TOYOTA HILUX REVO… เจาะลึก ทุกมิติ ของ REVO 4×4…STANDARD CAB—SMART CAB—DOUBLE CAB
HILUX REVO 4×4
TOYOTA HILUX REVO…STANDARD CAB 4×4
DESIGN
การออกแบบที่เป็นเอกลักษณ์ ด้วยการผสมผสานรูปแบบความทันสมัยให้กับรถยนต์เพื่อการพาณิชย์ ซึ่งช่วยสร้างความเหมาะสมอย่างมากในการใช้เป็นรถยนต์นั่งในชีวิตประจำวันได้อย่างลงตัว ด้วยรูปโฉมที่แข็งแกร่งปฏิวัติทุกความเชื่อ…
ภายนอกเร้าใจทุกมุมมอง ด้วยเส้นสายที่เป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัว ชุดไฟหน้าฮาโลเจน มัลติรีเฟลกเตอร์พร้อม Daytime Running Lights กระจังหน้าและกันชนหน้าออกแบบอย่างลงตัวสอดประสานกับชุดไฟหน้า ด้านบนติดตั้งเสาอากาศแบบสั้น สปอร์ต ทันสมัยพับเก็บได้ ไฟท้ายพร้อมไฟตัดหมอก (Rear Combination Lamp with Fog Lamp) ออกแบบพิเศษให้สว่างชัดเจนมองเห็นได้ในระยไกล พร้อมครีบช่วยการทรงตัว (Aero Stabilizing Fin) ช่วยเพิ่มเสถียรภาพในการขับขี่
กระบะท้ายขยายให้กว้างขึ้นสามารถรองรับตะกร้าผลไม้ขนาดมาตรฐานได้ 14 ใบ รองรับน้ำหนักได้เต็มประสิทธิภาพ
INTERIOR
ภายในออกแบบให้หรูหรา และสะดวกสบายในการใช้งาน ลดเสียงรบกวนจากภายนอกอย่างเหมาะสม ตกแต่งห้องโดยสารในโทนสีดำทั้งพื้นที่คอนโซลด้านหน้า ชุดพวงมาลัยสามารถปรับระดับได้ 2 ทิศทางใช้วัสดุหุ้มที่มีสัมผัส กระชับ มั่นคงแรงสั่นสะเทือนต่ำ ชุดเครื่องเสียงดีไซน์สปอร์ต พร้อมลำโพง 2 ตำแหน่ง รองรับการเชื่อมต่อ USB / AUX / Bluetooth เพิ่มพื้นที่ใช้สอยด้วยกล่องเก็บของอเนกประสงค์ขนาดใหญ่บริเวณคอนโซนหน้า
ช่องต่อไฟอเนกประสงค์ใช้งานง่าย คันเกียร์ธรรมดาแบบ 6 สปีด กับสวิทช์ควบคุม(4WD Switch) เลือกโหมดการขับเคลื่อนแบบหมุน Shift –On-The-Fly -2H , 4H , 4L พร้อมด้วยปุ่มกดสั่งการทำงานของระบบล็อกเฟืองท้ายทำงานด้วยไฟฟ้า
ENGINE&TRANSMISSION
เครื่องยนต์ใหม่ บล็อก 1GD-FTV(HIGH) แบบดีเซล 2.8 ลิตร ให้กำลังสูงสุด 177 แรงม้า ที่ 3,400 รอบ/นาที แรงบิดสูงสุด 420 นิวตัน-เมตร ที่ 1,400-2,600 รอบ/นาที เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมได้มาตรฐาน Euro 4 ประหยัดน้ำมัน เสียงรบกวนต่ำ รองรับการใช้งานได้เต็มสมรรถนะ มาพร้อมระบบเกียร์ธรรมดาอัจฉริยะ iMT 6 สปีด ครั้งแรกในรถกระบะให้ทุกการขับขี่ง่ายดาย ราบรื่นทุกจังหวะความเร็ว
SUSPENSION&BRAKE
ระบบช่วงล่าง DCS (Dynamic Control Suspension) ผ่านการทดสอบในทุกสภาพถนน แกร่ง ทนทานและยังโดดเด่นทางด้านการทรงตัว ไม่ว่าจะเป็นถนนขรุขระ หรือเข้าโค้งเส้นทางคดเคี้ยว
