จุดเริ่มต้นของก้าวสำคัญที่โตโยต้า และคนไทยได้ร่วมกันสร้างขึ้น คือ โครงการ IMV (Innovative International Multipurpose Vehicle) เมื่อปีพ.ศ. 2547 โดย IMV คือโครงการผลิตรถกระบะขนาด 1 ตัน ภายใต้ชื่อรถกระบะ ไฮลักซ์ (รุ่นที่ 7) รถยนต์อเนกประสงค์ ฟอร์จูนเนอร์ (และรถมินิแวน อินโนวาในต่างประเทศ) รวมถึงเครื่องยนต์ และชิ้นส่วนอะไหล่ เพื่อจำหน่ายภายในประเทศและส่งออก ด้วยมูลค่าการลงทุน ณ ขณะนั้น 30,000 ล้านบาท ภายใต้วัตถุประสงค์ที่จะผลิตรถยนต์ที่มีคุณภาพสูง สามารถตอบสนองความต้องการที่หลากหลายของผู้บริโภค โดยรถยนต์ในโครงการดังกล่าวได้ผ่านการทุ่มเท วิจัย และพัฒนา เพื่อให้ได้รถที่ตอบสนองความต้องการที่หลากหลายของลูกค้าในทุกภูมิภาคทั่วโลก

โครงการ IMV ได้ทำให้ โตโยต้า มอเตอร์ ประเทศไทย เปลี่ยนบทบาทจากฐานการผลิตที่เน้นตลาดภายในประเทศ สู่การเป็นศูนย์กลางการผลิตและส่งออกรถกระบะ ในปัจจุบัน HILUX ที่ผลิตในไทยได้ถูกส่งออกไปยัง 133 ประเทศทั่วโลก มียอดส่งออกสะสมกว่า 4.6 ล้านคัน มีการใช้ชิ้นส่วนภายในประเทศด้วยสัดส่วนสูงสุดถึง 95% ก่อให้เกิดการสร้างงาน สร้างอาชีพ สร้างรายได้ ให้กับคนไทย ผ่านการจ้างงานกว่า 275,000 คน ทั้งพนักงานในเครือ พนักงานของผู้แทนจำหน่ายฯ 153 แห่ง และผู้ผลิตชิ้นส่วนกว่า 290 แห่งทั่วประเทศ ส่งผลให้ HILUX มีส่วนสำคัญในการเสริมสร้างอุตสาหกรรมยานยนต์ไทย คิดเป็นกว่า 30% ของอุตสาหกรรมยานยนต์ทั้งหมด และมีส่วนช่วยสร้าง GDP ให้ประเทศไทยมากถึง 3% ต่อปี สะท้อนถึงมูลค่าทางเศรษฐกิจอันมหาศาลตลอดห่วงโซ่อุปทานที่เกิดขึ้น

ทั้งหมดนี้คือบทพิสูจน์ว่า HILUX ไม่ได้เป็นเพียงรถกระบะ แต่คือ “รถกระบะมหาชน” ที่มีบทบาทสำคัญต่อการขับเคลื่อนอุตสาหกรรมและเศรษฐกิจของประเทศอย่างแท้จริง

และในวันนี้ บริษัท โตโยต้า มอเตอร์ ประเทศไทย ภูมิใจนำเสนอรถกระบะไฮลักซ์รุ่นใหม่ เจเนอเรชันที่ 9 เป็นครั้งแรกของโลก (World Premiere) ภายใต้ชื่อ TOYOTA HILUX TRAVO”  ด้วยการนำทีมของวิศวกรชาวไทย HILUX TRAVO ได้รับการพัฒนาผ่านการรับฟังเสียงของผู้ใช้ชาวไทยอย่างใกล้ชิดในทุกมิติ พร้อมนำข้อมูลมาปรับปรุงและต่อยอดการพัฒนา เพื่อตอบโจทย์การใช้งานและไลฟ์สไตล์ของคนไทยได้อย่างดีที่สุด

ด้วยดีไซน์ใหม่ ทั้งการออกแบบภายนอกและภายใน ภายใต้ดีไซน์คอนเซ็ปต์ Tough & Agile” ที่ผสาน  ”ความแข็งแกร่ง เข้ากับ ความคล่องตัว” มาพร้อมกับการออกแบบด้านหน้าด้วยแนวคิด Cyber Sumo” ที่เป็นท่าเตรียมพร้อมในการต่อสู้ Shikiri Pose เพื่อแสดงให้เห็นถึงความ แข็งแกร่ง (Stable) แข็งแรง (Strong) และ มั่นคง (Steady) การออกแบบภายในใช้แนวคิด Robust Simplicity” ที่เน้นความเรียบง่ายแต่ทรงพลัง ทุกฟังก์ชันใช้งานได้จริง พร้อมสิ่งอำนวยความสะดวกครบครัน และ ทันสมัยที่มาพร้อมกับเทคโนโลยีความปลอดภัย Toyota Safety Sense เวอร์ชันล่าสุด และอุปกรณ์เสริมความปลอดภัยอีกมากมาย

 

