ช่วงล่างดีกว่าที่คิด! Jaecoo 5 EV เอสยูวีไฟฟ้าสไตล์มินิมอล ค่าตัวคุ้มสุดในตลาด!
OMODA & JAECOO รุกตลาดรถยนต์เอสยูวีไฟฟ้าอย่างหนัก ด้วยการส่ง Jaecoo 5 EV รถไฟฟ้าพรีเมียมที่เข้าถึงได้ ทำตลาดด้วยราคาที่คู่แข่งต้องมองค้อน เริ่มต้นที่ 629,000 บาท สำหรับรุ่น JAECOO 5 EV Long Range Dynamic และเริ่มต้นที่ 679,000 บาท สำหรับรุ่น JAECOO 5 EV Long Range Max
แต่เดี๋ยวก่อน!! ยังมีราคาพิเศษสำหรับ 1,000 คันแรก ที่จองและรับภายใน 30 กันยายน 2568 รับข้อเสนอสุดพิเศษ ราคาเริ่มต้นที่ 549,000 บาท สำหรับรุ่น JAECOO 5 EV Long Range Dynamic และราคาเริ่มต้นที่ 599,000 บาท สำหรับรุ่น JAECOO 5 EV Long Range Max บอกเลยว่าด้วยราคาค่าตัวขนาดนี้ ไม่รู้จะบอกว่าคุ้มยังไงแล้ว เพราะจากที่ลองขับมาต้องยอมรับว่าทำรถออกมาดีใช้ได้เลย มีความพรีเมียม ขับสนุก ช่วงล่างนุ่มไม่ย้วย ห้องโดยสารกว้าง มาแบบนี้ตลาดสะเทือนของแท้จริงๆ
Jaecoo 5 EV ถือว่าเป็นรถในกลุ่ม B-Segment แต่ราคา A-Segment ชูจุดขายด้วยดีไซน์ที่ได้รับแรงบันดาลใจมาจาก Range Rover เป็นรถพรีเมียมสไตล์อังกฤษที่คุ้มค่า ห้องโดยสารที่กว้างขวาง วัสดุเบาะทนทาน มีจุดยึด isofix สำหรับที่นั่งของสัตว์เลี้ยง มีโหมดคาราโอเกะในตัว มีความสบายในการขับขี่ ความเงียบของห้องโดยสาร และเทคโนโลยีช่วยการขับขี่ที่จัดเต็ม ถือว่าเป็นอีกหนึ่งรถที่ตอบโจทย์การใช้งานที่หลากหลายในราคาที่คุ้มค่า
สำหรับ Jaecoo 5 EV รุ่นที่ขับเป็น Long Rang Max ตัวท๊อป เบาะนั่งหุ้มด้วยหนังสังเคราะห์, เบาะนั่งคู่หน้าปรับด้วยระบบไฟฟ้า, เครื่องเสียงพร้อมลำโพง 8 ตำแหน่ง, พวงมาลัยมัลติฟังก์ชั่น, จอแสดงผลแบบสัมผัสบริเวณคอนโซลกลาง ขนาด 13.2 นิ้ว, จอแสดงผลมาตรวัดขนาด 10.25 นิ้ว, ไฟเรืองแสงล้อมรอบห้องโดยสาร 64 เฉดสี, กล้องรอบคัน 540 องศา, ระบบช่วยเหลือผู้ขับขี่อัจฉริยะ ADAS จำนวน 19 รายการ, กระจกมองข้างพับเก็บด้วยระบบไฟฟ้า, เบาะนั่งผู้ขับขี่ปรับไฟฟ้า 6 ทิศทาง ผู้โดยสารด้านหน้า 4 ทิศทาง, หลังคาพาโนรามิคแบบ Fixed Glass Roof ขนาด 1.45 ตารางเมตร, บานประตูท้ายปิดด้วยระบบไฟฟ้า, มีพื้นที่วางสัมภาระที่เมื่อพับเบาะแถวหลังแล้วมากถึง 480-1,284 ลิตร หรือเทียบเท่ากระเป๋าเดินทางขนาด 20 นิ้ว ถึง 30 ใบ, สีภายนอก 4 สี ขาว/ดำ/เขียวอ่อน/เทานม ส่วนสีดำ/เทานม คู่กับเบาะสีเทาอ่อน และ สีขาว/ดำ/เขียวอ่อน คู่กับเบาะสีดำ
