วันนี้มี PPV จากค่าย TOYOTA อย่าง FORTUNER ซึ่งนายแบบคันนี้มาในรูปแบบของรถหรูคู่งานลุย มีรายละเอียดของของแต่งแบบออฟโรดกับคราบการตกแต่งแบบ VIP เจือปนกันอยู่ รายละเอียดของการตกแต่งจะเป็นอย่างไร ไปลองดู
ถ้าจะคิดเล่นๆ ไปว่ารถประเภทไหนที่เห็นแล้วรู้สึกคุ้นตา หนึ่งในหลายรุ่นนั้นคงหนีไม่พ้นเซ็กชั่นรถประเภทเดียวกับนายแบบของเราคันนี้ ด้วยคุณสมบัติการใช้งานที่มันลงตัวและตอบสนองการใช้งานได้หลากหลาย กับนายแบบของเราคันนี้ ได้เพิ่มเติมอุปกรณ์ต่างๆ เข้าไปพอประมาณ แต่ทุกอย่างมีคุณสมบัติในการใช้งานที่ให้ได้กับความปลอดภัย แถมมาด้วยความแตกต่างของตัวรถที่จะเปลี่ยนไปจากหนุ่มใหญ่หน้าคม กลายเป็นนักเดินทางในคราบของรถตกแต่งแบบ VIP
ภายนอกเสริมไว้ด้วยกันชนหน้า IRONMAN 4×4……….
ทัศนียภาพในระดับสูง จากมุมมองของรถตรวจการณ์อย่างนายแบบคันนี้ มันมีความแตกต่างจากรถยนต์ประเภทอื่นเป็นทุนเดิมอยู่แล้ว ตัวรถพื้นฐานของรถยนต์แบบนี้มีห้องโดยสารที่เป็นแบบใช้งานได้อเนกประสงค์ มีหลายที่นั่ง เบาะนั่งสามารถพับปรับเพิ่มพื้นที่ได้ การมีคุณสมบัติหลากหลายทำให้มันถูกเลือกมาใช้และเลือกมาแต่งอยู่เสมอ ตัวรถถูกฉาบไว้ด้วยสียอดนิยมในยุคนี้ ถิ่นกาขาวที่กำลังจะก้าวเข้าสู่ยุคชาววิไลในอีกไม้ช้า ดูเด่นในแบบที่แตกต่างบางทีคนขับอาจจะรู้สึกเหมือนเป็นอัศวินม้าขาวก็ได้นะใครจะไปรู้
สำหรับบอดี้รถเป็นบอดี้ของ TOYOTA FORTUNER ที่ได้รับการปรับโฉมมารุ่นก่อนหน้า มีความแตกต่างตั้งแต่ที่ด้านหน้ากับชุดไฟหน้าและโคม รวมทั้งหมดที่แตกต่างซึ่งมันถูกกั้นตรงกลางด้วยกระจังหน้าแบบครีบ ที่มีพื้นผิวโครเมียมอันเป็นสไตล์ของรถยนต์นั่งแบบหรูหรา ที่ถูกนำมาใส่ไว้ พื้นที่ของชิ้นส่วนทั้งหมดมีลักษณะของ V-SHAPE ที่ต่อเนื่องกับเส้นของฝากระโปรงหน้าไปตามแนวยาวทางด้านข้างของตัวรถ ด้านข้างมีกระจกมองมุมที่มีประโยชน์ใช้งานในมุมมองยามประชิด หรือเข้าใกล้พื้นที่หรือสิ่งกีดขวาง รวมทั้งภูมิประเทศต่างๆ เพราะรถยนต์ที่มีตัวรถสูงได้เปรียบบางอย่าง แต่ก็ต้องมีข้อจำกัดในบางอย่าง ดั่งคำของลัทธินิกายเซนเขาว่า “ในความถูกต้องย่อมมีส่วนประกอบของความไม่ถูกต้องอยู่บ้าง” ประมาณนั้น
ไล่ไปที่ด้านบนหลังคาห้องโดยสารกับชุดแร็คหลังคาสำหรับใช้งานมัดตรึงขนสัมภาระด้านบนตัวรถซึ่งมันก็มีมาให้จากโรงงานในแบบจุ๋มจิ๋มพอใช้งานไม่ฮาร์ดคอร์ เพราะโดยความจริงแล้ว เขาก็ไม่แนะนำให้บรรทุกสัมภาระที่ด้านบนมากเกินไป เพราะมันจะมีผลต่อการบังคับควบคุม และที่ด้านหลังบานประตูเปิดได้แบบรถอเนกประสงค์ ที่เป็นเอกลักษณ์เช่นเดียวกับด้านข้างตัวรถ กับโป่งล้อที่มีอารมณ์รถลุยอยู่หน่อยๆ และสิ่งอำนวยความสะดวกในการก้าวสเต็ปอย่างบันไดของสีดำตัดกับสีตัวรถ