HILUX TRAVO ได้ให้ความสำคัญกับการบังคับควบคุม และความนุ่มนวลในการขับขี่เป็นพิเศษ จึงได้แนะนำเทคโนโลยี “Dynamic Cloud” ในการพัฒนาองค์ประกอบต่างๆ ที่ส่งผลต่อการขับขี่ เพื่อมอบการขับขี่ที่นุ่มนวล บังคับควบคุมแม่นยำ และทรงตัวเยี่ยม

และ HILUX TRAVO ทุกรุ่นจะมาพร้อมกับขุมพลัง GD Super Power ขนาด 2.8 ลิตร ที่ให้กำลังสูง และมีการปรับปรุงความประหยัดน้ำมันให้ดียิ่งขึ้น  โดยประหยัดน้ำมันมากกว่าเครื่องยนต์ 2.4 ลิตร สูงสุดถึง 5.8% และมากกว่าเครื่อง 2.8 ลิตร รุ่นเดิมถึง 7.5%

นอกจากรุ่นเครื่องยนต์ดีเซล โตโยต้า นำเสนออีกหนึ่งทางเลือกตามหลักคิด Multi-Pathway กับรถกระบะไฟฟ้า “HILUX TRAVO-e” ซึ่งเป็นการแนะนำรถไฟฟ้าแบบ Body-on-frame รุ่นแรกของโตโยต้าที่มีการวางจำหน่ายจริง พัฒนาขึ้นโดยยึดถือหลักการ QDR (Quality-Durability-Reliability) อันเป็นหัวใจของโตโยต้า และยังคงสมรรถนะ ความทนทานตามมาตรฐานรถกระบะ HILUX และเสริมด้วยเทคโนโลยี Diamond Guard” ช่วยปกป้องแบตเตอรี่ และชุดขับเคลื่อนไฟฟ้า ช่วยให้คุณใช้งาน TRAVO-e ได้อย่างมั่นใจในความปลอดภัย ทั้งการใช้งานส่วนบุคคล การบรรทุกและการขับขี่แบบออฟโรด

ข้อมูลผลิตภัณฑ์ TOYOTA HILUX TRAVO “ไฮลักซ์ ทราโว่” และ HILUX TRAVO-e “ไฮลักซ์ ทราโว่ อี”

TOYOTA HILUX TRAVO จะมาในรุ่นยกสูงเท่านั้น มีทั้งหมด 4 Segments (17 รุ่นย่อย) ได้แก่

  1. “HILUX TRAVO OVERLAND” รุ่นเรือธง (ขับเคลื่อน 2 ล้อ ยกสูง และ ขับเคลื่อน 4 ล้อ)
  2. “HILUX TRAVO PRERUNNER” ขับเคลื่อน 2 ล้อ ยกสูง
  3. “HILUX TRAVO 4TREX” ขับเคลื่อน 4 ล้อ
  4. “HILUX TRAVO STANDARD CAB 4TREX” ขับเคลื่อน 4 ล้อ

และทางเลือกใหม่กระบะไฟฟ้าตัวจริง HILUX TRAVO-e


จุดขายเด่นของ HILUX TRAVO OVERLAND

ดีไซน์ภายนอก

ผสานความ “แข็งแกร่ง (Tough)” เข้ากับความ “คล่องตัว (Agile)”

สะท้อนภาพลักษณ์ที่ทรงพลังและคล่องตัว

  • ด้านหน้าดีไซน์ใหม่แบบ Cyber Sumo แข็งแกร่ง มั่นคง และทรงพลัง
  • ไฟหน้า LED พร้อม Daytime Running Light โฉบเฉี่ยว สะกดทุกสายตา
  • สปอร์ตบาร์เสริมความแกร่ง พร้อมไฟท้าย LED ดีไซน์ใหม่
  • ล้ออัลลอย ขนาด 18 นิ้ว

ดีไซน์ภายใน

“Robust Simplicity” ดีไซน์เรียบง่ายแต่ทรงพลัง ทุกฟังก์ชันใช้งานได้จริง

  • จอแสดงข้อมูลการขับขี่ ขนาด 12.3 นิ้ว แบบดิจิทัล ทันสมัย คมชัด
  • พวงมาลัยไฟฟ้า แม่นยำ ควบคุมง่าย
  • เครื่องเสียงหน้าจอสัมผัสขนาด 12.3 นิ้ว รองรับ Apple CarPlay และ Android Auto

แบบไร้สาย พร้อม Wireless Charger

  • ที่วางแก้วน้ำขนาดใหญ่ และที่พักแขนช่วยลดความเหนื่อยล้าขณะขับขี่

เทคโนโลยี “Dynamic Cloud”

ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพ การควบคุม การทรงตัว และความนุ่มนวลให้ดียิ่งขึ้น

เพื่อเพิ่มสมรรถนะและความสบายในทุกมิติ

  • เพิ่มจุดเชื่อมพื้นตัวถัง เพื่อเสริมความแข็งแรงของห้องโดยสาร ปรับปรุงการทรงตัวและเพิ่มความนุ่มนวลในการขับขี่
  • ติดตั้งยางรองแท่นเครื่องแบบไฮดรอลิก และ ยางรองตัวถังแบบ Shear Type ลดแรงสั่นสะเทือนเข้าสู่ห้องโดยสาร
  • เบาะนั่งออกแบบตามหลักสรีรศาสตร์ หนัง Softex นุ่ม นั่งสบาย
  • ระบบช่วงล่างแบบนุ่ม หนึบ เกาะถนน
  • แกนพวงมาลัยขนาดใหญ่ ช่วยให้ควบคุมได้เฉียบคม ตอบสนองดี และลดแรงสั่นสะเทือน

