THERMOSTAT…..เปิด-ไม่เปิด อาจเป็นเรื่องใหญ่ “อย่ามโน”

mmm 01_resize

อุปกรณ์ตัวเล็กๆ แต่…สำคัญ เพราะมันทำหน้าที่ควบคุมอุณหภูมิน้ำหล่อเย็นของเครื่องยนต์ให้อยู่ในระดับที่วัสดุเทอร์โมสตัทแต่ละตัวถูกสร้างหรือกำหนดมา การทำงานของมันไม่มีอะไรซับซ้อน มีเพียงการเปิดกว้าง หรือปิดขวางทางแคบสำหรับทางเดินของน้ำหล่อเย็นในระบบ ประเด็นคือ มันถูกมองข้ามเพราะมองไม่เห็นตัวจะๆ แต่เมื่อมันเกเรขึ้นมาละก็ หวังว่าคงไม่เจ็บหนักสำหรับผู้ที่เตรียมพร้อม แต่ถ้ามันเป็นอาการแฝงจากชิ้นส่วนเล็กๆ อย่างเทอร์โมสตัทเราจะมีวิธีการอย่างไรพิสูจน์ให้มันแน่ใจว่า เปิดหรือไม่เปิดจะได้ไม่ต้องมา “มโน”….

mmm 02_resize
อุณหภูมิที่เครื่องยนต์เริ่มทำงานได้เหมาะสม

เป็นธรรมดาที่เมื่อมุมของโลกนั้นเปลี่ยนไปตามการหมุนของกาลเวลา ฤดูกาลย่อมที่จะเปลี่ยนแปลงตามไป ช่วงเวลานี้ที่ประเทศในแถบยุโรปกำลังอยู่ในช่วงก้ำกึ่งของการค่อยๆ ละลายจนเกิดสายธารน้ำแข็งเย็นฉ่ำ แต่ในอีกด้านของมุมหนึ่งในโลกใบเดียวกัน ยังอาจจะต้องเผชิญฤดูกาลถึงสามระดับในวันเดียว และก่อนเข้าเรื่องถ้ามีเสียงถามว่าเคยไปเหรอยุโรปคงต้องบอกไปว่า “ไม่ครับ” อ้าว…! แบบนี้มันก็จินตนาการล่ะสิ

mmm 03_resize
อุณหภูมิน้ำหล่อเย็นต่ำ สิ้นเปลืองสึกหรอสูง

เรื่องของเรื่องจะดึงอารมณ์ให้สู่ภาวะของการจินตนาการที่สมัยนี้อะไรๆ มันก็ต้องรวบรัดแบบชัดเจนด้วยศัพท์แสงวัยฉาวอย่าง “มโน” ที่มันคล้ายไปในแนวทางของการจินตนาการ ก็ที่มันต้องจินตนาการเพราะว่าเรายังไม่สามารถที่จะเห็นหรือได้สัมผัสมันได้ จึงมีคำนี้ขึ้นมาไว้สำหรับการอธิบาย ซึ่งเรื่องบางอย่างนั้นมันจินตนาการกันได้อย่างน้อยที่สุดคนอื่นไม่เดือดร้อนก็พอเข้าใจแต่สุดท้ายมันอาจจะเดือดร้อนตัวเองต้องจัดงบลับออกยามค่ำคืนไปทำให้ความฝันเป็นจริง

