Rust Don’t come…..รู้จัก ป้องกัน “สนิม”

1ต้องขนานนามมันว่าภัยเงียบกับสิ่งที่ทุกคนเห็นกันจนชินตากับ “สนิม” คำที่ใช้เรียกปฎิกิริยาทางเคมี ซึ่งมีผลต่อการกัดกร่อนอุปกรณ์ ชิ้นส่วนรถยนต์ ในการใช้งานจริงสนิมไม่ใช่ตัวทำร้ายรถแต่เพียงอย่างเดียว หากแต่มันส่งเสริมให้รถยนต์มีสภาพที่เสื่อมถอย และความเข้าใจคือ เราไม่สามารถที่จะหลีกเลี่ยงการเกิดสนิมได้ หากดูจากปัจจัยการเกิดของสนิมแล้ว แต่เราสามารถยืดอายุดูแลการเกิดสนิมให้เพียงแต่อยู่ห่างๆ อย่างห่วงๆ ด้วยวิธีการง่ายๆ ที่ทำได้ด้วยตัวของเราเอง…..

การเริ่มต้นของสิ่งที่เรียกว่ารถยนต์ ประกอบไปด้วยหลายสิ่งหลายอย่าง ถ้ามองในแง่ของเทคโนโลยี รถยนต์แต่ละคันประกอบด้วยเทคโนโลยีที่หลากหลาย มากมายองค์ความรู้แต่ในบางครั้งบริษัทผู้ผลิตหรือออกแบบเรียกมันว่างานศิลปะ พอเอ่ยคำนี้ออกมามันช่างเข้ากับช่วงเวลาที่กระแสสังคมกำลังวิพากวิจารณ์การแสดงโชว์งานศิลปะของหญิงสาวผู้หนึ่งในรายการโทรทัศน์ชื่อดัง ว่ามันไม่เหมาะสมและเลยเถิดไปถึงอะไรก็ตามที่เราๆ รับรู้ บทเรียนจากเรื่องนี้ชี้ให้เห็นถึงสภาพความเป็นจริงของสังคมไทยที่เป็นอยู่ จริยธรรมสำหรับทฤษฎีซึ่งก้าวไม่ทันกับจริยธรรมในทางปฎิบัติ บทสรุปคือ ต้องอดทนกันไป แต่เรื่องของสนิมนั้นไม่จำเป็นต้องทน ทำความรู้จักแล้วจัดการในแบบที่พอทำได้

2

การปล่อยปะละเลยในจุดต่างๆ อาจส่งผลต่อการเกิดสนิมที่พื้นผิววัสดุได้

          ในรถยนต์แต่ละคัน มีส่วนประกอบของวัสดุหลายอย่าง ทั้งเหล็กหลากหลายชนิดรวมไปถึงอลูมิเนียม ซิงค์แผ่นพับ วัสดุพลาสติกไฟเบอร์ ยาง แก้ว ถูกวางเอาไว้ในตำแหน่งที่เหมาะสม ซึ่งตำแหน่งที่เหมาะสมในการออกแบบใช้งาน ยังเหมาะสมกับการเกิดสภาวะที่เรียกว่าสนิมได้ด้วย สำหรับสนิมนั้นตามที่เรารู้จักกันในระดับความเข้าใจทั่วไปคือ คราบสีแดงๆ ที่เกิดขึ้นและเกาะอยู่ตามพื้นผิวของวัสดุหรือชิ้นส่วนต่างๆ ซึ่งมีส่วนผสมของธาตุเหล็กอยู่ในวัสดุนั้น ปัจจัยในการเกิดสนิมหลักๆ จะมีในเรื่องของความชื้นกับอากาศ ซึ่งมีส่วนผสมของออกซิเจนมาเป็นส่วนส่งเสริม และมันจะยิ่งเกิดสนิมได้ง่ายถ้าเพิ่มเติมในส่วนของกรดเกลือและอุณหภูมิที่สูง-ต่ำลดเพิ่มอย่างสม่ำเสมอ อีกทั้งชนิดของวัสดุยังเอื้ออำนวยให้เกิดสนิมได้ง่ายด้วย