เครื่องยนต์ GD SUPER POWER 2.8 ลิตร ให้กำลังสูงสุด 204 แรงม้า เกียร์ AT แรงบิด 500 นิวตัน-เมตร เกียร์ MT แรงบิด 420 นิวตัน-เมตร

  • มาพร้อมกับเครื่องยนต์ GD SUPER POWER ขนาด 2.8 ลิตร มาพร้อมทั้งพลัง และความประหยัดที่ดีขึ้นตอบสนองความต้องการและการใช้งานของลูกค้าที่ต้องการรถกระบะที่เปี่ยมไปด้วยขุมพลัง
  • เทคโนโลยีหัวฉีด อัจฉริยะ i-Art ช่วยให้ประหยัดน้ำมัน ควบคุมหัวฉีดอย่างแม่นยำด้วยเซ็นเซอร์คอมพิวเตอร์ทำงานร่วมกับปั๊มคอมมอนเรล แรงดันสูงสุด 250 MPa ให้ละอองน้ำมันละเอียด เผาไหม้หมดจด
  • ติดตั้งระบบ Stop & Start ระบบดับเครื่องยนต์อัตโนมัติเมื่อรถจอดนิ่ง เพื่อเพิ่มการประหยัดน้ำมัน

อุปกรณ์อำนวยความสะดวก และฟังก์ชันการใช้งานที่หลากหลาย

  • ระบบ Multi-Terrain Select (MTS) ช่วยปรับการขับขี่ให้เหมาะสมกับสภาพพื้นผิวที่หลากหลายทั้งแบบ ดิน ทราย โคลน หิน หรือ หิมะ
  • ระบบควบคุมเฟืองท้าย (Auto Limited Slip Differential)
  • เบรกมือไฟฟ้า EPB พร้อมระบบหน่วงเบรกอัตโนมัติ Auto Brake Hold
  • บันไดข้าง พื้นลายรังผึ้ง Hexagonal Grip เพิ่มการยึดเกาะ และ สะดวกในการก้าวขึ้นลง
  • บันไดเหยียบข้างกระบะท้าย ช่วยให้การขึ้นลงสะดวกขึ้น
  • ระบบช่วยผ่อนแรงฝาท้ายกระบะ เปิด-ปิดง่าย

ไว้วางใจด้วยระบบความปลอดภัยที่ครบครัน

  • เทคโนโลยีความปลอดภัย Toyota Safety Sense*
    • All-Speed Dynamic Radar Cruise Control with Curve Speed Reduction and Lane Tracing Assist

ระบบควบคุมและปรับลดความเร็วอัตโนมัติพร้อมช่วยลดความเร็วอัตโนมัติก่อนเข้าโค้ง และช่วยควบคุมรถให้อยู่กลางเลน

  • Pre-collision System ระบบความปลอดภัยก่อนการชน
  • Lane Departure Alert ระบบเตือนเมื่อออกนอกเลน พร้อมหน่วงกลับอัตโนมัติ
  • Automatic High Beam ระบบความคุมไฟอัตโนมัติ
  • ถุงลมเสริมความปลอดภัย SRS 7 ตำแหน่ง*
  • ระบบ Blind Spot Monitor และ Rear Cross Traffic Alert
  • Parking sensor สัญญาณเตือนกะระยะหน้าและหลัง

*มีในรุ่น Overland Plus

จุดขายเด่นของ HILUX TRAVO PRERUNNER และ 4TREX

(*อ้างอิงจากรุ่น Premium)

  • ดีไซน์ภายนอกที่ผสานความ “แข็งแกร่ง (Tough)” เข้ากับความ “คล่องตัว (Agile)” ด้านหน้าดีไซน์ใหม่แบบ Cyber Sumo แข็งแกร่ง มั่นคง และทรงพลัง
  • เครื่องยนต์ GD SUPER POWER 2.8 ลิตร ให้กำลังสูงสุด 204 แรงม้า เกียร์ AT แรงบิด 500 นิวตัน-เมตร เกียร์ MT แรงบิด 420 นิวตัน-เมตร
  • เทคโนโลยี “Dynamic Cloud” ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพ การควบคุม การทรงตัว และความนุ่มนวลให้ดียิ่งขึ้น เพื่อเพิ่มสมรรถนะและความสบายในทุกมิติ

 

ดีไซน์ภายใน “Robust Simplicity” และฟังก์ชันการใช้งานที่หลากหลาย

  • จอแสดงผลข้อมูลการขับขี่จอสีขนาด 7 นิ้ว แบบดิจิทัล
  • เครื่องเสียงหน้าจอสัมผัสขนาด 12.3 นิ้ว รองรับ Apple CarPlay และ Android Auto แบบไร้สาย พร้อม Wireless Charger
  • เบาะนั่งวัสดุผ้า Caretex นั่งสบาย ทำความสะอาดง่าย
  • เบรกมือไฟฟ้า EPB พร้อมระบบหน่วงเบรกอัตโนมัติ Auto Brake Hold
  • ระบบ Push start สตาร์ทเครื่องยนต์ด้วยปลายนิ้ว
  • ระบบควบคุมเฟืองท้าย (Auto Limited Slip Differential)