mmm 04_resize
เทอร์โมสตัททำให้อุณหภูมิน้ำสูงขึ้นพร้อมใช้งาน

มาที่เรื่องของเราในคราวนี้ กับตัวเทอร์โมสตัทหรือวาล์วน้ำ ที่เรียกกันให้เข้าใจง่ายในหน้าที่พื้นฐานของการเปิด-ปิดทางเดินของน้ำหล่อเย็นนั้น มันไม่ได้จบแค่นั้นสำหรับคุณประโยชน์ของมัน เพราะว่าอุณหภูมิของน้ำหล่อเย็นซึ่งเป็นระบบของการรักษาอุณหภูมิของเครื่องยนต์ให้สามารถทำงานได้ยาวนานนั้น ยังส่งผลต่อเรื่องของสมรรถนะที่ตัวมันมี และสามารถทำได้อย่างเต็มที่ประมาณว่า ตามหลักการเครื่องยนต์ทำงานได้ดีในระดับอุณหภูมิหนึ่งๆ ซึ่งมีค่าที่ไม่เท่ากันสำหรับเครื่องยนต์แต่ละประเภท แต่ทางทฤษฎีค่ามันจะอยู่ตั้งแต่ช่วงของ 70 องศาเซลเซียสขึ้นไปจนระดับราวๆ 95 องศาเซลเซียส รถในสมัยก่อนไม่มีตัวเทอร์โมสตัทจึงมักจะเคยชินกับการอุ่นเครื่องยนต์ เพื่อให้เครื่องยนต์มีอุณหภูมิที่สูงขึ้นกว่าอุณหภูมิปกติ (อุณหภูมิห้อง) เพราะนอกจากใช้งานเครื่องยนต์ในขณะที่ยังไม่ถึงอุณหภูมิที่เหมาะสม นอกจากจะสิ้นเปลืองเชื้อเพลิงแล้ว ยังจะเกิดการสึกหรอมากขึ้น มันยังทำให้อายุการใช้งานของเครื่องยนต์ลดลงอย่างรวดเร็ว เพราะเกินกว่าครึ่งการสึกหรอของเครื่องยนต์เกิดขึ้น ในขณะที่เครื่องยนต์ยังมีอุณหภูมิไม่ถึงระดับที่เหมาะสมสำหรับการทำงาน ตรงนี้เพื่อให้รวบรัดเราจะเรียกว่าเครื่องยนต์ร้อนให้เข้าใจง่าย

mmm 05_resize
ทางเดินน้ำหล่อเย็นนำพาความร้อนออกจากเครื่องยนต์

แต่เหมือนมันเป็นคำตอบที่ตอบโจทย์ได้หลายคำถามคือ สามารถทำให้เครื่องยนต์ร้อนได้อย่างรวดเร็วด้วยการออกแบบตัวเทอร์โมสตัทให้อยู่ในระบบ ซึ่งแล้วแต่การออกแบบว่าจะให้มันอยู่ในจุดไหนในใจเธอคือ หมายถึงในระบบหล่อเย็นน่ะครับ แล้วตัวมันก็จะอ้าหรือเปิด-ปิดอัตโนมัติตามอุณหภูมิของน้ำที่เริ่มเพิ่มขึ้นด้วยคุณสมบัติจากวัสดุที่นำมาผลิตเป็นตัวเทอร์โทสตัท จะเป็นตะกั่ว ปรอท ทองแดง ตรงนี้ก็อยู่ที่การออกแบบแต่ที่สำคัญคือ ถ้าเมื่อไหร่มันไม่เปิดหรือเปิดไม่สุดเป็นอัตโนมัติเมื่อนั้นคือ มีปัญหา