มาที่การตกแต่งสไตล์รถลุย ไม่มีอะไรจะบ่งบอกได้ดีไปกว่าชุด BODY ARMOR ซึ่งก็มีอยู่หลายส่วนที่เกี่ยวข้อง แต่กับชุดกันชนหน้านั้น ดูจะเหมาะสมและได้ประโยชน์ในการทำหน้าที่ปกป้องและดูมีความแตกต่าง ถึงจะใส่เพียงชิ้นส่วนของกันชนหน้าเท่านั้น จากชุดกันชนชิ้นส่วนของเดิมติดรถที่เป็นไฟเบอร์ก็ถูกสับเปลี่ยนกันชนหน้าของ IRONMAN 4×4 รุ่น BBCD รูปทรงแบบสามเขาทำจากวัสดุเหล็กหนาทำสีแบบเพาเดอร์โค๊ท ซึ่งเป็นโทนสีที่ไม่โดดไปจากโทนสีของตัวรถที่เป็นสีพื้นหลายๆ โทนสี ชุดกันชนหน้านี้เมื่อติดตั้งแล้วสวิตช์ข้อต่อของระบบถุงลมนิรภัยสามารถทำงานได้ตามปกติไม่แตกต่างไปจากกันชนเดิม แต่มีความแข็งแรงมากกว่าในการปกป้อง ตัวกันชนติดตั้งอยู่กับจุดยึดที่แข็งแรงอย่างแชสซีรถเอกลักษณ์ของกันชนหน้า IRONMAN 4×4 จะมีการออกแบบโครงสร้างเหล็กด้านในด้วย STEEL CONSTRUCTION พร้อมแผ่นกันกระแทกใต้กันชน 3 แผ่นและออกแบบพื้นที่ในการปกป้องลงลึกไปจนถึงด้านล่าง เหมือนเป็นกันแคร็งค์อยู่ในตัว โดยที่ไม่ต้องแยกเป็นชิ้นส่วนเสริม รวมมาเป็นชิ้นส่วนเดียวกับชุดกันหน้าเลย
รูปทรงกันชนหน้ามีการออกแบบ A-FRAME TRIPLE LOOP DESIGN ด้านหน้าจุดปะทะแรกเป็นแบบจุดเสริมกันกระแทกวัสดุแบบ POLYURETHANE BUMPERS ด้านหน้ากันชนซึ่งจะช่วยลดแรงสะท้านในยามที่ต้องเคลื่อนที่เข้าหาอุปสรรค จุดเสริมกันกระแทกด้านข้างสองข้างที่ตรงกลางกันชนมีร่องยาวมองลึกลงไปในห้องวินช์ซึ่งติดตั้งเอาไว้ด้วยชุดวินช์ไฟฟ้าของ IRONMAN 4×4 รุ่น MONSTER WINCH12,000 ปอนด์ ทำงานด้วยสายดึงแบบเชือก มีการสั่งงานด้วยรีโมทมีสายและไร้สายสะดวกในการใช้งาน ตัววินช์แตกต่างที่การออกแบบให้มีขนาดและน้ำหนักเพียง 29 Kg ส่วนเชือกดึงมีขนาดโต 9 มิลลิเมตร ยาว 28มิลลิเมตร ระบบสั่งงานชุดโซลินอยด์ออกแบบให้มีท่อหายใจระบายน้ำกันเข้าชุดโซลินอยด์ทำให้ใช้งานได้แม้อยู่ในอุปสรรคน้ำและยังช่วยระบายความร้อนจากห้องเกียร์ของตัววินช์ทำให้ลดความร้อนจึงใช้งานวินช์ได้ต่อเนื่องยาวนานกว่า
นอกจากนี้ที่ตัวกันชนยังมีชุดไฟสัญญาณ ไฟหรี่ ไฟเลี้ยว ติดตั้งอยู่และพร้อมใช้งานชุดไฟนี้เป็นแบบ LED ที่ให้ความสว่างแต่กินกระแสไฟน้อย พร้อมด้วยชุดไฟตัดหมอกหลอดแบบ H3 100 W อยู่ในตัวกันชนชุดนี้ด้วย ไม่เพียงเท่านี้นอกจากชุดไฟสัญญาณหลักๆ ในการใช้งานแล้วยังมีการติดตั้งชุดสปอตไลต์ไฟเสริมเข้าไว้อีกสองดวง เป็นแบบทรงกลมสองดวงใหญ่ติดอยู่ตรงกลางกันชนหน้าเป็นของ IRONMAN 4×4 รุ่น VEGA220 หลอดแบบ HALOGEN H1 กินกระแสไฟ 100W ตัวไฟมีขนาด 9 นิ้ว เท่ากันทั้งสองดวง
