แบ่งปันน้ำใจสู่เพื่อน พี่และน้อง กับทริปผจญภัยสุดสายน้ำที่ปอสามต้น กาญจนบุรี
แบ่งปันน้ำใจสู่เพื่อน พี่และน้อง กับทริปผจญภัยสุดสายน้ำที่ปอสามต้น กาญจนบุรี
บ้านใหม่ไร่ป้า หรือ อดีตก็คือ บ้านปอสามต้น ซึ่งมีอยู่ทั้งหมดแค่ 20 หลัง แต่ปัจจุบันในหมู่บ้านนี้มีมากถึง 200 หลังคาเรือน และมีชาวบ้านอาศัยอยู่มากกว่า 600 คน ผสมผสานระหว่าง ชนชาวกระเหรี่ยง พม่า มอญ และคนไทย นับถือทั้งศาสนาพุทธและศาสนาคริสต์ และมีอาชีพทำพีชไร่ หาของป่า และทำประมงในเขื่อนเขาแหลม การคมนาคมหรือติดต่อกับหมู่บ้านนี้ ทำได้เพียงอย่างเดียวคือ ทางน้ำ เนื่องจากไม่มีทางรถยนต์ตัดเข้าไปถึง
บ้านปอสามต้น เป็นหมู่บ้านที่มีระยะทางไกลที่สุด จากบ้านแรกจนถึงบ้านสุดท้าย ระยะทางมากกว่า 15 กิโลเมตร เป็นหมู่บ้านสุดท้ายของ ต.ปิล็อก อ.ทองผาภูมิ จ.กาญจนบุรี ตั้งอยู่กลางเขื่อนเขาแหลมหรือวชิราลงการณ์ มีโรงเรียนเพียงหลวง 3 (บ้านเหมืองแร่อีต่อง) เป็นศูนย์กลางในการเรียนรู้ และอยู่ในความดูแลของทูลกระหม่อมหญิงอุบลรัตนราชกัญญา สิริวัฒนาพรรณวดี แบ่งออกเป็น 2 ส่วน ส่วนแรกเป็นศูนย์พัฒนาเด็กเล็ก มีเด็กอยู่ทั้งหมด 46 คน และส่วนที่สองเป็นโรงเรียนประถม 1-6 ที่ขึ้นอยู่กับบ้านเหมืองแร่อีต่อง ต.ปิล็อก โดยมีนักเรียนทั้งหมด 74 คน
ด้วยความยากสำบากในการเดินทาง ติอต่อกับโลกภายนอกดังกล่าว ประกอบกับมีชาวบ้านอาศัยอยู่เป็นจำนวนมาก ทำให้ทางชมรมนเรศวร 2002 จึงได้รวมตัวกันอีกครั้ง นำทีมโดย ชาตรี เนียมหอม อดีตนายกเทศมนตรีเทศบาลคำยลดอนเจดีย์ อ.พนมทวน นำสมาชิกมากกว่า 100 คน จัดทริปผจญภัยยิ่งใหญ่ประจำปี โดยร่วมกับชมรมท้ายขบวน ยูนิคอร์น และพันธมิตร จากห้างร้านและบริษัทต่างๆ มากมาย เดินทางไปร่วมกันมอบของและจัดกิจกรรมต่างๆ ให้กับชาวบ้านและเด็กๆ ที่โรงเรียนเพียงหลวง 3 โดยกิจกรรมครั้งนี้ทางนเรศวร 2002 กำหนดเอาไว้ในช่วงปลายเดือนมกราคม 2561
ด้วยความที่ว่า การเดินทางเข้าสู่บ้านใหม่ไร่ป้าหรือปอสามต้นนั้น สามารถเดินทางได้เพียงแค่ทางน้ำเพียงอย่างเดียว ดังนั้นด้วยสิ่งของที่จะนำไปมอบให้ชาวบ้านที่ค่อนข้างมาก รวมทั้งสมาชิกที่เดินทางไปร่วมทริปแห่งปีครั้งนี้ก็ค่อนข้างมาก ทำให้ทางทีมงานของนเรศวรจึงต้องมีการวางแผนอย่างดี นั่นก็คือ แบ่งการเดินทางสู่เป้าหมายครั้งนี้เป็น 2 กลุ่ม
สมาชิกกลุ่มแรก เป็นสมาชิกส่วนใหญ่พร้อมสัมภาระต่างๆ เดินทางด้วยแพลากหรือแพนอน ลากฝ่าสายน้ำอันนิ่งสงบของอ่างเก็บน้ำเขื่อนเขาแหลม ใช้เวลาเดินทางจากหน้าเขื่อนวชิราลงกรณ์หรือเขื่อนเขาแหลมประมาณ 4 ชั่วโมง (ปกติเดินทางโดยเรือหางยาวจากหน้าเขื่อนถึงบ้านใหม่ไร่ป้าประมาณ 1 ชั่วโมงเศษๆ ) ออกเดินทางกันตั้งแต่ช่วงเช้าจากรีสอร์ทบ้านสีฟ้าริมอ่างเก็บน้ำเขื่อนเขาแหลม