ระบบกันสะเทือนใหม่ (New Suspension System) ด้านหน้าแบบอิสระปีกนกคู่ คอยล์สปริงและเหล็กกันโคลง โช้คอัพออกแบบให้ใหญ่ขึ้นเพื่อการยึดเกาะถนน โดยเฉพาะเมื่อต้องวิ่งเส้นทางออฟโรด ด้านหลังออกแบบแหนบให้ยาวขึ้น ระยะห่างแหนบซ้าย-ขวา ขยายให้กว้างกว่าเดิม ดูดซับแรงสั่นสะเทือนได้นุ่มนวล เพิ่มเสถียรภาพการทรงตัวทั้งแนวเส้นตรงและเข้าโค้ง ทำให้ตัวรถนิ่งในทุกสภาวะการขับขี่
TOYOTA HILUX REVO…SMART CAB 4×4
DESIGN
ความรู้สึกที่ดึงดูดในทุกมุมมอง ด้วยชุดไฟหน้าฮาโลเจน มัลติรีเฟล็กเตอร์ ปรับระดับสูง-ต่ำ และไฟ Daytime Running Lights กระจังและกันชนเส้นสายลงตัว มาพร้อมกับชุดไฟตัดหมอกด้านล่าง ชุดบันไดด้านข้างเพิ่มความสะดวกในการขึ้น-ลงรถ กระจกมองข้างโครเมียม พร้อมสัญญาณไฟเลี้ยวเพิ่มความปลอดภัย มีครีบช่วยการทรงตัว (Aero Stabilizing Fin) เพิ่มเสถียรภาพการขับขี่ให้ดียิ่งขึ้น ด้านบนติดตั้งเสาอากาศแบบสั้นพับเก็บได้ โฉบเฉี่ยวสไตล์สปอร์ต
ชุดไฟท้ายพร้อมไฟตัดหมอก (Rear Combination Lamp with Fog Lamp) ออกแบบให้สว่างชัดเจน มองเห็นได้ในระยะไกล พร้อมครีบช่วยการทรงตัว (Aero Stabilizing Fin) ประตูสมาร์ท แค็บเปิด-ปิดได้ เข้า-ออกง่าย สะดวกในการใช้งาน พร้อมระบบล็อก 2 ชั้น แข็งแรง แน่นหนา โครงสร้างขอบประตูออกแบบให้แข็งแกร่งเป็นพิเศษเพื่อความปลอดภัย
INTERIOR
ห้องโดยสารเงียบด้วยการติดตั้งวัสดุซับเสียงคุณภาพสูง (Sound Absorption) พิถีพิถันด้วยวัสดุตกแต่ง พวงมาลัยมัลติฟังก์ชั่นปรับระดับ 4 ทิศทางทั้งสูง-ต่ำ หรือดึงเข้า-ออก มองผ่านลงไปที่หน้าปัดตรงกลางมีจอแสดงข้อมูลการขับขี่ MID ชัดเจนอ่านง่าย ตกแต่งด้วยวัสดุสีดำตัดกับสีเมทัลลิกตามจุดต่างๆ ของขอบพื้นที่เช่นฐานเกียร์ ระบบเครื่องเสียงกับหน้าจอสัมผัสขนาด 7 นิ้ว รองรับการเชื่อมต่อ USB / AUX / Bluetooth พร้อมลำโพง 6 ตำแหน่ง มีกล่องเก็บของพร้อมระบบรักษาความเย็น (Cool Box) ขนาดใหญ่บริเวณคอนโซลหน้า เติมเต็มความสดชื่นในการเดินทาง มาพร้อมที่เก็บแว่นตากันแดดและไฟอ่านแผนที่ด้านบน
คอนโซลกลางกับเกียร์ธรรมดา 6 สปีด iMT เลือกรูปแบบการขับขี่ ECO หรือ PWR-POWER โหมด พร้อมระบบขับเคลื่อน 4 ล้อ (4WD Switch) ที่ใช้การควบคุมด้วยไฟฟ้าสวิทช์แบบหมุน Shift –On-The-Fly – 2H , 4H , 4L ได้อย่างรวดเร็วง่ายดาย พร้อมระบบล็อกเฟืองท้ายควบคุมด้วยไฟฟ้าแบบสวิทช์ปุ่มกด แสดงผลการทำงานที่หน้าปัดเรือนไมล์
ENGINE&TRANSMISSION
เครื่องยนต์ใหม่ บล็อก 2GD-FTV (High) 2.4 ลิตร 4 สูบ 16 วาล์ว DOHC VN Turbo และ Intercooler ให้กำลังสูงสุด150 แรงม้า ที่ 3,400 รอบ/นาที แรงบิดสูงสุด 400 นิวตัน-เมตร ที่ 1,600-2,000 รอบ/นาที ระบบเกียร์ธรรมดาอัจฉริยะ iMT 6 สปีด ครั้งแรกในรถกระบะให้ทุกการขับขี่ง่ายดาย ราบรื่นทุกจังหวะความเร็ว
SUSPENSION&BRAKE