mmm 06_resize
ระดับอุณหภูมิ85-90 องศาเครื่องยนต์ทำงานได้เต็มประสิทธิภาพ

อย่างที่เข้าใจว่าตัววัสดุของเทอร์โมสตัท มันเป็นโลหะที่มีความไวหรือมีปฎิกิริยาต่อการเปลี่ยนแปลงของอุณหภูมิ ซึ่งค่าการขยายตัวของวัสดุที่ใช้ทำเทอร์โมสตัท มันจึงมีระยะค่าที่กว้างเพราะในจุดที่มันได้รับอุณหภูมินั้น ไม่ใช่ระดับอุณหภูมิที่เท่ากันทั้งหมดของน้ำในระบบหล่อเย็น อีกทั้งในเรื่องของส่วนที่เกี่ยวข้องทั้งการทำงานของเครื่องยนต์ วัสดุอุปกรณ์ที่ทำชิ้นส่วนมีความสามารถในการระบายความร้อนได้มาก-น้อยแค่ไหน ยกตัวอย่างเช่น รถยนต์จากค่ายญี่ปุ่นที่มักจะใช้ตัวเทอร์โมสตัท ซึ่งจะเปิดตั้งแต่ระดับอุณหภูมิประมาณ 70 องศาเซลเซียสขึ้นไป แต่บางค่ายก็มากกว่านี้ แต่ในรถจากค่ายยุโรปอุณหภูมิที่เทอร์โมสตัทจะเปิดมากกว่าค่ายญี่ปุ่นเป็นส่วนมากและสูงมาก ใกล้เคียงกับระดับจุดวิกฤตเพราะจุดนั้นคือ อุณหภูมิที่เครื่องยนต์ร้อนได้ที่หรือทำงานได้เหมาะสมที่สุด แต่มันก็ต้องแลกมากับประสิทธิภาพของระบบระบายความร้อน และความทนทานอุณหภูมิสูงของอุปกรณ์ในห้องเครื่องยนต์ที่ต้องรองรับและใช้งานได้ตามสมควร

mmm 07_resize
ตัดแสดงชิ้นส่วนในระบบหล่อเย็นและวาล์วน้ำแบบหนึ่ง

หน้าที่ของเทอร์โมสตัท จึงไม่ใช่ประเด็นง่ายๆ อย่างที่เราไปให้ฉายามันว่าวาล์วน้ำ เพราะประโยชน์ของมันมากมายหลากหลาย ในแต่ละเรื่องที่ว่ามายังไม่ได้ลงประเด็นว่ามันเป็นเพราะอะไร ในรูปแบบของคำอธิบาย แต่ประเด็นของเราที่ว่ากันในวันนี้กับการดูว่าตัวเทอร์โมสตัทนั้น มันยังทำงานได้ดีหรือปกติอยู่หรือไม่ ตรงนี้สำคัญเริ่มเข้าประเด็น แปลว่ามันสามารถที่จะทำงานได้ แต่ไม่ดี หรือไม่เหมาะสมรวมไปถึงทำให้มันไม่ปกติได้ก็คือว่า ถ้ามันจะเริ่มไม่ปกติ มันก็มีอยู่ทั้งจากปัจจัยจากความเสื่อมของตัวมันเอง และความเสื่อมของส่วนที่เกี่ยวข้อง

mmm 08_resize
ลักษณะเมื่อยังอยู่ในเครื่องยนต์ของที่อยู่เทอร์โมสตัทแบบหนึ่ง

ถ้าการใช้รถแล้วเราดูแต่เข็มบอกระดับอุณหภูมิสำหรับรถที่มีการแสดงผลด้วยอุปกรณ์นั้น แล้วเกิดการผิดปกติมันก็พอสังเกตเห็นได้บ้างเพราะถ้ามันไม่ได้รับการเปลี่ยนแปลงจากปัจจัยมากอุณหภูมิมันอาจจะเพิ่งเริ่มเปลี่ยนแปลงไปจากเดิมแต่ก็นั่นแหละไอ้ตัวปัจจัยที่เกี่ยวข้องมันมักจะเป็นจำเลยทั้งจำเลยตัวจริงและจำเลยร่วมเสมอเรียกว่าน้อยมากๆ ที่จะเกิดปัญหาจากตัวเทอร์โมสตัท และด้วยมันเป็นสิ่งที่มองไม่เห็นและมักถูกมองข้าม ในการแก้ไขปัญหาเราจึงน่าจะมีวิธีตรวจสอบหรือสังเกตมันไว้บ้าง ว่าน่าจะทำการตรวจสอบแก้ไขตรงนี้