การออกแบบภายนอกทำได้เรียบหรูสไตล์มินิมอล แต่ให้ความรู้สึกแข็งแกร่ง ใช้เส้นตรงที่ให้ความรู้สึกมั่นคงและเรียบง่าย มีแนวไฟหน้า ไฟท้าย และมือจับประตูที่ถูกออกแบบให้อยู่ในระดับเดียวกันทั้งหมด ช่วยสร้างความรู้สึกต่อเนื่อง ลื่นไหล และสบายตา ขนาดตัวถังกว้างแบบ B-Segment แต่ราคา A-Segment มิติตัวถังกว้าง 1,860 มม. ยาว 4,380 มม. สูง 1,650 มม. ระยะฐานล้อ 2,620 มม. ระยะต่ำสุดจากพื้น 174 มม. มาพร้อมยางขนาด 235/55 R18 และติดตั้งราวหลังคาสามารถรับน้ำหนักได้ 75 กิโลกรัม
โดยไฟหน้า ไฟท้าย ไฟเบรกดวงที่สาม ไฟส่องสว่างสำหรับตอนกลางวันเป็นแบบ LED เต็มระบบ และยังได้แรงบันดาลใจมาจาก Range Rover มีทีมดีไซน์เนอร์ทีมเดียวกัน ตัวรถมีขนาดตัวถังที่เล็กลงมาหน่อย แต่ยังให้อารมณ์ที่คล้ายกัน ถือว่าทำออกมาได้เรียบหรูใช้ได้เลย
ส่วนภายในห้องโดยสารถือว่าออกแบบให้มีความกว้าง โปร่ง หลังคาสูง ไม่อึดอัด และต้องชมว่าเบาะนั่งฝั่งคนขับออกแบบได้ดีมาก มีส่วนฟองน้ำที่นุ่มกำลังดี หนุนช่วงสะโพกและหลังให้รู้สึกสบาย ทำให้ขับทางไกลได้สะดวกไม่ปวดหลัง พวงมาลัยมัลติฟังก์ชั่นท้ายตัดออกแบบดูทันสมัย หน้าจอแสดงผลมาตรวัดขนาด 10.25 นิ้ว อาจจะรู้สึกเล็กไปนิดหน่อย แต่แสดงผลได้คมชัด มองข้อมูลต่างๆ ได้ง่าย รับกับจอแสดงผลแบบสัมผัสบริเวณคอนโซลกลาง ขนาด 13.2 นิ้ว ที่วางตำแหน่งให้เอนเล็กน้อยทำให้องศาการใช้งานทำได้สะดวก
ด้านขุมพลังมอเตอร์ไฟฟ้า 7-in-1 สมรรถนะสูง กำลังสูงสุด 211 แรงม้า แรงบิด 288 นิวตันเมตร มอเตอร์เดี่ยว ขับเคลื่อนล้อหน้า แบตเตอรี่ขนาด 58.9 กิโลวัตต์-ชั่วโมง ระยะทางขับ 461 กม. ตามมาตรฐาน NEDC และ 400 กม. ตามมาตรฐาน WLTP ชาร์จกระแสตรง DC รองรับได้สูงสุด 80 kW จาก 30% ถึง 80% ในเวลา 28 นาที ชาร์จกระแสสลับ AC รองรับได้สูงสุด 11 kW ภายใน 7 ชั่วโมง ลุยกระแสน้ำได้ระดับ 45 เซนติเมตร สมรรถนะในการลากจูง 750 กิโลกรัม
ในด้านการขับขี่ต้องยอมรับว่า Jaecoo 5 EV ปรับจูนช่วงล่างได้นุ่มนวลกำลังดี มีความหนึบและเกาะโค้งได้ดี มีความแข็งกระด้างเล็กน้อย ต่างจากรถยนต์ไฟฟ้าแบรนด์อื่นๆ ที่มักจะเน้นช่วงล่างที่นุ่มจนเกินไป ซึ่งช่วงล่างอิสระแบบนี้ทำให้การขับขี่มีความมั่นใจ ขับสนุก ถึงจะเป็นรถสไตล์เอสยูวีแบบนี้ แต่ท้ายไม่มีย้วย ถือว่าทำได้ดีมาก