มันจะไม่เกิดปัญหา ถ้าสนิมที่เกิดมาไม่ส่งผลต่อความสวยงามของตัวรถ ความแข็งแรงทนทานและความมั่นคงแข็งแรงในการใช้งาน ซึ่งผลกระทบนั้นมันจะใช้ระยะเวลาในการเกิดที่ค่อนข้างนาน แต่มันก็เกิดขึ้นได้ไม่ยาก ไม่ใช่เพียงแต่ผู้ใช้รถเท่านั้นที่เห็นความสำคัญของเรื่องนี้ ผู้ผลิตรถยนต์เองก็มองเห็นถึงได้มีขั้นตอนการป้องกันสนิมอยู่ในไลน์การผลิตรถยนต์ ทั้งการชุบด้วยสารป้องกันสนิม ทั้งที่ตอนเริ่มต้นในการผลิตตั้งแต่ส่วนที่เป็นโครงสร้าง ไปจนกระทั่งถึงการพ่นเคลือบกันสนิมเบื้องต้นมาจากโรงงานให้กับรถยนต์ทุกคัน แต่มันก็ยังไม่พบเจอกับคำว่าพอ ในส่วนของรถยนต์ใหม่ ต้องแยกออกมาให้ชัดเจนเพื่อความเข้าใจว่า สนิมเกิดขึ้นได้ไม่ว่ารถยนต์คันนั้นจะมีอายุการใช้งาน หรือปัจจัยเสี่ยงมากเท่าไหร่ เพราะตั้งแต่เรื่องการผลิต การเชื่อมโครงสร้างชิ้นส่วนอุปกรณ์ รอยเชื่อมที่ถูกพอกพูนด้วยวัสดุเคลือบสารป้องกันการรวมตัวกับออกซิเจน ซึ่งการเชื่อมสามารถเกิดความผิดปกติและการหลุดร่อนของชิ้นส่วน รอยเชื่อมที่ไม่สมบูรณ์หรือผิดที่ผิดแนวได้เสมอ แต่ในจุดที่มีการเชื่อมอย่างโครงสร้างตัวรถในจุดต่างๆ หากมีการใช้งานที่ไม่มีปัจจัยเสี่ยงมากเกินไป ผลกระทบจากสนิมที่เกิดขึ้นมีน้อย แต่รถใหม่ก็มีโอกาสในการเกิดสนิมได้

3

ตัวถังรถที่อยู่ในจุดด้านล่างมักเกิดสนิมและลุกลามอย่างรวดเร็ว เพราะมีปัจจัยเสริมตลอดเวลา

                ในส่วนของการใช้รถหรือรถยนต์ที่ผ่านการใช้งานมาแล้ว ปัจจัยรอบข้าง สภาพแวดล้อมล้วนแล้วแต่ส่งเสริมให้เกิดสนิมทั้งสิ้น สำหรับผู้ใช้รถสิ่งที่ควรหลีกเลี่ยงคือ ปัจจัยในการเกิดสนิม น้ำ ความชื้น และไม่นำรถไปใช้ในบริเวณซึ่งมีกรด ด่าง ที่แตกต่างกันมากๆ ซึ่งดูแล้วมันแทบจะเป็นไปไม่ได้เลย เพราะในทุกจุดของท้องถนน แม้กระทั่งตัวของรถยนต์เองมันก็เป็นต้นกำเนิดของสนิมด้วย อย่างเช่นการต้องรับอุณหภูมิสูงจากการทำงานของเครื่องยนต์ที่ถ่ายเทออกมาให้กับอุปกรณ์ชิ้นส่วนใกล้เคียงอย่างในห้องเครื่องยนต์ หรือการขับรถผ่านหรือลุยลงไปในแอ่งน้ำหรือความชื้น การใช้งานในยามฝนตกมันหลีกเลี่ยงได้ยาก การป้องกันและการใช้งานอย่างมีแนวทางดูจะเป็นสิ่งที่เหมาะสมมากที่สุดสำหรับเรื่องของสนิม