ไว้วางใจด้วยระบบความปลอดภัยที่ครบครัน

  • ระบบ Blind Spot Monitor และ Rear Cross Traffic Alert ระบบช่วยเตือนมุมอับสายตา ที่กระจกมองข้างพร้อมช่วยเตือนขณะถอยรถ 
  • ดิสก์เบรก 4 ล้อให้การเบรกตอบสนองรวดเร็วแม่นยำ
  • Rear View Camera กล้องมองภาพขณะถอยหลัง
  • Parking sensor สัญญาณเตือนกะระยะหน้าและหลัง
  • ถุงลมเสริมความปลอดภัย SRS 3 ตำแหน่ง
  • ระบบควบคุมเฟืองท้าย (Auto Limited Slip Differential)

จุดขายเด่นของ TOYOTA HILUX TRAVO STANDARD CAB 4TREX

  • ดีไซน์ภายนอกที่ผสานความ “แข็งแกร่ง (Tough)” เข้ากับความ “คล่องตัว (Agile)” ด้านหน้าดีไซน์ใหม่แบบ Cyber Sumo แข็งแกร่ง มั่นคง และทรงพลัง
  • เครื่องยนต์ GD SUPER POWER 2.8 ลิตร ให้กำลังสูงสุด 204 แรงม้า เกียร์ AT แรงบิด 500 นิวตัน-เมตร เกียร์ MT แรงบิด 420 นิวตัน-เมตร

เพิ่มประสิทธิภาพการการยึดเกาะถนน การควบคุมและการทรงตัวดียิ่งขึ้น

  • แกนพวงมาลัยขนาดใหญ่ ช่วยให้ควบคุมได้เฉียบคม ตอบสนองดี และ ลดแรงสั่นสะเทือน
  • เพิ่มจุดเชื่อมพื้นตัวถัง เสริมความแข็งแรงของห้องโดยสาร เพิ่มประสิทธิภาพการทรงตัว
  • แหนบกันสะเทือน ดูดซับแรงสะเทือนและเพิ่มความนุ่มนวลในการขับขี่
  • ยางรองแท่นเครื่องแบบไฮดรอลิก ลดแรงสั่นสะเทือนเข้าสู่ห้องโดยสาร
  • ระบบขับเคลื่อน 4 ล้อ พร้อม Differential Lock ที่เฟืองท้าย

อุปกรณ์อำนวยความสะดวก และฟังก์ชันการใช้งานที่หลากหลาย

  • จอแสดงผลข้อมูลการขับขี่จอสีขนาด 7 นิ้ว แบบดิจิทัล
  • เครื่องเสียงหน้าจอสัมผัสขนาด 8 นิ้ว พร้อมระบบเชื่อมต่อ Apple CarPlay และ Android Auto
  • เบาะนั่งวัสดุผ้า Caretex นั่งสบาย ทำความสะอาดง่าย

ไว้วางใจด้วยระบบความปลอดภัยที่ครบครัน

  • ระบบ Blind Spot Monitor และ Rear Cross Traffic Alert ระบบช่วยเตือนมุมอับสายตาที่กระจกมองข้างพร้อมช่วยเตือนขณะถอยรถ
  • Rear View Camera กล้องมองภาพขณะถอยหลัง
  • Parking sensor สัญญาณเตือนกะระยะหน้าและหลัง
  • ถุงลมเสริมความปลอดภัย SRS 3 ตำแหน่ง

รุ่น HILUX TRAVOe

กระบะไฟฟ้ารุ่นแรกของ HILUX ที่ผสมผสานความแข็งแกร่งตามแบบฉบับ Hilux เข้ากับระบบขับเคลื่อนไฟฟ้า เพื่อสนับสนุนแนวคิด Multi-Pathway สมรรถนะสูง ทนทาน ตอบโจทย์ทุกการใช้งานแบบกระบะตัวจริง โดย HILUX TRAVOe มาในรุ่น Double Cab 4TREX เท่านั้น

ระบบขับเคลื่อนไฟฟ้า

  • ระบบ Dual Motor มอเตอร์คู่ ขับเคลื่อน 4 ล้อ แบบ All-Wheel Drive ให้กำลังรวมสูงสุด 196 แรงม้า (144 กิโลวัตต์) ชุดมอเตอร์ไฟฟ้าหน้าแรงบิดสูงสุด 205 นิวตันเมตร ชุดมอเตอร์ไฟฟ้าหลังแรงบิดสูงสุด 269 นิวตันเมตร
  • ความจุแบตเตอรี่ลิเทียมไอออนขนาด 59.2 kWh ระยะทาง 315 กม. (อ้างอิงจาก Eco Sticker ตามมาตรฐาน NEDC) รองรับการชาร์จแบบ AC สูงสุดที่ 10 kW และ แบบ DC สูงสุดถึง 125 kW