ระบบกันสะเทือนใหม่ (New Suspension System) ด้านหน้าแบบอิสระปีกนกคู่ คอยล์สปริงและเหล็กกันโคลง โช้คอัพออกแบบให้ใหญ่ขึ้นเพื่อการยึดเกาะถนน ด้านหลังออกแบบแหนบให้ยาวขึ้น ระยะห่างแหนบซ้าย-ขวา ขยายให้กว้างกว่าเดิม ดูดซับแรงสั่นสะเทือนได้นุ่มนวล เพิ่มเสถียรภาพการทรงตัว ทั้งแนวเส้นตรงและเข้าโค้ง ทำให้ตัวรถนิ่งในทุกสภาวะการขับขี่
TOYOTA HILUX REVO…DOUBLE CAB 4×4…
DESIGN
ฟันฝ่าทุกอุปสรรค พร้อมความงามสง่าทุกมิติ ชุดไฟหน้าโปรเจคเตอร์ปรับระดับสูง-ต่ำ พร้อมฟังก์ชั่นเปิด-ปิดอัตโนมัติและไฟ LED Daytime Running Lights โฉบเฉี่ยวดุดัน พร้อมไฟตัดหมอก ส่องสว่างเพิ่มทัศนวิสัยในทุกสภาวการณ์ กันชนและกระจังหน้าเข้าชุดกับชุดไฟหน้า บันไดข้าง กระจกมองข้างโครเมี่ยมพร้อมสัญญาณไฟเลี้ยว มีครีบช่วยในการทรงตัว (Aero Stabilizing Fin) เพิ่มเสถียรภาพการขับขี่ให้ดียิ่งขึ้น ติดตั้งชุดเสาอากาศแบบสั้น พับเก็บได้สไตล์สปอร์ต
ไฟท้ายพร้อมไฟตัดหมอก (Rear Combination Lamp with Fog Lamp) ออกแบบให้สว่างชัดเจนมองเห็นได้ในระยะไกล เพิ่มความปลอดภัยในการขับขี่
INTERIOR
ห้องโดยสารใช้วัสดุตกแต่งหรูหรา คุณภาพสูง พวงมาลัยแบบมัลติฟังก์ชั่นควบคุมทุกฟังก์ชั่นการใช้งานได้เพียงปลายนิ้วสัมผัส ปรับระดับได้ 4 ทิศทาง รองรับทุกสรีระของผู้ขับขี่ได้สมบูรณ์ กระชับนุ่มนวล มั่นคง แรงสั่นสะเทือนต่ำ ผ่อนคลายทุกการเดินทาง พร้อมระบบควบคุมความเร็วอัตโนมัติ (Cruise Control) รักษาความเร็วให้คงที่โดยไม่ต้องเหยียบคันเร่งลดความเมื่อยล้า เมื่อเดินทางไกล ระบบเครื่องเสียงพร้อมเนวิเกเตอร์ แบบหน้าจอสัมผัส ขนาด 7 นิ้ว รองรับระบบนำทาง T-Connect และการเชื่อมต่อ USB / AUX / Bluetooth พร้อมลำโพง 6 ตำแหน่ง
กล่องเก็บของพร้อมระบบรักษาความเย็น (Cool Box) ขนาดใหญ่บริเวณคอนโซลหน้า เติมเต็มความสดชื่นในการเดินทาง มาพร้อมที่เก็บแว่นตากันแดดและไฟอ่านแผนที่ด้านบน
ENGINE&TRANSMISSION
เครื่องยนต์ใหม่ บล็อก 1GD-FTV(HIGH) แบบดีเซล 2.8 ลิตร ให้กำลังสูงสุด 177 แรงม้า ที่ 3,400 รอบ/นาที แรงบิดสูงสุด 450 นิวตัน-เมตร ที่ 1,600-2,400 รอบ/นาที ระบบตัดการทำงานของเครื่องยนต์อัตโนมัติ (Stop & Start System) เมื่อรถหยุดนิ่ง ระบบจะตัดการทำงานของเครื่องยนต์ชั่วขณะ และจะสตาร์ทเครื่องยนต์ขึ้นใหม่ โดยอัตโนมัติเมื่อแตะคันเร่ง ช่วยให้ประหยัดน้ำมันและลดไอเสียได้อย่างมีประสิทธิภาพ
SUSPENSION&BRAKE
ด้วยระบบกันสะเทือนใหม่ (New Suspension System) ด้านหน้าแบบอิสระปีกนกคู่ คอยล์สปริงและเหล็กกันโคลง โช้คอัพออกแบบให้ใหญ่ขึ้นเพื่อการยึดเกาะถนน ด้านหลังออกแบบแหนบให้ยาวขึ้น ระยะห่างแหนบซ้าย-ขวา ขยายให้กว้างกว่าเดิม ดูดซับแรงสั่นสะเทือนได้นุ่มนวล เพิ่มเสถียรภาพการทรงตัวทั้งแนวเส้นตรงและเข้าโค้ง ทำให้ตัวรถนิ่งในทุกสภาวะการขับขี่