สปอตไลต์ทั้งสองดวงผลิตจากวัสดุทนแรงอัดสูง จึงสามารถใช้งานในยามลุยน้ำหรือจอดแช่น้ำนานๆ ได้ แถมยังทนแรงกระแทกได้มากกว่าวัสดุทั่วไป ด้านหน้าชุดฝาครอบทำจากวัสดุแบบPOLYCARBONATE กันรอยขีดข่วนและสามารถล้างขัดทำความสะอาดได้ในยามที่ใช้งานไปนานๆ สร้างระเบียบของลำแสงส่องสว่างด้วย HARDENED CLASS LENS ที่มีการกระจายลำแสงออกทางด้านข้างเพื่อทัศนวิสัยที่มากกว่าและรวมลำแสงให้พุ่งไกลเพื่อการมองเห็นเอาไว้ในคราวเดียวกัน
จากด้านนอกพร้อมของแต่งไปที่ด้านในห้องโดยสารที่เน้นการใช้งานเพิ่มเติมเอาไว้ด้วยจุดของใช้กระจุกกระจิกอย่างที่ติดวางโทรศัพท์มือถือ ส่วนเครื่องยนต์สำหรับ FORTUNER นายแบบคันนี้เป็นรุ่นที่วางบล็อกเครื่องยนต์เบนซิน ความจุ 2,700 ซี.ซี. พร้อมด้วยระบบ VVT-i วาล์วแปรผันช่วยเพิ่มสมรรถนะการทำงานของเครื่องยนต์ให้เพิ่มขึ้นในรอบการทำงานที่ต้องการระยะการเปิดปิดวาล์วอย่างเหมาะสม ส่วนระบบขับเคลื่อนนั้นเป็นแบบรุ่นขับเคลื่อนสองล้อและระบบส่งกำลังแบบอัตโนมัติ พร้อมด้วยการติดตั้งระบบเชื้อเพลิงสองระบบกับก๊าซ LPG จ่ายเชื้อเพลิงแบบหัวฉีด ชุดถังก๊าซแบบโดนัทติดตั้งเอาไว้ที่ใต้ท้องรถไม่กินเนื้อที่ในห้องโดยสาร
ช่วงล่าง IRONMAN 4×4…….
การเซ็ตชิ้นส่วนในระบบต่างๆ ของช่วงล่างเพื่อที่จะให้การทำงานมีประสิทธิภาพที่เหมาะสมขึ้นพร้อมกันนี้ ก็ยกชุดช่วงล่างเพิ่มเข้าไปในตัวโดยการใช้ระบบช่วงล่างเดิมๆ ระดับการยกด้วยชุดโช้คอัพและคอยล์สปริงใหม่ก็สะดวกและเพียงพอสำหรับการใช้งาน
เมื่อมีการเพิ่มน้ำหนักมากขึ้นที่ด้านหน้าด้วยชุดอุปกรณ์ตกแต่งอย่างกันชนหน้า วินช์ไฟฟ้าและอื่นๆ แล้ว ก็จำเป็นที่จะต้องเพิ่มประสิทธิภาพการรองรับโดยการเปลี่ยนชุดคอยล์สปริงใหม่เป็นของ IRONMAN 4×4 เป็นสปริงหน้าแบบยก 2 นิ้วแบบ A (PERFORMANCE) รับน้ำหนัก 0-50 kg ซึ่งร้อยอยู่กับโช้คอัพใหม่ในระบบช่วงล่างแบบแม็คเฟอร์สันสตรัท ปีกนก โช้คอัพเป็นของ IRONMAN 4×4 แบบ FOME-CELL ขนาดแกนโช้คอัพโต 18 มิลลิเมตร กระบอกโช้คอัพโต 41 มิลลิเมตร จึงบรรจุตัวรับแรงอย่าง FOME-CELL ได้เพียงพอในการดูดซับแรงและแกนโช้คอัพใหญ่ทำให้มั่นคงกว่าในยามเคลื่อนที่ขึ้นลงเวลาทำงาน ตัวสารรับแรง FOME-CELL มีคุณสมบัติจุดเดือดที่สูงและมีความหนาแน่นมากกว่าน้ำมันโช้คอัพทั่วไป เป็นคุณสมบัติเฉพาะสำหรับชิ้นส่วนนี้
ด้านหลังเปลี่ยนโช้คอัพ FOME–CELL ขนาดแกนโช้คอัพโต 18 มิลลิเมตร กระบอกโช้คอัพโต 41 มิลลิเมตร พร้อมด้วยสปริงหลังเป็นแบบยก 2 นิ้ว เท่ากับด้านหน้า แบบ A (COMFORT) รับน้ำหนักได้ 0-100 Kg
ล้อแม็กแบบชุบโครเมียมของ FUEL ลาย 112VXL หกก้าน ขนาด 24 นิ้ว หน้ากว้าง 10 นิ้วออฟเซ็ต+5 จึงต้องรองสเปเซอร์ที่ดุมล้อและชุดยางของ FULL WAY ขนาด 285/40R24 และนี่ก็เป็นนายแบบอีกคันจาก IRONMAN 4×4 ที่ส่งมาโชว์
Comments are closed, but trackbacks and pingbacks are open.