มั่นใจกับ “DIAMOND GUARD” เทคโนโลยีปกป้องแบตเตอรี่และชุดขับเคลื่อนไฟฟ้า

  • ช่วยปกป้องแบตเตอรี่และชุดขับเคลื่อนไฟฟ้าด้วยแผ่นปิดเสริมความปลอดภัย ทั้งด้านหน้าและใต้ท้องรถ
  • แบตเตอรี่ยึดกับเฟรมย่อยเป็นรูป Diamond Shape ช่วยลดความเสียหายต่อแบตเตอรี่จากการบิดตัวของเฟรมระหว่างการใช้งาน
  • เสริมความปลอดภัยจากการกระแทกรอบทิศทางด้วยโครงสร้างดูดซับแรงกระแทก

เทคโนโลยี “Dynamic Cloud” สำหรับ TRAVO-e ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพ การควบคุม การทรงตัว และความนุ่มนวลให้ดียิ่งขึ้น เพื่อเพิ่มสมรรถนะ และความสบายในทุกมิติ

  • เพิ่มจุดเชื่อมพื้นตัวถัง เพื่อเสริมความแข็งแรงของห้องโดยสาร ปรับปรุงการทรงตัว และเพิ่มความนุ่มนวลในการขับขี่
  • ยางรองตัวถังแบบ Shear Type ลดแรงสั่นสะเทือนเข้าสู่ห้องโดยสาร
  • เบาะนั่งออกแบบตามหลักสรีรศาสตร์ หนัง Softex นุ่ม นั่งสบาย
  • แกนพวงมาลัยขนาดใหญ่ ช่วยให้ควบคุมได้เฉียบคม ตอบสนองดี และลดแรงสั่นสะเทือน
  • ระบบช่วงล่างแบบนุ่ม หนึบ เกาะถนน ด้านหลังแบบ De-Dion ลดน้ำหนักใต้สปริง นุ่มนวล เสริมสมรรถนะการควบคุม
  • แบตเตอรี่ติดตั้งบริเวณกึ่งกลางเฟรม ช่วยให้จุดศูนย์ถ่วงต่ำ เพิ่มความมั่นคงและสมดุลของรถ

 

เลือกเป็นเจ้าของ TOYOTA HILUX TRAVO มาพร้อม 6 สีให้เลือก

  • ใหม่! สีน้ำตาล SULFUR METALLIC
  • ใหม่! สีเทา ASH
  • สีขาวมุก PLATINUM WHITE PEARL MICA
  • สีขาว SUPER WHITE II
  • สีดำ ATTITUDE BLACK MICA
  • สีเงิน SILVER METALLIC

(*สีขาวมุก Platinum White Pearl Mica เพิ่ม 10,000 บาท และ สีขาว SUPER WHITE II ลด 7,000 บาท) และ HILUX TRAVO-e Double Cab 4TREX มาพร้อม 2 สีให้เลือก

  • ใหม่! สีเทา ASH
  • สีขาวมุก PLATINUM WHITE PEARL MICA

(*สีขาวมุก Platinum White Pearl Mica เพิ่ม 10,000 บาท)

ราคาและแคมเปญ TOYOTA HILUX TRAVO “ไฮลักซ์ ทราโว่” และ HILUX TRAVO-e “ไฮลักซ์ ทราโว่ อี”

ดับเบิ้ลแค็บ (DOUBLE CAB)

  • Overland Plus AT ขับเคลื่อนสี่ล้อ 4TREX ราคา 1,366,000 บาท

ขับเคลื่อนสองล้อ PRERUNNER ราคา 1,176,000 บาท

  • Overland AT ขับเคลื่อนสี่ล้อ 4TREX ราคา 1,292,000 บาท

ขับเคลื่อนสองล้อ PRERUNNER ราคา 1,102,000 บาท

  • 2.8 Premium AT ขับเคลื่อนสองล้อ PRERUNNER ราคา 999,000 บาท
  • 2.8 Premium MT ขับเคลื่อนสี่ล้อ 4TREX ราคา 1,090,000 บาท

ขับเคลื่อนสองล้อ PRERUNNER ราคา 949,000 บาท

  • 2.8 Smart AT ขับเคลื่อนสองล้อ PRERUNNER ราคา 945,000 บาท
  • 2.8 Smart MT ขับเคลื่อนสองล้อ PRERUNNER ราคา 895,000 บาท

รับข้อเสนอ: รุ่นขับเคลื่อนสี่ล้อ 4TREX ดอกเบี้ยพิเศษ 1.89% หรือ ฟรีประกันภัยชั้น 1 Toyota care PHYD รุ่นขับเคลื่อนสองล้อ PRERUNNER ดอกเบี้ยพิเศษ 0.99% หรือ ดอกเบี้ย 1.75% พร้อมประกันภัยชั้น 1 Toyota care PHYD

สมาร์ทแค็บ (SMART CAB)

  • 2.8 Premium AT ขับเคลื่อนสี่ล้อ 4TREX ราคา 1,029,000 บาท

ขับเคลื่อนสองล้อ PRERUNNER ราคา 909,000 บาท

  • 2.8 Premium MT ขับเคลื่อนสี่ล้อ 4TREX ราคา 984,000 บาท

ขับเคลื่อนสองล้อ PRERUNNER ราคา 859,000 บาท

  • 2.8 Smart AT ขับเคลื่อนสองล้อ PRERUNNER ราคา 839,000 บาท
  • 2.8 Smart MT ขับเคลื่อนสองล้อ PRERUNNER ราคา 789,000 บาท