มั่นใจอีกขั้น ด้วยยาง All Terrain คุณภาพสูง เกาะถนนดีเยี่ยม ให้ความรู้สึกนุ่มนวลในทุกสภาพถนน
NEW TECHNOLOGY
โตโยต้าเริ่มต้นสายพานการผลิตกระบะขนาด 1 ตัน ออกจำหน่ายครั้งแรกในปี พ.ศ.2511 โดยใช้ชื่อทางการค้าว่า “ไฮลักซ์” ประสบความสำเร็จได้รับความนิยมเป็นอย่างสูงตลอดระยะเวลาเกือบ 50 ปี
ภายใต้โครงการ “IMV:Innovative International Multi-Purpose Vehicle” ในวันนี้กับ ไฮลักซ์ เจเนอเรชั่นที่ 8 Hilux REVO (ไฮลักซ์ รีโว่)
-มาพร้อมอีกขั้นของความล้ำหน้าในส่วนของการดีไซน์ทั้ง DESIGN…REVOLUTION OF STYLING…ปฏิวัติดีไซน์ใหม่ เร้าใจทุกมุมมอง
-ชุดไฟ LED Daytime Running Lights & ไฟตัดหมอกหน้า-หลัง
-ครีบช่วยการทรงตัว (Aero Stabilizing Fin)
-กระจกไฟฟ้าแบบขึ้น-ลงอัตโนมัติ พร้อมระบบป้องกันการหนีบ (Jam Protection) ทั้ง 4 บาน
INTERIOR…REVOLUTION OF COMFORT…ปฏิวัติความหรูหรา สู่ความสบายที่เหนือกว่า
-ออกแบบห้องโดยสารใหม่ ขนาดใหญ่ เช่นเดียวกับรถยนต์นั่งอเนกประสงค์ ติดตั้งวัสดุซับเสียง พร้อมที่เก็บของข้างประตูเก็บขวดน้ำขนาด 1 ลิตรได้ , ที่พักแขนเบาะหลังพร้อมที่วางแก้ว , ช่องต่ออุปกรณ์ไฟฟ้า กระแสสลับ AC 220 V , ช่องเก็บของพร้อมระบบรักษาความเย็น (Cool Box) ขนาดใหญ่บริเวณคอนโซลหน้า
-ระบบ Smart Entry ล็อกและปลดล็อกประตูโดยไม่ต้องกดปุ่มรีโมท
-ระบบ Push Start สตาร์ทเครื่องยนต์เพียงปลายนิ้ว
-จอแสดงผลข้อมูลการขับขี่ขนาด 4.2 นิ้ว ที่หน้าปัด
-ระบบควบคุมความเย็นในห้องโดยสารอัตโนมัติ พร้อมช่องปรับอากาศสำหรับเบาะหลัง
ENGINE…REVOLUTION OF POWER…ปฏิวัติความแรง กว่าที่เคยแรง
-เครื่องยนต์ใหม่ ระบบดีเซล คอมมอนเรล GD Efficient Boost เจเนอเรชั่นล่าสุด
-VN Turbo แรงสุดพลัง แต่ประหยัดสุดขีด ด้วยระบบเทอร์โบแปรผันใหม่ ออกแบบให้มีขนาดเล็กลงแต่มีประสิทธิภาพมากขึ้น พร้อมระบบเปิด-ปิดครีบปรับแรงดันอากาศด้วยไฟฟ้าที่ทำงานแม่นยำสูง
–ระบบฉีดน้ำมันอัจฉริยะ พร้อมปั๊มแรงดันสูง 220 MPa
-Roller Rocker Arm with Valve Lash Adjuster ออกแบบพิเศษเพื่อลดแรงเสียดทานระหว่างลูกเบี้ยวและกระเดื่องวาล์วในการเปิด-ปิด พร้อมระบบปรับตั้งวาล์วอัตโนมัติ ประหยัดค่าบำรุงรักษา
-EGR (Exhaust Gas Recirculation) ด้วยระบบนำไอเสียหมุนเวียนกลับมาใช้ใหม่ ช่วยลดความร้อนของเครื่องยนต์ขณะทำงาน พร้อมลดมลพิษเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม ตามมาตรฐาน Euro 4
