Rolls-Royce พร้อมเข้าสู่ยุคใหม่ของแบรนด์ ใช้พื้นฐาน Cullinan, Ghost และ Phantom ในการผลิตรถยนต์ไฟฟ้าเต็มรูปแบบ
Rolls-Royce เตรียมพร้อมสำหรับการเปิดสายผลิตรถยนต์ไฟฟ้าครั้งแรกในปี 2024 ที่เรียกชื่อรุ่นว่า Spectre โดยรุ่นใหม่นี้บ่งบอกถึงยุคใหม่ของแบรนด์
อันที่จริงแล้วรถยนต์ Rolls-Royce ทุกรุ่นรวมถึง Phantom, Ghost และ Cullinan กำลังเป็นโมเดลที่จะกลายเป็นรถยนต์ไฟฟ้าเต็มรูปแบบภายในปี 2030 โดยทาง Torsten Müller-Ötvö ประธานกรรมการบริหารของ Rolls-Royce กล่าวว่าค่าตัวของรถยนต์ไฟฟ้าจะมีราคาใกล้เคียงกับรุ่นที่ขับเคลื่อนด้วยเครื่องยนต์สันดาป
ต้นทุนในการพัฒนาไปสู่การเป็นแบรนด์ยานยนต์ไฟฟ้าเต็มรูปแบบภายในเวลาไม่กี่ปีนั้นค่อนข้างมากพอสมควรสำหรับผู้ผลิตรถยนต์พรีเมียมเพียงไม่กี่คันอย่าง Rolls-Royce แต่ดูแล้วคงไม่ส่งผลให้ราคากระโดดเพิ่มสูงลิบมากกว่ารถยนต์ที่ใช้ขุมพลังสันดาป แต่ก็ต้องยอมรับว่าการใช้ขุมพลังไฟฟ้าเป็น “งานใหญ่” สำหรับบริษัท
Torsten Müller-Ötvö กล่าวว่ากลยุทธ์การกำหนดราคาของ Rolls-Royce จะกำหนดตามเซ็กเมนต์ กลยุทธ์นี้จะใช้กับ Phantom EV ในอนาคต ซึ่งคาดว่าจะเริ่มต้นที่ประมาณ 500,000 ดอลลาร์สหรัฐ (ประมาณ 16,611,250 บาท) ซึ่งแน่นอนว่าทางบริษัทจะไม่นำรถออกสู่ตลาด หากไม่ทำกำไรได้เท่ากับรถยนต์ที่ใช้เครื่องยนต์สันดาป
การผลิตไฟฟ้าของ Rolls-Royce ไม่ได้เกิดขึ้นเพียงจากกฎหมายเพื่อห้ามจำหน่ายรถยนต์แบบสันดาปในปี 2030 ที่กำหนดโดยรัฐบาลสหราชอาณาจักรเท่านั้น แต่ยังเป็นเพราะกลุ่มลูกค้าวัยรุ่นของแบรนด์ Rolls-Royce ที่ร้องขออยากได้รถยนต์ไฟฟ้ามากขึ้น
ในขณะที่เครื่องยนต์ Rolls-Royce V12 อันเป็นเอกลักษณ์ของแบรนด์ จะเลิกใช้ในปี 2030 และจะเข้ามาแทนที่ด้วยขุมพลังไฟฟ้าที่ให้แรงบิดมหาศาลและการขับขี่ที่เงียบ เหมือนกับนั่งอยู่บนพรมวิเศษ รวมถึงการผลิตคุณภาพคับแก้ว
รายละเอียดทางเทคนิคตอนนี้หายากมาก แต่ได้รับการยืนยันแล้วว่า Rolls-Royce EV จะใช้โครงสร้างสเปซเฟรมอลูมิเนียมที่เรียกว่า “Architecture of Luxury” ที่ใช้อยู่ในรุ่น Phantom, Cullinan และ Ghost ซึ่งเป็นแพลตฟอร์มที่ได้รับการออกแบบให้รองรับขุมพลังไฟฟ้าตั้งแต่แรกอีกด้วย
Comments are closed, but trackbacks and pingbacks are open.