รับข้อเสนอ: รุ่นขับเคลื่อนสี่ล้อ 4TREX ดอกเบี้ยพิเศษ 1.79% หรือ ฟรีประกันภัยชั้น 1 Toyota care PHYD รุ่นขับเคลื่อนสองล้อ PRERUNNER ดอกเบี้ยพิเศษ 0.99% หรือ ดอกเบี้ย 1.65% พร้อมประกันภัยชั้น 1 Toyota care PHYD

สแตนดาร์ดแค็บ (STANDARD CAB)

  • 2.8 AT ขับเคลื่อนสี่ล้อ 4TREX ราคา 826,000 บาท
  • 2.8 MT ขับเคลื่อนสี่ล้อ 4TREX ราคา 774,000 บาท

รับข้อเสนอ:  ดอกเบี้ยพิเศษ 1.69% หรือ ฟรีประกันภัยชั้น 1 Toyota care PHYD

HILUX TRAVO-e

ดับเบิ้ลแค็บ (DOUBLE CAB)

  • ขับเคลื่อนสี่ล้อ 4TREX ราคา 1,491,000 บาท

รับข้อเสนอ: ฟรีประกันภัยชั้น 1 Toyota care PHYD

ลูกค้าบุคคลธรรมดาที่จองภายในวันที่ 10 ธันวาคม 2568 และรับรถภายใน 31 มีนาคม 2569

รับฟรี! คูปองชาร์จไฟมูลค่า 10,000 บาท จาก EV Station PluZ และ Luxury Hotel Voucher ของ The Standard Pattaya Na Jomtien มูลค่า 7,700 บาท

พิเศษช่วงมอเตอร์เอ็กซ์โป ซื้อไฮลักซ์ ทุกรุ่น รับข้อเสนอพิเศษ

กับแคมเปญ “TOYOTA ARIGATO โปรแจกใหญ่จัดเต็ม”

เพียงสแกน QR ลงทะเบียน ลุ้นรับเพิ่ม 3 ต่อ

ต่อที่ 1 สแกนปั๊บ เลือกรับเลย บัตรกำนัลส่วนลด สูงสุด 10,000 บาท หรือ ส่วนลดดอกเบี้ย สุงสุด 0.4% หรือ แพ็กเกจเช็กระยะ Smart Plan 50,000 กม.

ต่อที่ 2 จองใน 7 วัน ลุ้นรับเพิ่ม บัตรกำนัลสูงสุด 100,000 บาท ทุกสัปดาห์ 3,200 รางวัล

ต่อที่ 3 รับรถแล้ว ลุ้นรางวัล ทริปญี่ปุ่น รางวัลละ 2 ที่นั่ง 10 รางวัล

ตั้งแต่ 4 พฤศจิกายน 2568 – 31 ธันวาคม 2568

ชุดอุปกรณ์ตกแต่งแท้โตโยต้า ยกระดับความเท่ให้ HILUX TRAVO ด้วยชุดอุปกรณ์ตกแต่งแท้โตโยต้า แข็งแกร่ง ดุดัน พร้อมลุย ตอบโจทย์ทุกการใช้งาน พร้อมการรับประกันสูงสุด 3 ปี หรือ 100,000 กม.
ชุดอุปกรณ์ตกแต่ง CHARISMO ROCK :

“ตกแต่งอย่างมีสไตล์ ด้วยดีไซน์ที่เป็นเอกลักษณ์” สู่อีกขั้นของภาพลักษณ์ออฟโรดที่ไม่ซ้ำใคร

  • ชุดอุปกรณ์ตกแต่ง CHARISMO ROCK สำหรับรุ่น สแตนดาร์ดแค็บ
  • ราคาขายปลีกแนะนำ 14,750 บาท* หรือผ่อนเพิ่มเริ่มต้น 174 บาท/เดือน**
  1. ชุดตกแต่งกันชนหน้า ราคา 6,000 บาท
  2. คิ้วตกแต่งฝากระโปรงด้านข้าง ราคา 1,600 บาท
  3. กรอบรองที่จับประตู (สีดำ) ราคา 950 บาท
  4. ชุดตกแต่งซุ้มล้อ ราคา 6,200 บาท

  • ชุดอุปกรณ์ตกแต่ง CHARISMO ROCK สำหรับรุ่น สมาร์ทแค็บ และ ดับเบิ้ลแค็บ
  • ราคาขายปลีกแนะนำสำหรับรุ่นดับเบิ้ลแค็บ 14,900 บาท* หรือผ่อนเพิ่มเริ่มต้น 172 บาท/เดือน***
  1. ชุดตกแต่งกันชนหน้า ราคา 6,000 บาท
  2. คิ้วตกแต่งฝากระโปรงด้านข้าง ราคา 1,600 บาท
  3. กรอบรองที่จับประตู (สีดำ) ราคา 1,900 บาท
  4. คิ้วกันกระแทกประตู ราคา 3,500 บาท
  5. สปอยเลอร์ฝาท้ายกระบะ ราคา 1,900 บาท