เรื่องของอัตราเร่งทำได้ดีไม่ต่างจากรถยนต์ไฟฟ้าทั่วไป ตัวเลข 0-100 กม./ชม. ในเวลา 7.7 วินาที ถือว่าทำได้เร็วใช้ได้ การตอบสนองของคันเร่งทันใจ น้ำหนักเบรกไม่ลึกเกินไป มีโหมดการขับให้เลือกทั้ง Eco, มาตรฐาน และ Sport ในการขับส่วนใหญ่จะใช้ความเร็วอยู่ในช่วง 60-120 กม./ชม. รถมีความคล่องตัวสูง พวงมาลัยน้ำหนักค่อนไปทางเบา การเก็บเสียงภายในห้องโดยสารทำได้ดี เสียงลมที่เสา A จะเริ่มได้ยินเมื่อเริ่มเข้า 130 กม./ชม. แต่ความเร็วในช่วง 100 กม./ชม. จะได้ยินเสียงยางดังขึ้นมาเล็กน้อย การขับบนทางทั่วไปทำได้ดี ช่วงล่างถือว่าดีกว่าค่ายจีนหลายค่าย
ส่วนการขับบนทางฝุ่นแบบจิมคาน่า เป็นการขับให้ได้ลองสนุกกับการควบคุมพอหอมปากหอมคอ แม้จะเป็นรถขับหน้า แต่การวางตำแหน่งแบตเตอรี่ที่กลางตัวถังทำให้สมดุลรถค่อนข้างดี ควบคุมรถในการเข้าโค้งได้มั่นคง การลื่นไถลที่เกิดขึ้นจะมีระบบควบคุมการทรงตัวที่เข้ามาช่วยทำให้ควบคุมรถได้ง่ายขึ้น โดยเฉพาะการป้องกันล้อหมุนฟรีที่ทำงานได้รวดเร็วมาก อย่างในตอนที่ปรับเป็นโหมด Sport แล้วกดคันเร่งเต็ม 100% ในตอนออกตัว ล้อจะหมุนฟรีตะกุยฝุ่นอยู่สั้นๆ ไม่ถึง 2 วินาที แล้วจะลดทอนแรงบิดลง จากนั้นรถจึงจะออกตัว ซึ่งถ้าเป็นกรณีใช้งานจริง อาจจะเผลอกดคันเร่งมากเกินไป ระบบจะเข้ามาตัดกำลังทำให้ปลอดภัยมากขึ้น การขับในทางฝุ่นแบบนี้ถือว่าทำได้ดีเช่นกัน โดยเฉพาะเรื่องของสมดุลของตัวรถที่ให้ความรู้สึกแบบ 50:50 มีความั่นคงมากทีเดียว
ในภาพรวมถือว่า Jaecoo 5 EV เป็นรถเอสยูวีไฟฟ้าที่คุ้มค่ามากๆ เมื่อเทียบขนาดตัวถังกับราคาค่าตัว การขับขี่ที่เน้นความนุ่มนวล อัตราเร่งจัดจ้าน การทรงตัวและการควบคุมที่ง่ายปลอดภัย รวมทั้งระบบช่วงล่างที่เซ็ตมาดีกว่าที่คิดเอาไว้มาก ตอบโจทย์การขับใช้งานทั้งขับไปทำงานในทุกวัน การออกเดินทางท่องเที่ยว การปรับใช้งานพื้นที่ห้องโดยสารเพื่อรองรับการทำกิจกรรมแบบ Outdoor แม้ว่าระยะทางขับจริงอาจจะรู้สึกน้อยไปหน่อย แต่จากการขับใช้งานจริงไป-กลับ บางนา-บางแสน ระบะทางไปกลับ 200 กิโลเมตร ยังเหลือแบตเตอรี่กลับมาประมาณ 30% ถือว่าเพียงพอต่อการขับในเส้นทางที่ไม่ไกลเกินไป แต่ถ้าไกลกว่านั้นต้องวางแผนกันเอาไว้ให้ดีหน่อยเท่านั้นเองถือว่า Jaecoo 5 EV เป็นอีกหนึ่งตัวเลือกที่ทำให้ตลาดรถในกลุ่มนี้คึกคักมากๆ ด้วยเช่นกัน
เรื่อง : พุทธิ ผาสุข
Comments are closed, but trackbacks and pingbacks are open.