ส่วนชุดออฟโรด ซึ่งมีอยู่ประมาณ 10 กว่าคัน ที่บรรทุกของกันแน่นเอี๊ยด ประกอบไปด้วย ชมรมท้ายขบวน ยูนิคอร์น ไฮ-วินช์ และ MT เจริญยนต์ รวมทั้งเลขาธิการสมาพันธ์ออฟโรดฯอย่าง อุไรวรรณ นิลพลา หรือ ป้าแจม รวมทั้ง ยุทธ กล้าหาญ และโรงสีการพานิช นำรถที่บรรทุกสิ่งของอีกจำนวนหนึ่ง ต้องเดินทางจากหน้าเขื่อนเขาแหลม นำรถไปลงเท้งที่บ้านไร่ซึ่งตั้งอยู่ห่างจาก อ.ทองผาภูมิ ประมาณ 45 กิโลเมตร โดยจุดที่นำรถลงเท้งนั้น อยู่ไม่ห่างจากบ้านปิล็อกคี่มากนัก ซึ่งเท้งลำหนึ่งรับน้ำหนักรถได้ 6 คัน และลากได้ครั้งละ 2 เท้ง หรือเท่ากับ 12 คัน
ครั้นทุกอย่างพร้อม ขบวนรถทั้งหมดก็เปลี่ยนสถานะจากการวิ่งบนถนน ไปลอยสง่างามอยู่เหนืออ่างเก็บน้ำเขื่อนเขาแหลม เสียงเครื่องยนต์เรือหางยาวแผดสะท้านลั่นคุ้งน้ำ ยามที่ต้องเร่งเครื่องฉุดเท้งทั้งสองลำที่มีน้ำหนักมากกว่า 40 ตัน เลาะเลาะไปตามลำห้วยใหญ่ ก่อนทะยานออกสู่คุ้งน้ำอันกว้างไพศาล ที่รอบด้านซอนแซมด้วยทิวเขาน้อยใหญ่ตั้งเป็นปราการธรรมชาติราวกับจิตรกรฝีมือเอก บรรจงตวัดปลายภู่กันแต่งแต้มให้กลายเป็นภาพวาดอันสวยงามเอกอุ
ใช้เวลาล่องลอยอยู่ในสายน้ำราวชั่วโมงเศษๆ ก็เดินทางมาถึงบ้านปอสามต้น โดยจุดที่นำรถลงจากเท้งนั้น อยู่ห่างจากโรงเรียนไปประมาณ 2 กิโลเมตร เป็นทางออฟโรดเบาๆ (ในช่วงนี้) ไต่ไปตามความสูงของเขา ลัดเลาะไปตามหมู่บ้านและชั่วไม่นานก็ถึงโรงเรียนเพียงหลวง 3 เป็นเวลาเดียวกับที่เหล่าสมาชิกของนเรศวรกำลังเลี้ยงอาหารกลางวันเด็กพอดี
สำหรับกิจกรรมครั้งนี้ ต้องบอกว่าทางนเรศวร 2002 ซึ่งครั้งนี้เดินทางกันมาค่อนข้างเยอะและอบอุ่น ถอมจัดเต็ม จัดหนัก นอกจากจะมีการมอบของให้กับโรงเรียน เลี้ยงอาหารเด็กและชาวบ้านแล้ว ในช่วงบ่ายก็มีการเล่นเกมส์แจกของรางวัลและกิจกรรมสันทนาการให้กับเด็กและชาวบ้านอีกด้วย ส่วนในช่วงค่ำนอกจากจะมีการเลี้ยงอาหารและแจกของว่างให้กับชาวบ้านและเด็กๆ แล้ว ก็มีการฉายหนังกลางแปลงจากท้ายขบวน ยูนิคอร์น และวงดนตรีย้อนจากนเรศวร 2002 ปิดท้ายด้วยการให้ชาวบ้านและเด็กๆ ตักไข่พาโชค โดยมีของรางวัลมากมาย และรางวัลใหญ่สุดก็เป็นรถจักรยานยนต์
ทริปนี้ต้องบอกว่า ทุกคนต่างได้รับความสนุกสนาน อบอุ่นด้วยรอยยิ้มแห่งมิตรภาพ และอิ่มบุญอิ่มใจไปตามๆ กันแล้ว และที่สำคัญภาพของรถที่ลอยอยู่บนเท้งกลางท้องน้ำอันกว้างใหญ่ไพศาลของเขื่อนเขาแหลม เป็นภาพที่น่าตื่นตาตื่นใจเป็นอย่างยิ่ง ทำให้หลายๆ คนต่างย้อนไปนึกถึงภาพเมื่อครั้งเปิดตัวนิตยสารออฟโรดเมื่อ 20 กว่าปีก่อนหรือปี 1995 รวมทั้งตามรอยรถไฟสายมรณะในปี 2001 ที่กลายเป็นภาพประวัติศาสตร์ไปแล้ว
เรื่อง/ภาพ : จิตรกร ถาวร
เรียบเรียงข้อมูลโดย Off Road Magazine
ติดตามข่าวสาร ยานยนต์ รถจักรยานยนต์ รถใหม่ ได้ที่ Off Road Magazine
Comments are closed, but trackbacks and pingbacks are open.