Toyota C-HR+ เอสยูวีไฟฟ้ารุ่นใหม่ สำหรับทำตลาดยุโรป
Toyota เพิ่มรถไฟฟ้าของตนสำหรับทำตลาดยุโรปด้วยการเผยโฉม C-HR+ รถซี-เอสยูวีไฟฟ้ารุ่นใหม่ออกมา ซึ่งแม้จากชื่อรถจะดูเหมือนเป็นเวอร์ชันไฟฟ้าของ C-HR แต่จริงๆ แล้วรถไฟฟ้ารุ่นใหม่อยู่คนละแพลตฟอร์มกับรถใช้เครื่องยนต์สันดาป โดยที่มีสองความจุแบตเตอรีรวมทั้งขับเคลื่อนด้วยล้อหน้าหรือทุกล้อให้เลือก
Toyota C-HR+ อยู่บนแพลตฟอร์ม e-TNGA สำหรับรถไฟฟ้าใช้แบตเตอรีเหมือนกับ bZ4X แต่มีระยะฐานล้อยาว 2,750 มม. สั้นกว่า bZ4X 4 นิ้ว ในขณะที่รูปทรงของรถยังคงสไตล์รถคูเป้เอสยูวีมาจาก C-HR ใช้เครื่องยนต์ รวมทั้งมีเส้นสายที่เฉียบคมเหมือนกัน พร้อมมีลักษณะโล่งสะอาดและทันสมัยที่เป็นเอกลักษณ์ของรถ แต่มีการออกแบบรายละเอียดส่วนต่างๆ แตกต่างออกไป
รถเอสยูวีไฟฟ้ารุ่นใหม่มีแบตเตอรีสองความจุระหว่าง 57.7 kWh สำหรับรุ่นขับเคลื่อนด้วยล้อหน้า และแบตเตอรีความจุ 77 kWh สำหรับรุ่นขับเคลื่อนด้วยล้อหน้าและทุกล้อ สามารถให้ระยะเดินทางได้สูงสุด 700 กิโลเมตรตามาตรฐาน WLTP โดยรถที่ขับเคลื่อนด้วยล้อหน้ามากับแบตเตอรีความจุ 57.7 kWh ใช้มอเตอร์ไฟฟ้า 123 kW หรือ 167 แรงม้า ส่วนรถที่ขับเคลื่อนด้วยล้อหน้ามากับแบตเตอรีความจุ 77 kWh ใช้มอเตอร์ไฟฟ้ากำลัง 165 kW หรือ 224 แรงม้า
ขณะที่รถขับเคลื่อนด้วยทุกล้อมากับมอเตอร์ไฟฟ้าที่สร้างกำลังออกมา 252 kW หรือ 343 แรงม้า ทำให้ใช้เวลา 5.2 วินาทีเพื่อทำความเร็วจาก 0-100 กม./ชม. ส่วนการชาร์จไฟของรถรองรับการชาร์จไฟ 11 kW เป็นอุปกรณ์มาตรฐาน โดยเกรดสูงรองรับการชาร์จไฟ 22 kW นอกจากนี้ยังรองรับการชาร์จเร็วถึง 150 kW
ทางผู้ผลิตยังระบุว่ารถเอสยูวีไฟฟ้าของตนให้ความสนุกในการขับ พร้อมมีความแข็งแกร่ง และปราดเปรียว มีชิ้นส่วนช่วงล่างที่ได้รับการปรับตั้งโดยเฉพาะทั้งสปริง แดมเปอร์ และบาร์กันโคลง รวมทั้งพวงมาลัยไฟฟ้าของรถยังถูกปรับให้มีการตอบสนองที่ดี นอกจากนี้เมื่อเทียบกับ C-HR ใช้เครื่องยนต์รถไฟฟ้าจะมีตัวถังที่แข็งแกร่งมากขึ้นและจุดศูนย์ถ่วงต่ำลง
ห้องโดยสารของรถถูกระบุว่าให้ความรู้สึกถึงคุณภาพที่ปกติแล้วมีในรถรุ่นใหญ่กว่า รวมทั้งมีพื้นที่กว้างและวิสัยทัศน์ที่มองได้รอบเพื่อให้รู้สึกถึงความสบายและความอเนกประสงค์ ในขณะที่พื้นที่เก็บสัมภาระของรถมีความจุ 416 ลิตร
อุปกรณ์ในห้องโดยสารมีทั้งสองที่ชาร์จสมาร์ทโฟนไร้สาย ช่องยูเอสบีสำหรับเบาะหลัง การควบคุมระบบปรับอากาศสำหรับเบาะหลัง และหลังคากระจกพาโนรามิก ขณะที่จอมัลติมีเดียตรงกลางมีขนาด 14 นิ้ว นอกจากนี้รถยังมาพร้อมกับเทคโนโลยีความปลอดภัยและช่วยขับล่าสุดจากToyota Safety Sense
ราคารถยังไม่มีออกมาเพราะจะเริ่มขายในช่วงปลายปี 2025 โดยนอกจากขายที่ยุโรปแล้วรถไฟฟ้ารุ่นนี้ยังน่าจะถูกส่งไปขายในภูมิภาคอื่นด้วย
เรื่อง : กองบรรณาธิการ
เรียบเรียงข้อมูลโดย Off Road Magazine
ติดตามข่าวสาร ยานยนต์ รถใหม่ ได้ที่ Off Road Magazine
Comments are closed, but trackbacks and pingbacks are open.