Riddara RD6 ลุยออฟโรด! กระบะไฟฟ้ามีดีกว่าที่คิด!

ต้องยอมรับแล้วล่ะว่า ด้วยเทคโนโลยีที่อยู่ในรถยนต์ไฟฟ้าทำอะไรได้มากกว่าที่คิด โดยเฉพาะกับกลุ่มรถกระบะที่เราจะคุ้นเคยกับเครื่องยนต์ดีเซล ระบบขับเคลื่อนสี่ล้อ พร้อมโหมดการขับขี่ที่มีให้เลือกหลายรูปแบบเพื่อให้เหมาะสมกับสภาพพื้นที่ แต่พอมาอยู่ใน Riddara RD6 รถกระบะพลังงานไฟฟ้าในเครือ Geely Auto Group ที่นำมาเปิดตัวและจำหน่ายในไทยเพียงไม่นาน กระแสตอบรับค่อยๆ ดีขึ้น เพราะไม่ได้มีดีแค่เทคโนโลยี แต่เพราะสามารถตอบโจทย์ความต้องการของผู้ใช้งานได้ รวมทั้งเป็นของใหม่ที่ใครๆ ก็อยากลองนั่นเอง

โดยการทดลองขับในครั้งนี้ ทีมงาน Riddara ใจถึง จัดให้ขับบนเส้นทางธรรมชาติ เชียงใหม่ หางดง ลุยข้ามแม่น้ำร้อยสาย แม่ขนิล ใช้ทั้งเส้นทางออฟโรด และออนโรดแบบขับยาวๆ จากลำปางกลับมากรุงเทพ โดยเฉพาะกับเส้นทางออฟโรดที่ไม่ค่อยได้มีใครได้เข้าไปสัมผัส ทำให้เราได้รู้จักคาแรกเตอร์และสมรรถนะในด้านออฟโรดของ Riddara RD6 ได้ชัดเจนมากขึ้น

สำหรับ RIDDARA RD6  โดดเด่นด้วยนวัตกรรม M.A.P (Multiplex Attached Platform) ซึ่งเป็นเทคโนโลยีแพลตฟอร์มรถยนต์ที่พัฒนาเอาจุดเด่นของรถกระบะและรถยนต์พลังงานไฟฟ้ามาผสมผสานกัน ทำให้โดดเด่นทั้งในด้านของการออกแบบ สมรรถนะและความอัจฉริยะในแบบฉบับของรถยนต์พลังงานไฟฟ้า โครงสร้างตัวถังมีขนาดใหญ่และปลอดภัยสูง พื้นห้องโดยสารกว้างขวางนั่งสบาย ติดตั้งระบบความปลอดภัยและระบบช่วยในการขับขี่ พร้อมฟังก์ชันการใช้งานที่รองรับทั้งการเดินทาง และการทำกิจกรรมแบบเอาท์ดอร์ รวมทั้งมีค่าบำรุงรักษาและค่าใช้จ่ายด้านพลังงานที่น้อยกว่ารถกระบะสันดาปทั่วไป

การขับขี่บนเส้นทางออนโรด ต้องยอมรับว่าปรับจูนช่วงล่างออกมาได้นุ่มนวล เกือบจะเป็นรถเอสยูวีไปแล้ว โดยระบบกันสะเทือนด้านหน้าแบบแม็คเฟอร์สันสตรัท ส่วนด้านหลังแบบอิสระมัลติลิงก์ ที่แม้ว่าจะไม่สามารถบรรทุกหนักแบบรถกระบะเชิงพาณิชย์ได้ แต่รองรับการใช้งานแบบทั่วไป โดยเฉพาะสายแคมป์ ที่หากอยากติดตั้งอุปกรณ์เสริม ติดแร็คกระบะ ใส่เต็นท์หลังคา รวมๆ น้ำหนัก 300-500 กิโลกรัม ได้สบาย น่าเสียดายที่รถที่ขับในทริปนี้ไม่ได้มีน้ำหนักบรรทุกที่กระบะท้าย ทำให้ไม่รู้ว่าฟิลลิ่งในการขับมีความแตกต่างกับกระบะเปล่าๆ อย่างไร และยังลากจูงได้สูงสุดถึง 3,000 กิโลกรัม อีกด้วย

