Range Rover ฉลองครบรอบ 50 ปี ด้วยการเปิดตัว Range Rover Fifty ใหม่

เพื่อเป็นการเฉลิมฉลองครบรอบ 50 ปี ของเรนจ์โรเวอร์ บริษัท อินช์เคป (ประเทศไทย) จำกัด ผู้นำเข้าและตัวแทนจำหน่ายรถยนต์จากัวร์และแลนด์โรเวอร์อย่างเป็นทางการแต่เพียงผู้เดียวในประเทศไทย ได้เปิดตัว เรนจ์โรเวอร์ ฟิฟตี้ ด้วยราคาจำหน่าย 10,399,000 บาท ในรูปแบบ ลิมิเต็ด อิดิชั่น จำกัดจำนวนอยู่ที่เพียง 1,970 คันทั่วโลก ให้รำลึกถึงปีที่เรนจ์โรเวอร์รุ่นดั้งเดิมเปิดตัว เรนจ์โรเวอร์ฟิฟตี้ถูกสร้างต่อยอดจากออโต้ไบโอกราฟีที่ได้รับการตกแต่งมาอย่างหรูหรา นำเสนอรูปลักษณ์ภายนอกที่เป็นเอกลักษณ์ เรียบง่ายและเป็นที่จดจำ และ Prof Gerry McGovern OBE ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายสร้างสรรค์ของแลนด์โรเวอร์เป็นผู้สลักตราอักษร “Fifty” ขึ้นด้วยตัวเอง ซึ่งจะปรากฏอยู่บนภายนอกของรถยนต์และทั่วทั้งภายใน บนพนักพิงศีรษะ แผงหน้าปัด แผ่นกันลื่นส่องสว่าง และแผ่นป้ายครบรอบบนคอนโซลกลางกับคำว่า “1 of 1970” เป็นเครื่องหมายแสดงการมีจำนวนจำกัดของโมเดลนี้

ด้านหน้าของรถยนต์ได้รับการปรับปรุงมากยิ่งกว่าเดิมด้วยการตกแต่งผิวแบบ Satin Auric Atlas ที่พิเศษเฉพาะบนตัวอักษรคำว่า Range Rover รวมถึงกระจังหน้าและบริเวณกันชนหน้า พร้อมล้อก้านคู่ขนาด 21 นิ้ว เครื่องยนต์ระบบไฟฟ้าปลั๊กอิน-ไฮบริด P400e ผสานเครื่องยนต์เบนซิน Ingenium 4 สูบ กำลังสูงสุด 300 แรงม้า ส่งกำลังร่วมกับมอเตอร์ไฟฟ้า กำลังสูงสุด 116 แรงม้า แบทเตอรี ลิเธียม ไอออนขนาด 13.1 กิโลวัตต์ชั่วโมง รวมกำลังสูงสุดทั้งระบบที่ 404 แรงม้า พร้อมระบบขับเคลื่อนแบบสี่ล้อ และเพิ่มความหรูหราด้วยออฟชั่นพิเศษ ประกอบด้วย ระบบเสียง Meridian(TM) Signature Sound System สัมผัสดนตรีในมิติใหม่กับระบบเสียงรอบทิศทางที่มีลำโพง 29 ตัว 1,700 วัตต์ พร้อมกับเทคโนโลยี Trifield 3D ระบบเสียงสามมิติถ่ายทอดประสบการณ์เสียงที่ยอดเยี่ยมสำหรับทุกที่นั่ง, Head-Up Display จอแสดงผลบนกระจกบังลมหน้า เพื่อแสดงการแจ้งเตือนด้านความปลอดภัยและข้อมูลการขับขี่ ช่วยเพิ่มความปลอดภัยโดยป้องกันไม่ให้ผู้ขับขี่ละสายตาจากถนน, Activity Key กุญแจรถยนต์ที่สามารถสวมใส่ได้ในรูปแบบสายรัดข้อมือกันน้ำกันสะเทือน เหมาะสำหรับการทำกิจกรรมที่ไม่ต้องการนำกุญแจหลักของรถติดตัวไป, Front centre console refrigerator compartment ตู้ทำความเย็นด้านหน้าคอนโซลกลาง เสริฟเครื่องดื่มเย็นๆ ตามความต้องการ สามารถบรรจุได้ถึง 4 ขวดและเก็บรักษาไว้ที่อุณหภูมิ 5 องศาเซลเซียส, Deployable Side Steps บันไดสไลด์ข้างไฟฟ้า เพิ่มความสะดวกสบายยิ่งขึ้นในการขึ้นลง จัดเก็บอย่างเรียบร้อยโดยอัตโนมัติเมื่อปิดประตูรถยนต์