mmm 09_resize
เทอร์โมสตัทแบบหนึ่งที่ออกแบบมาเป็นชุดพร้อมตัวเรือน

วิธีที่ดีที่สุดก็คือ การตรวจสอบตัวเทอร์โมสตัทด้วยการถอดออกมาจากเครื่องยนต์ ซึ่งโดยมากใช้วิธีการต้มในน้ำให้ตัวมันทำงานหรือเปิด ซึ่งอายุการใช้งานของมันน่าจะพอๆ กับอายุการใช้งานของเครื่องยนต์ จึงไม่ใช่สิ่งที่จะต้องทำการตรวจสอบบ่อยๆ ก็อย่างที่ว่า มันอาจจะไม่ได้ทำงานผิดปกติจากตัวของมัน แต่ถ้าความผิดปกติมันก่อตัวมาจากหลายสาเหตุอย่างเช่น น้ำในระบบหล่อเย็นเดินไม่สะดวก สกปรก ปั๊มน้ำรั่วแรงดันตก พวกนี้มันสิ่งที่เกี่ยวข้องด้วยเสมอ กับการเกิดความผิดปกติในระบบระบายความร้อนด้วยน้ำหล่อเย็น แต่ถ้าทำการถอดเทอร์โมสตัทออกมาแล้ว ดูสภาพมันไม่สมประกอบ บิดเบี้ยว และถ้าต้มแล้วเปิดน้อยหรือไม่เปิดอันนี้ก็ชัดเจนกันไป

mmm 10_resize
เทอร์โมสตัทแบบหนึ่งทำจากวัสดุทองแดง
mmm 11_resize
ช่องทางฝาหม้อน้ำที่พอจะดูการไหลเวียนของน้ำได้แต่มันเล็ก

แต่ถ้าหากเราดูแล้วส่วนที่เกี่ยวข้องทั้งหลายคล้ายๆ ว่ามันจะทำงานไม่สมบูรณ์ น้ำหล่อเย็นสกปรก ระดับเปลี่ยนแปลงมากผิดปกติ ในระยะเวลาการใช้งานทั่วไป ซึ่งมันอาจจะส่งผลต่อการทำงานของเทอร์โมสตัทได้อย่างน้ำหล่อเย็นที่สกปรก ทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงต่ออุณหภูมิ ตรงนี้มันก็ดูจะชัดเจนอยู่ด้วยตัวของสีน้ำ กายภาพมันย่อมบ่งบอก ยิ่งถ้าไม่ได้ทำการผสมน้ำยาสำหรับน้ำหล่อเย็น ตัวสีของน้ำจะคล้ายผสมด้วยสนิม และไอ้ตัวสนิมน้ำซึ่งเกิดจากการเปลี่ยนแปลงอุณหภูมิของน้ำหล่อเย็นที่สูง และลดลงพร้อมทั้งการสัมผัสกับชิ้นส่วนในระบบของเครื่องยนต์ พวกนี้จะทำให้อุณหภูมิน้ำขึ้น-ลงไม่ปกติ ในระยะเวลาหนึ่งสนิมก็จะเกาะชิ้นส่วนต่างๆ ที่มันเดินทางไปสัมผัสและที่ตัวเทอร์โมสตัทก็ด้วย ซึ่งจะทำให้พื้นที่การสัมผัสอุณหภูมิเปลี่ยนไปความแน่นอนในการรับรู้ ก็แตกต่างไปเปิด-ปิดไม่แน่นอน หรือสนิมเกาะจนไม่สามารถเปิดหรือปิดได้สะดวก ตรงนี้ล้วนทำให้เกิดปัญหาได้เช่นเดียวกัน ทั้งหมดเมื่อดูแล้วว่าสาเหตุมันเกิดจากจุดไหน ก็ทำการแก้ไขให้ตรงจุดและคลอบคลุมทั้งระบบ

mmm 12_resize
ถอดออกมาต้มมันจะเห็นชัดเจนกว่า
mmm 14_resize
เทอร์โมสตัทแบบแต่งก็มีนะ ฮ๊า!