–ระบบตัดการทำงานของเครื่องยนต์อัตโนมัติ (Stop & Start System) เมื่อรถหยุดนิ่ง ระบบจะตัดการทำงานของเครื่องยนต์ และจะสตาร์ทเครื่องยนต์ขึ้นใหม่ โดยอัตโนมัติ ระบบปรับอากาศทำงานปกติ ซึ่งระบบนี้ได้รับการทดสอบถึงความทนทานมากกว่า 100,000 ครั้งของการเริ่มสตาร์ทเครื่องยนต์ใหม่อัตโนมัติ
– TRANMISSION…REVOLUTION OF CONTROL…ปฏิวัติใหม่ แห่งการควบคุม
-ระบบเกียร์ธรรมดาอัจฉริยะ iMT 6 สปีด
-ระบบเกียร์อัตโนมัติ 6 สปีด (Super Intelligent ECT)
-สวิทช์ปรับรูปแบบการขับขี่ (Drive Mode Switch) แบบประหยัด (ECO Mode) และแบบสมรรถนะสูง (Power Mode) ตอบสนองทุกสภาพการขับขี่
-สวิทช์ปรับระบบขับเคลื่อนสี่ล้อ (4WD Swith) ได้อย่างสะดวกและง่ายแบบ Shift-On-The-Fly เป็นการพัฒนาจากแบบใช้คันเกียร์ช่วยและเข้าด้วยมือมาเป็นแบบสวิทช์หมุนควบคุมด้วยไฟฟ้า ซึ่งออกแบบให้มีความทนทานต่อสิ่งแปลกปลอมเช่นน้ำ ดินโคลนและความชื้น
-ระบบป้องกันล้อหมุนฟรีแบบแอคทีฟ A-TRC (Active Traction Control) เป็นการพัฒนาเพื่อการขับขี่สไตล์ Off Road อย่างแท้จริง
-ระบบล็อกเฟืองท้าย (Diff Lock) ควบคุมการทำงานด้วยไฟฟ้า
NEW TECHNOLOGY
SUSPENSION…REVOLUTION OF STABILITY…ปฏิวัติความเหนือชั้น ทุกการทรงตัว
-ช่วงล่างใหม่ DCS (Dynamic Control Suspension) ที่มาพร้อมระบบกันสะเทือนใหม่ (New Suspension System) ส่วนประกอบใหม่อย่างชุดแหนบออกแบบให้ยาวขึ้น ระยะห่างของแหนบซ้าย-ขวา ถูกขยายให้กว้างกว่าเดิม ทำงานร่วมกับโช้คอัพใหม่ ขนาดใหญ่ขึ้น เพิ่มสมรรถนะการยึดเกาะถนนโดยเฉพาะ เมื่อต้องวิ่งบนเส้นทาง Off Road
-ออกแบบโครงสร้างแชสซีส์ใหม่จากเหล็กกล้า FIRM (Frame with Integrated Rigidity Mechanism) ทนทานยิ่งขึ้นอีก 20% ด้วยการเพิ่มขนาดพื้นที่ตัดขวางของแชสซีส์ให้ใหญ่ขึ้น ดูดซับแรงกระแทกจากการชนได้ดีกว่าเดิมถึง 15%
-ระบบควบคุมเสถียรภาพของห้องโดยสาร (Body Control with Torque Demand) ระบบจะทำการควบคุมแรงบิด ช่วยลดการกระพือของห้องโดยสารอันเนื่องมาจากสภาพถนนช่วยให้การขับขี่ราบเรียบ และมั่นคงยิ่งขึ้น (เฉพาะเครื่องยนต์ดีเซล)
ACTIVE&PASSIVE…REVOLUTION OF SAFETY…ปฏิวัติระบบความปลอดภัย มั่นใจทุกสถานการณ์
–ระบบป้องกัน Active Safety
-ระบบป้องกันล้อหมุนฟรี (Traction Control) ป้องกันการเกิดอาการล้อหมุนฟรี เมื่อขับอยู่บนผิวถนนที่ลื่น
-ระบบควบคุมการทรงตัว VSC (Vehicle Stability Control) ขณะเข้าโค้งบนถนนที่เปียกลื่น
-ระบบป้องกันล้อล็อก ABS (Anti-lock Braking System) เมื่อต้องเบรกกะทันหัน
-ระบบกระจายแรงเบรก EBD (Electronic Brake-force Distribution) ช่วยกระจายแรงเบรกในแต่ละล้ออย่างสมดุล
-ระบบเสริมแรงเบรก BA (Brake Assist) ในสภาวะเบรกฉุกเฉินระบบจะเพิ่มแรงเบรกโดยอัตโนมัติ