  • ชุดอุปกรณ์ตกแต่ง CHARISMO ROCK สำหรับรุ่น ดับเบิ้ลแค็บ Overland
  • ราคาขายปลีกแนะนำ 8,900 บาท* หรือผ่อนเพิ่มเริ่มต้น 103 บาท/เดือน***
  1. คิ้วตกแต่งฝากระโปรงด้านข้าง ราคา 1,600 บาท
  2. กรอบรองที่จับประตู (สีดำ) ราคา 1,900 บาท
  3. คิ้วกันกระแทกประตู ราคา 3,500 บาท
  4. สปอยเลอร์ฝาท้ายกระบะ ราคา 1,900 บาท
  • ชุดอุปกรณ์ตกแต่ง CHARISMO ROCK สำหรับรุ่น TRAVO-e
  • ราคาขายปลีกแนะนำสำหรับรุ่นดับเบิ้ลแค็บ 14,900 บาท* หรือผ่อนเพิ่มเริ่มต้น 172 บาท/เดือน***
  1. ชุดตกแต่งกันชนหน้า ราคา 6,000 บาท
  2. คิ้วตกแต่งฝากระโปรงด้านข้าง ราคา 1,600 บาท
  3. กรอบรองที่จับประตู (สีดำ) ราคา 1,900 บาท
  4. คิ้วกันกระแทกประตู ราคา 3,500 บาท
  5. สปอยเลอร์ฝาท้ายกระบะ ราคา 1,900 บาท

นอกจากนี้ยังมีอุปกรณ์ตกแต่งแท้โตโยต้าอื่นๆเพิ่มเติม เพื่อเติมเต็มความต้องการและการใช้งานของลูกค้า เช่น พรมปูพื้นรถยนต์แบบเข้ารูป, โลโก้ TOYOTA บนฝากระบะท้าย, กล้องบันทึกภาพด้านหน้าและหลัง รุ่น 2K/4K, แผงบังแดดข้าง, สคัฟเพลท, ชุดตกแต่งฝาถังน้ำมัน, อุปกรณ์ช่วยผ่อนแรงเปิด-ปิดฝากระโปรง, อุปกรณ์ช่วยผ่อนแรงปิดฝาท้าย, อุปกรณ์ล็อคฝาท้ายกระบะรถยนต์ด้วยรีโมทรถยนต์ รายละเอียดเพิ่มเติมสามารถศึกษาได้ที่: https://www.toyota.co.th/accessories/

หมายเหตุ

  • *ราคาขายปลีกแนะนำรวมภาษีมูลค่าเพิ่ม 7% และราคาดังกล่าวไม่รวมค่าแรงติดตั้ง
  • **ราคาผ่อนเพิ่ม ไม่รวมค่าติดตั้ง คำนวณเฉพาะอุปกรณ์ตกแต่งบนรถรุ่นสแตนดาร์ดแค็บ(ไม่รวมราคาตัวรถ) โดยโตโยต้าลีสซิ่ง ดาวน์ 25% ระยะเวลา 84 เดือน ดอกเบี้ย 4.49% (ดอกเบี้ยมาตรฐาน สำหรับเดือนพ.ย.2568)
  • ***ราคาผ่อนเพิ่ม ไม่รวมค่าติดตั้ง คำนวณเฉพาะอุปกรณ์ตกแต่งบนรถรุ่นดับเบิ้ลแค็บ(ไม่รวมราคาตัวรถ) โดยโตโยต้าลีสซิ่ง ดาวน์ 25% ระยะเวลา 84 เดือน ดอกเบี้ย 4.09% (ดอกเบี้ยมาตรฐาน สำหรับเดือนพ.ย.2568)
  • ชุดอุปกรณ์ตกแต่ง CHARISMO ROCK ที่จัดจำหน่ายผ่านช่องทางผู้แทนจำหน่ายโตโยต้า อยู่ภายใต้เงื่อนไขการรับประกันคุณภาพอุปกรณ์ตกแต่งแท้โตโยต้าสูงสุด 3 ปี หรือ 100,000 กม. แล้วแต่ระยะใดถึงก่อน (ตามรุ่นรถยนต์ที่บริษัทฯกำหนด โปรดศึกษารายละเอียดจากคู่มือการรับประกันคุณภาพและคู่มือการใช้งานรถยนต์)

โปรดศึกษารายละเอียดการรับประกันเพิ่มเติมได้ที่ https://www.toyota.co.th/accessories/warranty/tga

ชุดอุปกรณ์ตกแต่ง GR PARTS (จัดจำหน่ายโดยบริษัท ทีซีดี เอเชีย เซลส์ จำกัด) ยกระดับ HILUX TRAVO เติมเต็มภาพลักษณ์ความสปอร์ตดุดันขั้นสุด