ในส่วนของการเปิดฝาหม้อน้ำ เพื่อดูการหมุนเวียนของน้ำนั้น มันก็ใช้ได้ถ้ามันเห็นการวิ่งของน้ำที่ชัดเจน แต่เดี๋ยวนี้รถบางรุ่นทางเดินน้ำที่ผ่านฝาหม้อน้ำพื้นที่น้อยมาก ที่จะมองเห็นบางทีวาล์วน้ำมันเปิดน้อยก็คือ ผิดปกติแล้ว ถ้าเปิดไม่สุด แต่น้ำก็ยังหมุนเวียนแล้วเราไปตีความว่ามันยังปกติ แล้วลืมมันไป ปัญหาใหญ่มันก็จะตามมา ถ้ามันเปิดได้น้อย เปิดไม่สุด เมื่อยามที่เครื่องยนต์ทำงานหนักโหลดมาก อย่างในรถออฟโรดที่ต้องมีการติดเครื่องยนต์เดินเบาอยู่ในอุปสรรคนานๆ แถมด้วยการเร่งรอบเรียกแรงบิดสูงในทันทีทันใด ซึ่งความร้อนอาจขึ้นสูงจนน้ำในหม้อน้ำเดือดได้ ถ้าการหมุนเวียนหรือระบายความร้อนไม่ดี หรือถ้ามันไม่เปิดเลยก็ต้องคอยสังเกตให้ทัน ถ้ามีอุปกรณ์แสดงระดับอุณหภูมิชัดเจนที่มีระดับของความเปลี่ยนแปลงก็พอไหว แต่ถ้าแบบเตือนเมื่อเดือดแล้วแบบไฟติดโชว์ สถานะแบบนั้นก็คงอยู่ที่ความประสงค์ของพระเจ้าแล้วล่ะว่า มันจะเป็นเช่นไร ซึ่งวิธีการที่ดีที่สุดก็คือ การถอดออกมาตรวจสอบ เพื่อความแน่ใจซึ่งระยะเวลามันก็นานกว่าที่จะต้องตรวจสอบกันสักครั้งสำหรับรถที่มีพื้นฐานของการใช้งานทั่วไป

mmm 15_resize
ให้แน่ใจ ต้องวัดอุณหภูมิน้ำด้วย เดี๋ยวรู้เลยเริ่มเปิดเมื่อไหร่

สิ่งสำคัญควรระวังเอาไว้ไม่ว่าจะตรวจสอบการทำงานของระบบใดๆ ในเครื่องยนต์หรือในรถยนต์ จะต้องทำการตรวจสอบเลยไปถึงส่วนประกอบที่เกี่ยวข้องกับระบบที่เราจะตรวจสอบนั้นด้วย อย่างสุภาษิตชาวดาวนาแม็กที่ว่า “ก่อนการเดินทางไกลแม้จะเป็นยามเช้า แต่ก็ควรเปิดลองสัญญาณไฟ จะได้ไม่ต้องเจอมัน (ปัญหา) ในยามมืด”……     

 

Comments are closed, but trackbacks and pingbacks are open.

เราใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของคุณ คุณสามารถศึกษารายละเอียดได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และสามารถจัดการความเป็นส่วนตัวเองได้ของคุณได้เองโดยคลิกที่ ตั้งค่า

Privacy Preferences

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

Allow All
Manage Consent Preferences
  • คุกกี้ที่จำเป็น
    Always Active

    ประเภทของคุกกี้มีความจำเป็นสำหรับการทำงานของเว็บไซต์ เพื่อให้คุณสามารถใช้ได้อย่างเป็นปกติ และเข้าชมเว็บไซต์ คุณไม่สามารถปิดการทำงานของคุกกี้นี้ในระบบเว็บไซต์ของเราได้

  • คุกกี้เพื่อการวิเคราะห์

    คุกกี้ประเภทนี้จะทำการเก็บข้อมูลการใช้งานเว็บไซต์ของคุณ เพื่อเป็นประโยชน์ในการวัดผล ปรับปรุง และพัฒนาประสบการณ์ที่ดีในการใช้งานเว็บไซต์ ถ้าหากท่านไม่ยินยอมให้เราใช้คุกกี้นี้ เราจะไม่สามารถวัดผล ปรับปรุงและพัฒนาเว็บไซต์ได้
    Cookies Details

Save