กับออฟโรดไม่ต้องสงสัย ว่าจะเกิดสนิมหรือไม่ มันยิ่งต้องเป้นเรื่องใหญ่สำหรับลุยป่าหรือเดินทางท่องเที่ยว เพราะปัจจัยในการเกิดสนิมมีให้ครบ หลีกเลี่ยงได้ยาก การจะอยู่กับสนิมมันต้องเริ่มต้นตั้งแต่ต้นทาง การป้องกันในแบบชุดใหญ่ อย่างการพ่นกันสนิม ซึ่งมีวิธีการพ่นที่หลากหลายสำหรับรถใช้งานทั่วไป การพ่นแต่ภายนอกในจุดต่างๆ ดูจะเพียงพอแต่สำหรับรถลุยหรือรถที่มีปัจจัยเสี่ยงสูงการพ่นแบบเจาะตัวถังพ่นถึงภายใน และพร้อมด้วยการเคลือบสารกันการหลุดร่อนทับอีกชั้นดูจะมีความเหมาะสมและคุ้มค่าการลงทุน แต่ในทางปฎิบัติจริง รถยนต์ออฟโรดซึ่งมักจะมีการดัดแปลงชุดอุปกรณ์โดยเฉพาะช่วงล่างอยู่แล้ว อีกทั้งการใช้งานจะต้องมีการดูแลบำรุงรักษาที่ถี่และระเอียดกว่ารถยนต์ปกติในลำดับหนึ่ง การบำรุงรักษาจะช่วยให้การพบเจอสนิมในจุดเริ่มต้นและหยุดวงจรการกัดกร่อนมันออกไปได้ ซึ่งจริงๆ แล้วการใช้งานรถยนต์ทั่วไปก็เช่นกัน เพียงแต่การรักษาความสะอาดของตัวรถโดยเฉพาะในจุดของช่วงล่าง จุดอับอากาศหรือจุดที่มีการเปลี่ยนแปลงอุณหภูมิสูงต่ำ สม่ำเสมอ เหล่านี้คือสิ่งที่เราทำได้

4

เครื่องยนต์ที่ปล่อยทิ้งไว้จนเกิดสนิมจนลูกสูบติดตาย ความเสียหายหนักหนา

                ในจุดของตัวเร่งปฎิกิริยาที่สำคัญ อย่างสิ่งสกปรกตกค้างตามตัวรถ น้ำฝนหรือน้ำที่เจือปนสารกรด กัดกร่อนสูงพวกนี้ ถ้าเป็นไปได้ในทุกครั้งที่ผ่านการลุยน้ำเหล่านั้นมา ควรล้างทำความสะอาดด้วยน้ำสะอาดอย่างน้ำประปาและเช็ดตัวรถให้แห้ง ในส่วนของช่วงล่างหากสามารถล้างในส่วนของจุดต่างๆได้ ไม่จำเป็นต้องสะอาดเอี่ยมอ่อง เป็นแต่เพียงให้สิ่งสกปรกไม่ตกติดค้างเป็นปริมาณมากและให้น้ำละลายสารกรด ด่างที่ตกค้างให้เจือจาง ลงเพื่อลดการกัดกร่อนอันจะก่อให้เกิดสนิมได้ยากขึ้น สำหรับการลงรายละเอียดการใช้ตัวช่วยอย่างน้ำยาเอนกประสงค์ไล่ตามรอยต่อ ตะเข็บ หัวน็อต หรือจุดที่คิดหรือเห็นว่าเกิดสนิมได้ง่าย ในยามที่มีการทำการบำรุงรักษาในส่วนอื่น แต่สิ่งที่ไม่ควรมองข้ามคือ เรื่องของพื้นผิว พยายามดูแลพื้นผิวหน้าของส่วนที่เป็นโลหะให้มีการปกป้องด้วยสี หรืออะไรก็ตาม ที่เคลือบปกป้องอยู่ ถ้ามีการหลุดร่อนหรือร่องรอยกัดกร่อนควรรีบทำการซ่อมแซมไม่ให้ลุกลามไป เพราะผิวหน้าที่สัมผัสกับอากาศและความชื้นจะเกิดสนิมได้อย่างรวดเร็ว