  • ชุดอุปกรณ์ตกแต่ง GR PARTS สำหรับรุ่น สแตนดาร์ดแค็บ สมาร์ทแค็บ และ ดับเบิ้ลแค็บ
  • ราคาเริ่มต้น 20,470บาท*
  1. กระจังหน้า ราคา 8,900 บาท
  2. ชุดกันกระแทกใต้ท้องรถ ส่วนหน้า ราคา 6,070 บาท
  3. ชุดบังโคลนสีแดง/สีดำ ราคา 5,500 บาท (4ชิ้นต่อชุด)
  • ชุดอุปกรณ์ตกแต่ง GR PARTS สำหรับรุ่น ดับเบิ้ลแค็บ Overland
  • ราคาเริ่มต้น 29,460 บาท*
  1. กระจังหน้า ราคา 8,900 บาท
  2. ชุดแต่งซุ้มล้อ ราคา 8,990 บาท
  3. ชุดกันกระแทกใต้ท้องรถ ส่วนหน้า ราคา 6,070 บาท
  4. ชุดบังโคลนสีแดง/สีดำ ราคา 5,500 บาท (4ชิ้นต่อชุด)

นอกจากนี้ ยังมีอุปกรณ์ตกแต่ง GR PARTS ที่ออกแบบมาเพื่อเพิ่มความดุดันและเสริมความอเนกประสงค์ได้อย่างลงตัว อาทิ เช่น บันไดข้าง, ชุดแต่งคอกกระบะหลัง, ชุดแร๊คหลังคาสัมภาระ,  ล้ออัลลอยด์แบรนด์ GR ขนาด 17นิ้ว และ ชุดน็อตล้อ GR รายละเอียดสามารถติดต่อสอบถามเพิ่มเติมได้ที่ตัวแทนจำหน่ายโตโยต้าทั่วประเทศ

หมายเหตุ

  • *ราคาขายปลีกแนะนำรวมภาษีมูลค่าเพิ่ม 7% และราคาดังกล่าวไม่รวมค่าแรงติดตั้ง
  • อุปกรณ์ตกแต่ง GR PARTS ไม่อยู่ในเงื่อนไขการรับประกันคุณภาพรถยนต์โตโยต้าและอะไหล่แท้โตโยต้า
  • อุปกรณ์ตกแต่ง GR PARTS ผลิตและรับประกันโดยบริษัท ทีซีดี เอเชีย เซลส์ จำกัด ติดตั้งกับรถใหม่ (ต้องติดตั้งโดยผู้แทนจำหน่ายเท่านั้น) ระยะเวลารับประกันคุณภาพสูงสุด 1 ปี หรือ 20,000 กิโลเมตร (แล้วแต่ระยะใดถึงก่อน) อ้างอิงเงื่อนไขการรับประกันสินค้าจากบริษัท ทีซีดี เอเชีย เซลส์ จำกัด

Design My Toyota จากไอเดีย สู่คันจริงที่คุณดีไซน์เอง

Design My Toyota โปรแกรมแต่งรถเสมือนจริงใหม่ล่าสุดที่ออกแบบมาเพื่อยกระดับประสบการณ์การเป็นเจ้าของรถยนต์โตโยต้าพร้อมอุปกรณ์ตกแต่งให้สะดวกและทันสมัยยิ่งขึ้น มาพร้อมฟังก์ชั่นการใช้งานที่ง่ายและสะดวกต่อผู้ใช้งาน

  • Vehicle Selection เลือกรุ่นรถ เกรด และสีรถ สำหรับตกแต่งและคำนวณค่าใช้จ่ายรวมถึงยอดผ่อนต่อเดือนได้ง่ายๆ
  • Accessories Selection เลือกตกแต่งรถด้วยอุปกรณ์ตกแต่งแท้โตโยต้าและอุปกรณ์ตกแต่งจากพันธมิตรได้ทุกหมวดหมู่ ทั้งภายนอก ภายใน อุปกรณ์ไฟฟ้า และอื่นๆ พร้อมข้อมูลผลิตภัณฑ์เพื่อช่วยในการตัดสินใจ
  • Monthly Installment ทดลองคำนวณค่าผ่อนต่องวดเพิ่มเติมตามยอดเงินดาวน์ ลดความกังวลเรื่องค่าใช้จ่าย
  • Save & Share บันทึกหรือแชร์เป็นรูปภาพหรือไฟล์ง่าย ๆ เพียงคลิกเดียว ไม่ต้องล็อกอินหรือกรอกข้อมูลเพิ่มเติม
  • Connect to Dealer ส่งข้อมูลทั้งหมด ทั้งรุ่นรถ อุปกรณ์ตกแต่ง และแผนผ่อนต่อเดือนให้กับผู้แทนจำหน่าย โตโยต้าที่คุณเลือกเพื่อรับการติดต่อกลับจากผู้แทนจำหน่ายโตโยต้า

Design My Toyota พร้อมให้ลูกค้าทุกคนเข้ามาสัมผัสประสบการณ์ออกแบบรถยนต์โตโยต้า HILUX TRAVO พร้อมอุปกรณ์ตกแต่งในแบบของตัวเองได้แล้วหลังจากเปิดจำหน่าย HILUX TRAVO อย่างเป็นทางการ ที่เว็บไซต์ https://www.toyota.co.th/accessories/designmytoyota

หมายเหตุ: ภาพรถที่ใช้ในโปรแกรมการแต่งรถเสมือนจริง (Design My Toyota) จะแสดงผลเฉพาะหมวดอุปกรณ์ตกแต่งภายนอก เท่านั้น

เรื่อง : พุทธิ ผาสุข

Comments are closed, but trackbacks and pingbacks are open.