เรนจ์โรเวอร์ เปิดตัวครั้งแรกวันที่ 17 มิถุนายน 1970 ตลอดช่วงอายุ 50 ปี เรนจ์โรเวอร์ได้บรรลุผลหลายสิ่งเป็นเจ้าแรกของโลกและประสบความสำเร็จที่น่าประทับใจมากมาย เรนจ์โรเวอร์คือ SUV รุ่นแรกที่นำเสนอระบบขับเคลื่อนสี่ล้อแบบถาวรเมื่อเปิดตัว และในปี 1989 ก็เป็นยานยนต์ 4×4 คันแรกของโลกที่ติดตั้งเบรกป้องกันล้อล็อก ABS ต่อมาในปี 1992 ได้กลายเป็นยานยนต์ 4×4 คันแรกของโลกที่ติดตั้งระบบควบคุมการลื่นไถลแบบอิเล็กทรอนิกส์ (ETC) และระบบช่วงล่างถุงลมแบบอิเล็กทรอนิกส์อัตโนมัติ ไม่มียานยนต์คันใดที่ผสมผสานระดับความหรูหรา ความสะดวกสบาย และความมีรสนิยมเข้ากับความสามารถในการขับขี่ทั้งบนเส้นทางราบเรียบและเส้นทางขรุขระได้เหมือนเรนจ์โรเวอร์

