Peugeot E-Rifter ถูกปรับโฉมให้มีความทันสมัยมากขึ้น
Peugeot ทำการปรับโฉมให้รถมินิแวนไฟฟ้าสำหรับการเดินทางของผู้ชื่นชอบการทำกิจกรรมและการผจญภัยรุ่น E-Rifter โดยเพิ่มทั้งความทันสมัยพร้อมกับรักษาสไตล์ของรถครอสโอเวอร์จากรุ่นก่อนหน้าเอาไว้
Peugeot E-Rifter รุ่นใหม่มาพร้อมกับการปรับสไตล์ภายนอกให้มีความทันสมัยขึ้นด้วยไฟหน้าใหม่มี 3 ไฟ LED ในลักษณะกรงเล็บซึ่งเป็นเอกลักษณ์ของแบรนด์ที่โดดเด่นจากด้านหลังซึ่งเป็นสีดำ รวมไปถึงมีการปรับลายบนกระจังหน้าแบบปิดใหม่ พร้อมมีกันชนหน้าและช่องดักอากาศใหม่
รถมินิแวนไฟฟ้ายังคงสไตล์ในลักษณะรถครอสโอเวอร์จากรุ่นก่อนหน้าเอาไว้ ทำให้มาพร้อมกับการแต่งด้วยคิ้วซุ้มล้อสีดำ มีขอบล่างของกนชนหน้าในสไตล์แผงกันกระแทกอลูมิเนียม มีรูฟเรียลที่หลังคารถ รวมทั้งมีความสูงของใต้ท้องรถจากพื้นที่มาก เพื่อให้เป็นรถที่เหมาะสำหรับการทำกิจกรรมและการผจญภัย พร้อมมี 2 สีใหม่คือสีเขียว Sirkka Green และสีฟ้า Kiama Blue ให้เลือกเพิ่ม
รถมินิแวนไฟฟ้าสำหรับคนชอบทำกิจกรรมมี 2 ความยาวของตัวรถให้เลือกระหว่างรุ่น Standard ยาว 4.4 เมตร และรุ่น Long ที่ยืดความยาวของรถขึ้นเป็น 4.7 เมตร ซึ่งทั้ง 2 รุ่นความยาวมีรูปแบบเบาะทั้ง 5 และ 7 ที่นั่งให้เลือกเหมือนกัน รวมไปถึงมีประตูหลังเปิดแบบเลื่อนทั้ง 2 ฝั่งของรถ และฝาท้ายขนาดใหญ่ที่สามารถเปิดกระจกได้เพื่อความสะดวกในการเก็บหรือนำสัมภาระออกจากรถ
รถมินิแวนไฟฟ้ามีพื้นที่เก็บของด้านหลังความจุ 775 ลิตรในรุ่นความยาวปกติกับรูปแบบเบาะ 5 ที่นั่ง และจะมีพื้นที่เก็บสัมภาระมากถึง 4,000 ลิตรในรุ่นตัวรถยาวที่พับเบาะลงทั้งหมด รวมไปถึงมีพื้นที่เก็บของตามที่ต่างๆ ในห้องโดยสารที่มีความจุรวมถึง 186 ลิตรในบางรุ่น
แม้ทางผู้ผลิตรถยนต์จากแดนน้ำหอมจะไม่ได้เผยแพร่ภาพห้องโดยสารของรถรุ่นใหม่ออกมาให้ดู แต่ก็ระบุว่ามาพร้อมกับ i-Cockpit ใหม่ มีจอ Infotainment ขนาด 10 นิ้วเป็นอุปกรณ์มาตรฐาน ส่วนจอแสดงข้อมูลผู้ขับมีขนาดใหญ่สุดถึง 10 นิ้ว รวมทั้งมีการออกแบบพวงมาลัยหุ้มหนังปรับความอุ่นได้ใหม่ในขนาดที่กะทัดรัดเหมือนเดิม โดยรถยังมีที่ชาร์จอุปกรณ์ไร้สาย 3 ช่องต่อยูเอสบี และผ้าสีเทาอ่อนใหม่สำหรับหุ้มเบาะ พร้อมมีถึง 18 การทำงานช่วยขับซึ่งใช้ 12 เซ็นเซอร์และกล้องมองหลังความละเอียดสูง
ระบบขับเคลื่อนของรถยังคงเป็นมอเตอร์ไฟฟ้ากำลัง 136 แรงม้าเพื่อขับเคลื่อนล้อหน้าของรถ และใช้พลังงานจากแบตเตอรี 50 kWh เหมือนเดิม แต่ทางผู้ผลิตระบุว่าระบบขับเคลื่อนของรถประหยัดพลังงานมากขึ้นพร้อมกับใช้ระบบเก็บพลังงานจากการเบรกใหม่ รวมไปถึงมีฮีตปั๊มป์ ทำให้มีระยะการเดินทาง 320 กิโลเใตรต่อการชาร์จจากที่รุ่นเดิมเดินทางได้ 280 กิโลเมตร ส่วนการชาร์จไฟใช้เวลา 5 ชั่วโมงกับ Wallbox 11 kW นอกจากนี้ยังรองรับการชาร์จเร็วด้วยไฟ DC 100 kW
เรื่อง : กองบรรณาธิการ
เรียบเรียงข้อมูลโดย Off Road Magazine
ติดตามข่าวสาร ยานยนต์ รถจักรยานยนต์ รถใหม่ ได้ที่ Off Road Magazine
Comments are closed, but trackbacks and pingbacks are open.