-ระบบควบคุมการส่ายของส่วนพ่วงท้าย TSC (Trailer Sway Control) เมื่อวิ่งบนพื้นถนนขรุขระ หรือใช้งานลากจูงและต้องเผชิญลมพัดขวางแรง เซ็นเซอร์จะปรับแรงดันเบรกและกำลังของเครื่องยนต์ให้เหมาะสมช่วยรักษาเสถียรภาพ ป้องกันการส่ายหรือเสียการทรงตัว
-ระบบช่วยออกตัวบนทางลาดชัน HAC (Hill-start Assist Control) เมื่อ ต้องออกตัวบนทางลื่นและทางลาดชัน ระบบจะเพิ่มแรงดันเบรกไปยังล้อทั้ง 4 อัตโนมัติ เพื่อ ป้องกันการลื่นไถลลงเนินชันในจังหวะที่ผู้ขับขี่ถอนเท้าจากแป้นเบรกไปเหยียบคันเร่ง ช่วยให้ควบคุมรถได้อย่างมั่นคง
– ระบบควบคุมความเร็วขณะลงทางลาดชัน DAC (Downhill Assist Control) เมื่อต้องขับเคลื่อนลงเนินชัน ระบบจะควบคุมแรงดันเบรกที่ล้ออัตโนมัติ โดยไม่ จำเป็นต้องแตะเบรก ช่วยให้เคลื่อนที่ลงเนินชันด้วยความเร็วสม่ำเสมอ ปลอดภัยตลอดเส้นทาง
– กล้องมองหลัง ระบบจะแสดงภาพบริเวณมุมมองด้านหลังของรถผ่านจอ LCD เมื่อ เข้าเกียร์ถอย ช่วยให้ถอยจอดได้อย่างแม่นยำปลอดภัยยิ่งขึ้น
–ระบบปกป้อง Passive Safety
-ถุงลมเสริมความปลอดภัย 7 ตำแหน่งรอบคัน มั่นใจอีกขั้นด้วยการปกป้องเหนือชั้น ทั้งผู้ขับขี่และผู้โดยสาร ลดการบาดเจ็บจากแรงกระแทกเมื่อเกิดอุบัติเหตุได้อย่างเต็ม ประสิทธิภาพ ด้วยถุงลมเสริมความปลอดภัยด้านหน้า 2 ตำแหน่ง / ด้านข้าง 2 ตำแหน่ง / ม่าน 2 ตำแหน่ง / เข่าคนขับ 1 ตำแหน่ง
-โครงสร้างตัวถังนิรภัย โครงสร้างห้องโดยสารได้รับการพัฒนาเป็นกรณีพิเศษ ให้ แข็งแกร่งยิ่งขึ้นโดยการใช้เหล็กกล้าแรงดึงสูง (High Tensile Strength Steel) เพิ่มประสิทธิภาพการดูดซับและกระจายแรงกระแทกจากการชนได้อย่างดีเยี่ยม พร้อมปกป้องผู้โดยสารในทุกสถานการณ์
ในปัจจุบันกับระบบขับเคลื่อนสี่ล้อในรถปิกอัพ ทได้ถูกพัฒนาไปอย่างมากนั้น ส่วนหนึ่งก็เพื่อมารองรับการใช้งานบนถนน ON ROAD อย่างเหมาะสมด้วย ระบบขับเคลื่อนสี่ล้อแบบ PART TIME ซึ่งสามารถเลือกระบบการถ่ายทอดกำลัง 2H หรือ 4H เพื่อใช้งานได้
โดยทั่วไประบบขับเคลื่อนแบบ 2H ซึ่งจะขับเคลื่อนในล้อด้านหลัง ซึ่งเหมาะสมกับการ ขับขี่บนถนน ON ROAD ทั่วไป ทั้งสามรูปแบบตัวถังของ “ไฮลักซ์ รีโว่” มีความคล่องตัวในการขับขี่ใช้งานแม้จะเป็นการขับขี่ในเมืองที่การจราจรติดขัด
จากคุณสมบัติของตัวรถที่ยกสูง ทัศนะวิสัยและความสมบุกสมบันก็คือสิ่งที่เป็นคุณสมบัติติดตัวมา เมื่อบวกกับการดีไซน์ที่ลงตัวของรถ ประเภทของการใช้งานแบบส่วนบุคคล ใช้เดินทางในชีวิตประจำวันก็ดูว่าเหมาะสม พื้นที่ในห้องโดยสารจะมีข้อได้เปรียบกว่ารถยนต์นั่ง ใกล้เคียงกับรถอเนกประสงค์ ด้วยการใส่ใจรายละเอียดของวัสดุตกแต่ง โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ภายในที่มีการตกแต่งได้ล้ำสมัยทั้งการจัดวางและส่วนประกอบ