  • ไทม์ไลน์
    1970 เรนจ์โรเวอร์สองประตูวางจำหน่ายในวันที่ 17 มิถุนายน โดยมีคุณสมบัติอะลูมิเนียมน้ำหนักเบา เครื่องยนต์ V8 ระบบขับเคลื่อนสี่ล้อแบบถาวร และดิสก์เบรกแบบออลราวด์
  • 1971 เรนจ์โรเวอร์กลายเป็นรถยนต์คันแรกที่ถูกไปนำแสดงที่พิพิธภัณฑ์ลูฟร์ในปารีส เป็นที่ยกย่องจาก “ผลงานการออกแบบเชิงอุตสาหกรรมที่เป็นแบบอย่าง” โมเดลผลิตจำหน่ายแสดงอยู่ที่ทางเข้า ในขณะที่โมเดลขนาดย่อ ? แสดงอยู่ด้านใน
  • 1972 เรนจ์โรเวอร์คือรถยนต์คันแรกที่ข้ามระยะทางเส้นยาวของอเมริกา ซึ่งรวมถึงช่องโหว่ดาริเอน เป็นการเดินทางชื่อ British Army Trans-America ความยาว 18,000 ไมล์ โดยใช้เวลา 99 วัน ในการผ่านป่ารกทึบ 250 ไมล์
  • 1974 เรนจ์โรเวอร์ทำสำเร็จในการเดินทางข้ามทะเลทรายสะฮาราจากตะวันตกไปตะวันออกรวม 7,500 ไมล์ ใน 100 วัน
  • 1977 เรนจ์โรเวอร์รุ่นปรับแต่งชนะคลาส 4×4 ในมาราธอนลอนดอน-ซิดนีย์ งานแรลลีสำหรับรถยนต์ที่เน้นความเร็ว ยาวไกลเหน็ดเหนื่อยที่สุดเท่าที่เคยจัดมา 30,000 กม. (18,750 ไมล์)
  • 1981 เรนจ์โรเวอร์รุ่น ลิมิเต็ด อิดิชั่น ‘In Vogue’ ถูกผลิตขึ้นในโรงงานคันแรก เป็นการประกาศนำวิวัฒนาการของเรนจ์โรเวอร์เข้าสู่ยานยนต์หรู ต่อมาชื่อดังกล่าวได้ถูกนำไปใช้กับรุ่นย่อยสูงสุด
  • 1984 จากความสำเร็จของรุ่นลิมิเต็ด อิดิชั่น “In Vogue” Range Rover Vogue ได้รับการเปิดตัวเป็นรุ่นที่จะวางจำหน่ายในระดับสูงสุดของโมเดล
  • 1985 เรนจ์โรเวอร์เครื่องยนต์ดีเซล ‘Beaver Bullet’ ทำลายสถิติความเร็ว 27 สถิติ รวมถึงสถิติดีเซลที่ทำความเร็วเฉลี่ยได้สูงกว่า 100 ไมล์ต่อชั่วโมง นาน 24 ชั่วโมง
  • 1986 เปิดตัวเรนจ์โรเวอร์เครื่องยนต์ดีเซลคันแรก มีเครื่องยนต์ VM ให้พลังแรงสูบเทอร์โบ 2.4 ลิตร เพิ่มสปอยเลอร์หน้าเข้าไปในทุกรุ่นย่อย ยกเว้นรุ่นย่อยเทอร์โบดีเซล
  • 1987 เรนจ์โรเวอร์วางจำหน่ายในอเมริกาเหนือ
  • 1988 มีการนำกระปุกเกียร์แบ่งกำลังที่ขับเคลื่อนด้วยโซ่ Borg-Warner พร้อมเฟืองท้ายกลางแบบคู่หนืดไปใช้ในชุดเพลาขับของเรนจ์โรเวอร์ สร้างการปรับปรุงอย่างมากให้แก่ความประณีตของรถยนต์ และเสริมภาพลักษณ์ด้านความหรูหรา
  • 1989 เรนจ์โรเวอร์คือ 4×4 คันแรกของโลกที่ติดตั้งเบรกป้องกันล้อล็อก ABS เป็นคันแรกในโลกที่ได้รับการออกแบบมาเพื่อให้สมรรถนะเหมาะสมที่สุดทั้งบนเส้นทางราบเรียบและเส้นทางขรุขระ
  • 1992 เรนจ์โรเวอร์คลาสสิกคือ 4×4 คันแรกของโลกที่ติดตั้งระบบควบคุมการลื่นไถลแบบอิเล็กทรอนิกส์ (ETC) และระบบช่วงล่างถุงลมแบบอิเล็กทรอนิกส์อัตโนมัติ สองอย่างครั้งแรกของโลก!
  • 1993 มีการประกาศชื่อโมเดลออโต้ไบโอกราฟีที่ลอนดอนมอเตอร์โชว์ (เปิดเผยต่อลูกค้าในปี 1994) จำกัดอยู่ที่ 25 คัน
  • 1994 เรนจ์โรเวอร์รุ่นที่ 2 (P38A) วางจำหน่ายพร้อมแชสซีฐานล้อยาวและตัวถังแบบกึ่งเป็นชิ้นเดียวกันที่ได้รับการวางรูปแบบมาใหม่ เพิ่มด้วยระบบช่วงล่างถุงลมแบบอิเล็กทรอนิกส์ที่อัปเกรดแล้ว
  • 1996 เรนจ์โรเวอร์คลาสสิกสิ้นสุดการผลิตหลังผลิตได้รวม 317,615 คัน (การผลิตสองปีคาบเกี่ยวกับ P38A)
  • 1999 แลนด์โรเวอร์สร้างเรนจ์โรเวอร์ที่หรูหรามากที่สุดด้วย Range Rover Linley รุ่นลิมิเต็ด อิดิชั่น ซึ่งได้รับแรงบันดาลใจมาจากนักออกแบบเฟอร์นิเจอร์ Lord Linley ผลิตเพียง 10 คัน
  • 2001 เรนจ์โรเวอร์รุ่นที่ 3 (L322) วางจำหน่ายพร้อมระบบช่วงล่างถุงลมแบบอิสระออลราวด์ สาธิตด้วยการขับที่ RAF Kinloss, Skibo และ Novar Estate
  • 2005 วางจำหน่ายกลุ่มโมเดลที่สอง เรนจ์โรเวอร์สปอร์ต
  • 2006 นำระบบ Terrain Response(R) และเครื่องยนต์ดีเซล TDV8 มาใช้กับเรนจ์โรเวอร์
  • 2009 เรนจ์โรเวอร์นำเสนอเครื่องยนต์เบนซินซูเปอร์ชาร์จ 5.0 ลิตร และแบบใหม่เอี่ยม LR-V8 5.0 ลิตร และระบบ Adaptive Dynamics ระบบแรกของโลกเพื่อปรับการควบคุมตัวถังและการขับขี่ให้เหมาะสมที่สุดอย่างต่อเนื่อง
  • 2010 วางจำหน่ายกลุ่มโมเดลที่สาม เรนจ์โรเวอร์อีโวค และสร้างส่วนยานยนต์ส่วนใหม่ นั่นคือ คอมแพค SUV หรู
  • 2012 เรนจ์โรเวอร์รุ่นที่ 4 (L405) วางจำหน่ายในวันที่ 6 กันยายน ที่โรงเรียนรอยัลบัลเลต์ในลอนดอน ซึ่งเป็น SUV อะลูมิเนียมทั้งคันคันแรกของโลก
  • 2013 วางจำหน่ายเรนจ์โรเวอร์สปอร์ตรุ่นที่สอง (L494)
  • 2013 คันต้นแบบของเรนจ์โรเวอร์ไฮบริดออกวิ่งท้าทายบนเส้นทางสายไหมไปยังอินเดียที่สุดขั้ว เดินทาง 9,950 ไมล์ จากโซลิฮูลไปถึงมุมไบในฐานะส่วนหนึ่งของการอนุมัติทางวิศวกรรมอย่างสุดท้าย
  • 2014 เรนจ์โรเวอร์และเรนจ์โรเวอร์สปอร์ตแสดงนวัตกรรมเจ้าแรกของโลก นั่นคือ ระบบควบคุมความเร็วตามสภาพพื้นดิน (ATPC) และยังได้ระบบ Head-Up Display มาด้วย
  • 2015 เรนจ์โรเวอร์รุ่นผลิตที่ทรงพลังมากที่สุดเท่าที่เคยมีมาเปิดตัวครั้งแรกที่งานนิวยอร์กออโต้โชว์ เรนจ์โรเวอร์เอสวีออโต้ไบโอกราฟี มาพร้อมสมรรถนะเครื่องยนต์ซูเปอร์ชาร์จ V8 กำลัง 550 แรงม้า และเฉลิมฉลอง 21 ปี ของชื่อออโต้ไบโอกราฟี
  • 2016 เรนจ์โรเวอร์ออโต้ไบโอกราฟีลากจูงยานสเปซชิปทูของ Virgin Galactic ที่พิธีเปิดตัวและตั้งชื่อยาน ณ Mojave Air and Space Port รัฐแคลิฟอร์เนีย
  • 2017 วางจำหน่ายกลุ่มโมเดลที่สี่ เรนจ์โรเวอร์เวลาร์
  • 2017 เปิดตัวเรนจ์โรเวอร์ P400e PHEV ที่พิพิธภัณฑ์การออกแบบแห่งลอนดอน
  • 2018 วางจำหน่ายเรนจ์โรเวอร์อีโวครุ่นที่สอง
  • 2018 เรนจ์โรเวอร์สปอร์ต PHEV กลายเป็นยานยนต์คันแรกที่ได้ไต่ขั้นบันได 999 ขั้น เอียง 45 องศา ที่สูงตระหง่านขึ้นไปยังประตูสวรรค์ในประเทศจีน
  • 2020 มีการผลิตรถยนต์ 1970 คัน เพื่อเฉลิมฉลองวันครบรอบ 50 ปี มีวางจำหน่ายในสีที่ขายดั้งเดิม รวมถึงสี Tuscan Blue

