Porsche Cayenne Electric มีให้เลือกสองรุ่นสองระดับความแรง

Cayenne รถเอสยูวีรุ่นแรกของ Porsche ที่เจเนเรชันแรกถูกเปิดตัวออกมาครั้งแรกเมื่อปี 2002 เข้าสู่ยุคใช้เฉพาะไฟฟ้าในการขับเคลื่อนด้วยCayenne Electric โดยมีให้เลือกสองรุ่นสองระดับความแรงระหว่างรุ่นพื้นฐานและ Turbo

Porsche Cayenne Electric ทั้งหมดขับเคลื่อนทุกล้อพร้อมด้วยการทำงาน electronic Porsche Traction Management หรือ ePTM โดยรุ่นพื้นฐานมากับมอเตอร์ไฟฟ้าที่สร้างกำลังออกมา 300 kW หรือ 408 แรงม้า แต่จะเพิ่มเป็น 325 kW หรือ 442 แรงม้า ให้แรงบิด 885 นิวตันเมตรด้วย Launch Control ทำให้ใช้เวลา 4.8 วินาทีเพื่อทำความเร็วจาก 0-100 กม./ชม. และทำความเร็วได้สูงสุด 230 กม./ชม.

ส่วนCayenne Turbo Electric ถูกระบุว่ามีกำลังขับเคลื่อน 630 หรือ 857 แรงม้าในการขับปกติ แต่จะมีกำลังเพิ่มขึ้น 130 kW หรือ 176 แรงม้าได้นานถึง 10 วินาทีด้วยการทำงาน Push-to-Pass นอกจากนี้ยังมีกำลังเพิ่มได้ถึง 850 kW หรือ 1,156 แรงม้า และให้แรงบิด 1,500 นิวตันเมตรด้วย Launch Control ทำให้ใช้เวลา 2.5 วินาทีเพื่อทำความเร็วจาก 0-100 กม./ชม. และทำความเร็วได้สูงสุด 260 กม./ชม.

ด้านแบตเตอรีที่ให้พลังงานในการเดินทางมีความจุ 113 kWh ทำให้รุ่นพื้นฐานเดินทางได้ถึง 642 กิโลเมตร ขณะที่รุ่น Turbo เดินทางได้ถึง 623 กิโลเมตรตามมาตรฐาน WLTP นอกจากนี้รถยังมากับเทคโนโลยี 800-Volt ทำให้ชาร์จไฟแบบเร็วด้วยไฟฟ้ากระแสตรง DC ได้ถึง 390 kW ใช้เวลา 16 นาทีเพื่อชาร์จไฟจาก 10 ถึง 80 เปอร์เซ็นต์ และด้วยการชาร์จไฟ 10 นาทีทำให้เดินทางได้เพิ่ม 325 กิโลเมตรในรุ่นพื้นฐาน ส่วนรุ่น Turbo เดินทางได้เพิ่ม 315 กิโลเมตร ในขณะที่การชาร์จไฟด้วยไฟฟ้ากระแสสลับ AC ทำได้ถึง 11 kW  

รถเอสยูวีไฟฟ้ายังถูกระบุว่ามากับระบบเก็บพลังงานจากการเบรกในระดับรถแข่งฟอร์มูลาอีที่ทำได้ถึง 600 kW รวมไปถึงใช้ระบบช่วงล่าง Adaptive Air Suspension พร้อมระบบ Suspension Management เป็นอุปกรณ์มาตรฐานเช่นเดียวกับระบบควบคุมการเลี้ยวที่ล้อหลังซึ่งสามารถปรับได้สูงสุด 5 องศา โดยที่รุ่น Turbo ยังมากับ Limited Slip Differential หลัง

รถเอสยูวีไฟฟ้ายังได้รับการออกแบบภายนอกใหม่โดยมีจุดเด่นด้วยฝากระโปรงหน้าที่ต่ำและไฟหน้าขนาดเล็กลงที่ด้านหน้า ส่วนด้านข้างมีสเกิร์ตข้างที่ถูกออกแบบให้มีลักษณะ 3 มิติสีเทา Volcanic Grey Metallic หรือสีดำเงา ส่วนด้านหลังมีแถบไฟท้ายพร้อมกราฟฟิกที่มีลักษณะ 3 มิติ โดยรุ่น Turbo ยังมีการแต่งด้วยสี Turbonite ทั้งที่โลโก้ ล้อ และที่กระจกข้าง

ด้านขนาดของรถมีความยาว 4,985 มม. กว้าง 1,980 มม. สูง 1,674 มม. และมีระยะฐานล้อยาว 3,023 มม. ซึ่งยาวกว่ารุ่นใช้เครื่องยนต์เกือบ 13 ซม. โดยรถเอสยูวีไฟฟ้ารุ่นใหม่ยังถูกระบุว่ามีค่าสัมประสิทธิ์แรงเสียดทานอากาศอยู่ที่ 0.25 Cd ซึ่งเป็นหนึ่งในรถเอสยูวีที่มีแอโรไดนามิกดีที่สุดในคลาสเดียวกัน และหากต้องการเพิ่มความมั่นใจในการไปบนเส้นทางทุรกันดารมากขึ้นก็มีออปชันแพกเก็จ Off-Road ให้เลือกติดเพิ่ม

ห้องโดยสารของรถมีจอแสดงข้อมูลการขับขนาด 14.25 นิ้ว พร้อมมีจอขนาด 14.9 นิ้วให้เลือกติดเพื่อความบันเทิงสำหรับผู้โดยสารที่เบาะหน้าเช่นเดียวกับการแสดงข้อมูล Head-up Display พร้อมเทคโนโลยี AR ขนาด 87 นิ้วที่กระจกหน้า นอกจากนี้ยังมีการออกแบบให้การทำงานที่ปรับตั้งบ่อยอย่างระบบปรับอากาศและระบบเสียงเป็นการควบคุมแบบอนาล็อก

รถเอสยูวีไฟฟ้ายังให้ความสบายด้วยเบาะหลังปรับไฟฟ้าเป็นอุปกรณ์มาตรฐาน พร้อมมี Mood Modes ที่ให้ประสบการณ์ในห้องโดยสารโดยปรับตามอารมณ์และสถานการณ์ เช่นตำแหน่งเบาะ แสงไฟ ระบบปรับอากาศ ลักษณะเสียง และการแสดงผลบนหน้าจอ รวมทั้งมีหลังคา Panoramic Roof แบบเลื่อนพร้อม Variable Light Control

ทางผู้ผลิตรถสมรรถนะสูงจากเยอรมนีเริ่มรับจองรถเอสยูวีไฟฟ้ารุ่นใหม่แล้ว โดยมี 13 สีมาตรฐานให้เลือกสำหรับภายนอกและ 12 สีสำหรับห้องโดยสาร

 

 

 

เรื่อง : กองบรรณาธิการ

เรียบเรียงข้อมูลโดย Off Road Magazine

ติดตามข่าวสาร ยานยนต์ รถใหม่ ได้ที่ Off Road Magazine

Comments are closed, but trackbacks and pingbacks are open.