บริเวณที่ควรปกป้องไม่ให้เกิดสนิมเป็นอันดับต้นๆ เมื่อเรียงตามความสำคัญจะไล่ไปตามชิ้นส่วนของตัวถังบอดี้ อุปกรณ์ที่มองเห็นได้จากภายนอกอย่างชัดเจน ในจุดที่ลับที่สายตาถ้ามีการตรวจพบการขัดออกด้วยกระดาษทราย หรือการลอกพื้นผิวแล้วทำการเคลือบ พ่น ทาสีหรือวัสดุป้องกันการสัมผัสกับอากาศเอาไว้จะช่วยได้มาก ในส่วนของอุปกรณ์อย่างพวกระบบไฟ อิเล็กทรอนิกส์ พวกนี้มีความซับซ้อนควรให้ผู้ที่มีความชำนาญตรวจสอบ แต่สำหรับรถถ้าไม่เคยลุยน้ำในระดับสูงหรือ ตะลุยบ่อโคลนแบบเกือบจมมา หรือผ่านการขับผ่านแอ่งน้ำพวกระบบไฟมักจะไม่ค่อยมีปัญหา แต่ในส่วนของห้องเครื่องยนต์ถ้าในรถที่ใช้แบตเตอรี่แบบเติมน้ำกลั่นการใช้ความระมัดระวังการล้นของน้ำกลั่นซึ่งจะมีการกัดกร่อนโลหะและเป็นตัวเร่งให้เกิดสนิมได้อย่างดี ไอระเหยของแบตเตอรี่ซึ่งมีกรดเกลือเองก็เป็นตัวเร่งอย่างมาก ต้องหาเวลล้างห้องเครื่องบ้างในเวลาที่เหมาะสม ถึงจะไม่มีไอระเหยจากแบตเตอรี่ แต่วัสดุในชิ้นส่วนเครื่องยนต์มีการเปลี่ยนแปลงอุณหภูมิบ่อย และก็สัมผัสกับอากาศและความชื้นพวกนี้เกิดสนิมได้ทั้งสิ้น การทำความสะอาดและฉีดน้ำยาเอนกประสงค์เป็นครั้งคราว จะช่วยตรวจสอบและยืดการเป็นสนิมออกไป

5

การยกรถขึ้นตรวจสอบใต้ท้องรถถ้าพบการกัดกร่อนของสนิมต้องรีบแก้ไข

                ยิ่งในกรณีที่มีความเสี่ยง อย่างการนำรถไปใช้ในสถานที่เสี่ยงก่อสนิม อย่างเช่น ชายทะเลพวกนี้การล้างทำความสะอาดในจุดอันสมควร เป็นสิ่งที่ช่วยลบล้างกรดเกลือ ซึ่งจะเร่งปฎิกิริยาในการเกิดสนิม การป้องกันสนิมจะเป็นสิ่งที่เหมาะสมที่สุดในการใช้งาน ซึ่งทำในส่วนที่ทำได้ในการล้างทำความสะอาดหรือการสร้างภูมิคุ้มกันเหล่านี้เป็นสิ่งที่ผู้ใช้รถสามารถทำได้ สำคัญที่ว่าอย่าให้เกิดสนิมในจุดที่เกี่ยวข้องกับความปลอดภัยในระยะเวลานานๆ จะเป็นการดีที่สุด

 

Comments are closed, but trackbacks and pingbacks are open.

เราใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของคุณ คุณสามารถศึกษารายละเอียดได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และสามารถจัดการความเป็นส่วนตัวเองได้ของคุณได้เองโดยคลิกที่ ตั้งค่า

Privacy Preferences

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

Allow All
Manage Consent Preferences
  • คุกกี้ที่จำเป็น
    Always Active

    ประเภทของคุกกี้มีความจำเป็นสำหรับการทำงานของเว็บไซต์ เพื่อให้คุณสามารถใช้ได้อย่างเป็นปกติ และเข้าชมเว็บไซต์ คุณไม่สามารถปิดการทำงานของคุกกี้นี้ในระบบเว็บไซต์ของเราได้

  • คุกกี้เพื่อการวิเคราะห์

    คุกกี้ประเภทนี้จะทำการเก็บข้อมูลการใช้งานเว็บไซต์ของคุณ เพื่อเป็นประโยชน์ในการวัดผล ปรับปรุง และพัฒนาประสบการณ์ที่ดีในการใช้งานเว็บไซต์ ถ้าหากท่านไม่ยินยอมให้เราใช้คุกกี้นี้ เราจะไม่สามารถวัดผล ปรับปรุงและพัฒนาเว็บไซต์ได้
    Cookies Details

Save