แม้แต่ในรุ่น STANDARD CAB ภายในก็มีความเป็นเอกลักษณ์กว่ารถยนต์สำหรับ การใช้งานเพื่อขนของอย่างเดียว ถือเป็นการพัฒนาขึ้นไปอีกระดับ สำหรับการรองรับการใช้งานที่ครอบคลุมมากขึ้นในรุ่นนี้
อีกทั้งการขับขี่ในทุกรุ่นบนเส้นทาง ON ROAD สามารถที่จะบังคับควบคุมและใช้ งานได้อย่างไม่เหน็ดเหนื่อย เปลี่ยนแปลงอย่างเห็นได้ชัดเมื่อคุณได้สัมผัสกับมัน ด้วยท่านั่งจาก เบาะนั่งที่รองรับสรีระได้เหมาะสม น้ำหนักพวงมาลัยต่างๆ มีการวางระดับมาได้อย่างพอดี รวมทั้งระบบเกียร์ธรรมดา ซึ่งมีระยะการเข้าตำแหน่งแต่ละเกียร์ ฉับไวแตกต่างไปจากเกียร์รถปิกอัพอื่นๆ
การถ่ายทอดกำลังของเครื่องยนต์ มาแบบต่อเนื่องด้วยเครื่องยนต์รุ่นใหม่ที่อันดแน่นไปด้วยเทคโนโลยี ห้องโดยสารมีเสียงรบกวนที่น้อย ที่สำคัญการเซ็ทช่วงล่าง ทั้งจากระบบรองรับและโครงสร้างตัวรถที่ดูดซับแรงสั่นสะเทือนได้เหมาะสม รวมไปถึงการพัฒนาระบบเบรกให้มีการจับตัวที่เหมาะสมมากขึ้น
โดยเฉพาะในรุ่น DOUBLE CAB 4×4 นั้นจะเห็นถึงความชัดเจนทั้งเรื่องของการดีไซน์ การขับขี่และการตอบสนองและที่แน่ๆ อะไรก็ตามที่เป็นเทคโนโลยีหรือส่วนประกอบ รวมไปถึงฟังก์ชั่นที่จะพบได้ในรถอเนกประสงค์ วันนี้มันก็มีมาให้ครบถ้วน
ด้วยคุณสมบัติพื้นฐานของการพัฒนาด้วยการยืดฐานล้อให้กว้างขึ้น มีผลต่อการทรงตัวอย่างแน่นอน ที่สำคัญก็คือ ความแข็งแรงของโครงสร้างแชสซีส์นั้นก็มีผลอย่างมาก เพราะมันจะสภาพที่ทนต่อแรงบิด ที่เกิดขึ้นในยามที่รถเคลื่อนที่ และมันก็จะมีผลยามเข้าโค้งเมื่อแรงเปลี่ยนแปลงไปตามมุมรถ ตามสภาพถนน โครงสร้างที่แข็งแรงช่วยให้ชิ้นส่วนที่ทำงานอยู่ในหน้าที่ในระบบของมันทำงานได้อย่างเที่ยงตรง เช่น โช้คอัพ คอยล์สปริง เต้นและดิ้นในแนวที่สมควรตามการออกแบบไว้ ไม่สะท้านทำให้เกิดความเหมาะสมของการควบคุมตัวรถ
ห้องโดยสารที่เงียบนี้ก็ช่วยให้การขับขี่มีสมาธิอยู่ไม่น้อย การควบคุมจึงมีความแม่นยำในการควบคุม ตลอดจนเทคโนโลยีอันทันสมัยที่มีอยู่ใน Hilux Revo เช่น รุ่น DOUBLE CAB 4×4 นั้นก็ยิ่งทำให้การขับขี่มีความมั่นใจและทำได้อย่างเหมาะสม
ทั้งหมดนั้นก็คือ ส่วนประกอบที่ทำให้การขับขี่รถปิกอัพอย่าง Hilux Revo ควบคุมง่ายใช้แรงพอเหมาะ ไม่เหนื่อยในการใช้งานในทุกลักษณะรูปแบบการใช้งานทั้งส่วนตัวหรือขนสิ่งของ
Hilux Revo ได้พัฒนาระบบขับเคลื่อนสี่ล้อ จากที่เคยใช้เกียร์มาใช้สวิทช์ปรับเปลี่ยนแบบไฟฟ้าด้วยวิธีการหมุนเพื่อให้มีความสะดวกสบายในการใช้งานมากขึ้น ซึ่งเป็นเทคโนโลยีที่ถูกถ่ายทอดมาจากรถ SUV ระดับสูงของโตโยต้า ผู้ขับขี่สามารถเลือกโหมดขับเคลื่อนได้อย่างเหมาะสมและง่ายดาย