Comments are closed, but trackbacks and pingbacks are open.

เราใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของคุณ คุณสามารถศึกษารายละเอียดได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และสามารถจัดการความเป็นส่วนตัวเองได้ของคุณได้เองโดยคลิกที่ ตั้งค่า

Privacy Preferences

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

Allow All
Manage Consent Preferences
  • คุกกี้ที่จำเป็น
    Always Active

    ประเภทของคุกกี้มีความจำเป็นสำหรับการทำงานของเว็บไซต์ เพื่อให้คุณสามารถใช้ได้อย่างเป็นปกติ และเข้าชมเว็บไซต์ คุณไม่สามารถปิดการทำงานของคุกกี้นี้ในระบบเว็บไซต์ของเราได้

  • คุกกี้เพื่อการวิเคราะห์

    คุกกี้ประเภทนี้จะทำการเก็บข้อมูลการใช้งานเว็บไซต์ของคุณ เพื่อเป็นประโยชน์ในการวัดผล ปรับปรุง และพัฒนาประสบการณ์ที่ดีในการใช้งานเว็บไซต์ ถ้าหากท่านไม่ยินยอมให้เราใช้คุกกี้นี้ เราจะไม่สามารถวัดผล ปรับปรุงและพัฒนาเว็บไซต์ได้
    Cookies Details

Save