แต่ถึงอย่างนั้น การขับแบบตัวรถเปล่าทำได้น่าสนใจมาก แน่นอนว่าด้วยการเป็นขุมพลังที่มาจากมอเตอร์ไฟฟ้า มันมีความรวดเร็ว อัตราเร่งจัดจ้าน การตอบสนองต่อคันเร่งทำได้ฉับไวแล้ว น้ำหนักของพวงมาลัยทำได้ดีเช่นกัน ซึ่งเป็นน้ำหนักพวงมาลัยที่รองรับการขับด้วยความเร็วสูงได้อย่างมั่นใจมากๆ เพราะมีบางช่วงที่ลองเร่งความเร็วจาก 0 เลขไมล์วิ่งต่อเนื่องจนไปแตะที่ 178 กม./ชม. ในเวลาไม่ถึง 12 วินาที ซึ่งเร็วมาก แรงบิดสูงสุด 595 นิวตันเมตร มาตั้งแต่คิกดาวน์ แล้วช่วงล่างทำงานได้ดีมาก ถึงจะเน้นความนุ่มนวล แต่พอใช้ความเร็วสูงกลับนิ่งและหนึบ ตัวรถไม่มีอาการส่าย พวงมาลัยยังคงนิ่ง ไม่คิดเลยว่านี่จะเป็นความเร็วและมั่นใจของรถกระบะไฟฟ้า ทำให้การเร่งแซงในบางจังหวะทำได้ฉับไว ตัวรถมีความกระฉับกระเฉงสุดๆ เสียงลมที่ดังเข้ามาถือว่าน้อยมาก จะเริ่มดังเข้ามาในช่วงความเร็ว 130 กม./ชม. ขึ้นไป แต่เสียงของยางจะได้ยินชัดตั้งแต่ความเร็ว 100 กม./ชม. เรื่องการเก็บเสียงถือว่าทำได้ดีมาก

ส่วนการขับบนเส้นทางออฟโรด ถือว่ายังเป็นเส้นทางที่ไม่ได้ยากมาก แต่ถ้าพลาดก็มีโอกาสติดหล่มได้ไม่ยาก เป็นเส้นทางธรรมชาติที่ชาวบ้านเอาไว้สัญจร มีทางชัน พื้นเป็นหิน ดินทราย และที่ต้องขับผ่านกันจนเบื่อกันไปเลยก็คือ การขับตัดผ่านลำน้ำแม่ขนิล ที่เรียกว่าแม่น้ำร้อยสายเป็นเส้นทางที่ตัดข้ามสายน้ำแบบตัดข้ามไปข้ามมา ตัดแล้ว ตัดอีก ซึ่งเส้นทางแบบนี้ชาวโมโตครอสจะชอบกันเป็นพิเศษ

การขับบนเส้นทางนี้ ส่วนใหญ่จะไม่ได้ใช้โหมดการขับขี่เลย โดยใน RIDDARA RD6 รุ่นขับเคลื่อน 4 ล้อ มาพร้อมระบบขับเคลื่อน 4 ล้อ แบบอัตโนมัติ และมีโหมดการขับขี่ 7 โหมด คือ Sand, Mud, Off-road, Wading, Economy, Comfort และSport ซึ่งปกติแล้วจะขับด้วยโหมด Economy และ Comfort ถือว่าใช้ขับผ่านเส้นทางแบบนี้ได้สบาย นอกจากในบางจุดที่ค่อนข้างลึก และมีความชันมากหน่อย จะเปลี่ยนไปใช้โหมด Off-Road ซึ่งการเปลี่ยนไปใช้โหมด Off-Road นี้ จะแตกต่างจากการขับแบบเดิมๆ เพราะปกติแล้วในรถที่มีระบบขับเคลื่อนสี่ล้อ จะมี 4L, 4H ให้เลือกใช้ แต่ใน RIDDARA RD6 ไม่มี

โดยการขับใช้งานจริง ระบบของรถจะประเมินเส้นทางและสภาวะของการใช้พละกำลัง และเปลี่ยนการขับเคลื่อนให้อัตโนมัติ ทำให้มีข้อดีคือ เราไม่ต้องพะวงกับการใช้น้ำหนักเหยียบคันเร่ง และวงเลี้ยวยังคงเท่าเดิม ซึงปกติหากขับด้วย 4L วงเลี้ยวจะกว้างกว่าเดิม ที่บอกว่าไม่ต้องพะวงกับการใช้น้ำหนักเหยียบคันเร่งเนื่องจาก ระบบจะรักษาความเร็วเอาไว้ในระดับที่ไม่ทำให้รถพุ่งไปข้างหน้าแม้ว่าจะเหยียบคันเร่งมากเกินไป ความเร็วจะคล้ายๆ กับ Walking Speed ถึงจะกดคันเร่งเต็ม แต่รถจะขับเคลื่อนด้วยพละกำลังที่พอดีกับการผ่านเส้นทางนั่นเอง กลายเป็นว่าทำให้การขับบนเส้นทางแบบนี้ง่ายขึ้น มือใหม่สามารถขับผ่านได้สบาย แค่ต้องขับให้ตรงไลน์เท่านั้น ส่วนเรื่องการลุยน้ำลึกก็ไม่ต้องห่วง เพราะตามสเปคถึงจะลุยน้ำลึกได้สูงสุด 815 มิลลิเมตร เอาเข้าจริงๆ ลุยเพิ่มได้อีก แต่อาจจะมีน้ำซึมเข้ารถบ้างเท่านั้น เอาจริงๆ ถ้าลุยน้ำท่วมระดับครึ่งล้อก็ควรถอยแล้วล่ะ