นอกจากนี้มีการออกแบบอัตราทดให้เหมาะสมกับกำลังในแต่ละจังหวะเกียร์ เพื่อการใช้งาน และมีความนุ่มนวลในการถ่ายทอดกำลังเมื่อยามใช้ ENGINE BRAKE อย่างเห็นได้ชัด การค้างเนินชันและการออกตัวก็สะดวกด้วยระบบ HAC ที่มีมาให้ในรุ่น DOUBLE CAB
ชื่อเสียงการลุยของรถปิกอัพจากค่ายโตโยต้านั้น ได้รับการยอมรับมายาวนาน นอกจากความแข็งแร่ง ทนทาน สามารถผ่านอุปสรรคในเส้นทางแบบ OFF ROAD ได้อย่างไม่ยากเย็นนัก
พละกำลังของเครื่องยนต์ กับแรงบิดที่สูงและต่อเนื่องตั้งแต่รอบต่ำ จะช่วยให้การขับขี่ผ่านอุปสรรคในเส้นทางออฟโรด เป็นไปด้วยความมั่นใจ ด้วยสภาพของมุมรถที่มันมีความเหมาะสมเป็นทุนเดิมจากการดีไซน์ตัวรถ การเคลื่อนที่จากกำลังขับเคลื่อนของเครื่องยนต์ทำให้ตัวรถเดินทางไปบนพื้นที่ต่าง เช่น ทางลูกระนาด ต่างระดับได้อย่างต่อเนื่อง และกำลังแรงบิดที่มีอยู่ก็ทำให้การไต่ทางชันหรือพาตัวรถข้ามอุปสรรคอย่างเส้นทางอ่อนนุ่ม ดินโคลน หรือกรวดทรายได้อย่างเหมาะสม ทุกคุณสมบัติของการใช้งานในเส้นทาง OFF ROAD ยังคงถูกบรรจุมาไว้ใน Hilux Revo
พร้อมการพัฒนามาอีกหลายส่วน ในส่วนของสิ่งที่เป็นเขี้ยวเล็บสำคัญในระบบขับเคลื่อนที่มีผลอย่างมากในการฝ่าฟันอุปสรรคเส้นทาง OFF ROAD กับระบบล็อกเฟืองท้ายควบคุมการทำงานด้วยไฟฟ้า ที่เฟืองท้ายด้านหลังช่วยในการถ่ายทอดกำลังที่เหมาะสม ระบบ Diff Lock นี้ จะมีการจับตัวที่แน่นหนา ลำเลียงกำลังบังคับให้ขับเคลื่อนเท่าๆ กันทั้งสองข้างของล้อคู่หลัง ซึ่งจะช่วยให้ลดไม่ดิ้น ไม่สูญเสียกำลังไปโดยเปล่าประโยชน์ ใช้กำลังที่ไม่มากในการผ่านอุปสรรคที่ยาก เช่น ทางชันองศาสูง พื้นผิวลื่นมาก รวมไปถึงเมื่ออยู่ในบ่อหลุมโคลน
ในรุ่น STANDARD CAB 4×4 เองก็มีระบบล็อกเฟืองท้ายมาให้ใช้งาน ซึ่งนอกจากจะใช้ในเส้นทาง OFF ROAD แล้ว ยังเลือกใช้ในยามบรรทุกหนักเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการถ่ายทอดกำลังได้อีกด้วย ทำให้มีความปลอดภัยและมีประสิทธิภาพสูงกว่าเฟืองท้ายแบบทั่วไปอีกด้วย
Hilux REVO 4×4 ในแต่ละแบบตัวถัง …STANDARD CAB—SMART CAB หรือ DOUBLE CAB มีความเหมือนที่แตกต่างในแต่ละรุ่นหลักและรุ่นย่อย ความอเนกประสงค์ของตัวรถที่รองรับการใช้งานได้หลากหลาย สัมผัสได้อย่างชัดเจนถึงความเปลี่ยนแปลงเมื่อได้ขับขี่ใช้งาน ส่วนประกอบที่มีมาให้ เป็นสิ่งที่ทำให้ตัวรถมีมากยิ่งขึ้นในส่วนของความคุ้มค่า ทางเลือกของรุ่นขับเคลื่อนสี่ล้อ ทั้งจากชื่อเสียงที่สั่งสมมายาวนาน กับความทันสมัยที่เป็นอยู่ในปัจจุบัน ถือเป็นทางเลือกที่คุ้มค่ามากที่สุดสำหรับรถปิคอัพในยุคปัจจุบันนี้
Comments are closed, but trackbacks and pingbacks are open.