ส่วนเรื่องของการใช้พลังงาน ตามสเปคระยะทางวิ่งสูงสุดตามมาตรฐาน NEDC อยู่ที่ 455 กม. การเดินทางจาก ลำปาง มาถึง ดอนเมือง กรุงเทพ ระยะทาง 580 กม. แน่นอนว่าต้องชาร์จไฟ 1 รอบ จากลำปางมาแวะชาร์จที่นครสวรรค์ ระยะทาง 350 กม. ขับจริงเหลือระยะทางขับได้อีก 70 กม. โดยประมาณ แล้วใช้เวลา 40 นาที ชาร์จไฟกลับได้ 96% ระยะทางวิ่งได้ 420 กม. เหลือระยะทางอีก 240 กม. ขับใช้ความเร็วประมาณ 90-120 กม./ชม. มาถึงปลายทางเหลือระยะทางขับได้อีก 150 กม. เฉลี่ยแล้วตลอดทริปใช้พลังงานจากแบตเตอรี่ 14 kwh/100 กม. ถือว่าไม่ได้ต่างจากรถยนต์ไฟฟ้ารุ่นอื่นๆ การใช้พลังงานพอๆ กัน ตัวเลขจากหน้าจอมาตรวัดเทียบกับการใช้งานจริง ถือว่าต่างกันราว 10-20% แล้วแต่การขับและความเร็วในการใช้งาน การขับจากลำปางกลับกรุงเทพ แวะชาร์จ 1 ครั้ง คิดเป็นค่าพลังงานไม่ถึง 600 บาท ยังไงก็ราคาถูกกว่าเติมน้ำมันอยู่มากพอสมควร

จะพูดไปแล้วถือว่า Riddara RD6 เป็นรถกระบะไฟฟ้าที่ทำให้เปลี่ยนความคิดเดิมไปอย่างสิ้นเชิง โดยเฉพาะความคุ้นเคยกับการขับรถกระบะเครื่องยนต์ดีเซลที่พร้อมด้วยฟังก์ชั่นและเทคโนโลยีแบบครบเครื่อง พอมาลองขับรถกระบะไฟฟ้าแบบนี้กลายเป็นว่า มันง่ายและสะดวกสบาย บางครั้งการใช้งานอาจจะไม่ได้เอาไปลุยหนักมาก แต่เป็นการใช้รถกระบะไฟฟ้าเพื่อตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์มากกว่า แล้วสถานที่ท่องเที่ยวส่วนใหญ่สามารถขับรถไปได้ง่ายกว่าในอดีตเยอะ ทำให้รู้สึกว่าคนรุ่นใหม่ที่อยากมีรถยนต์ไฟฟ้าเอาไว้ใช้งาน บางกลุ่มต้องการการใช้งานในแบบรถกระบะมากกว่าเอสยูวี แต่ต้องการการขับที่นุ่มสบายอารมณ์เอสยูวี มีพละกำลังมากพอ มีความคล่องตัว ฟังก์ชั่นและเทคโนโลยีต้องทันสมัย เมื่อลองขับใช้งานอยู่ช่วงเวลาหนึ่ง ถึงได้รู้ว่าทำไม Riddara RD6 จึงขายได้ ล่าสุดเตรียมขยายเครือข่ายโชว์รูมและศูนย์บริการจาก 15 แห่ง เป็น 50 แห่งภายในปีนี้ รวมทั้งตั้งเป้ายอดขายไว้ที่ 10,000 คัน เค้ามากันแบบจริงจัง ไม่ได้มาเล่นๆ มาลองเปิดใจดู ลองขับ ลองสัมผัสแล้วจะรู้ว่า Riddara RD6 มีดีกว่าที่คิดจริงๆ

 

เรื่อง : พุทธิ ผาสุข

Comments are closed, but trackbacks and pingbacks are open.

เราใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของคุณ คุณสามารถศึกษารายละเอียดได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และสามารถจัดการความเป็นส่วนตัวเองได้ของคุณได้เองโดยคลิกที่ ตั้งค่า

Privacy Preferences

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

Allow All
Manage Consent Preferences
  • คุกกี้ที่จำเป็น
    Always Active

    ประเภทของคุกกี้มีความจำเป็นสำหรับการทำงานของเว็บไซต์ เพื่อให้คุณสามารถใช้ได้อย่างเป็นปกติ และเข้าชมเว็บไซต์ คุณไม่สามารถปิดการทำงานของคุกกี้นี้ในระบบเว็บไซต์ของเราได้

  • คุกกี้เพื่อการวิเคราะห์

    คุกกี้ประเภทนี้จะทำการเก็บข้อมูลการใช้งานเว็บไซต์ของคุณ เพื่อเป็นประโยชน์ในการวัดผล ปรับปรุง และพัฒนาประสบการณ์ที่ดีในการใช้งานเว็บไซต์ ถ้าหากท่านไม่ยินยอมให้เราใช้คุกกี้นี้ เราจะไม่สามารถวัดผล ปรับปรุงและพัฒนาเว็บไซต์ได้
    Cookies Details

Save