เผลอเพียงแป๊บเดียว ขยับเข้าใกล้โค้งเข้าไปทุกขณะ กับการแข่งรายการชิงแชมป์ประเทศไทย OFF ROAD TROPHY สนามที่ 4 ที่แข่งขันผ่านพ้นไปแล้วเมื่อวันที่ 22-23 ตุลาคม 2557 ที่ผ่านมา โดยโยกย้ายกลับไปแข่งขันกันที่ภาคตะวันออก ที่เมืองแกลง จ.ระยอง อีกหนึ่งในตำนานสนามแข่งขันรถยนต์ออฟโรดของเมืองไทย
แน่นอนว่ายิ่งใกล้เส้นชัยมากเท่าไร ความเข้มข้นของเกมการแข่งขันก็เพิ่มขึ้นเป็นทวีคูณ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในรุ่นคานแข็ง รุ่นโอเพ่น B และรุ่นโอเพ่น A นั้น ต้องไปชิงดำกันในสนามสุดท้าย ในขณะที่รุ่นปีกนก หากไม่เกิดฟ้าผ่ากลางสนามเมืองขุนแผน จ.สุพรรณบุรี เจ้าเฮ้าส์ หรือ อัฎฐ์ทยุต มัจฉาปรีดาภัทร์/นฤนาท แสงอินทร์ น่าจะลอยลำเข้าป้ายคว้าแชมป์ประเทศไทยได้สำเร็จ ส่วนที่เหลือต้องวัดกันถึงฏีกาแน่นอน
สำหรับการแข่งขันในสนามที่ 3 นี้ ทาง บริษัท ทาร์เก็ตมีเดียแอนด์เทเลวิชั่น จำกัด ซึ่งร่วมกับ บริษัท กรังด์ปรีซ์ อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด ได้พันธมิตรอย่าง เทศบาลตำบลเนินฆ้อ รับหน้าเสื่อเป็นเจ้าบ้าน โดยการประสานงานของ เปี๊ยก ระยอง หรือ สุริยงค์ วงศ์ชมพู รวมทั้ง อนุรักษ์ ดีนาน อดีตนักแข่งจอมเก๋าและอดีตแชมป์ประเทศไทย ในรายการ ESSO OFF ROAD MAN เป็นหัวเรี่ยวหัวแรงใหญ่ ในการเดินหน้าเตรียมการให้การแข่งขันสนามที่ 4 ลุล่วงไปด้วยดี โดยเฉพาะในช่วงของการถ่ายทอดสดทางสถานีโทรทัศน์โมเดิร์นไนท์ทีวี ในวันที่ 23 ตุลาคม 2557
วันแรกเป็นการเปิดรับสมัครรถแข่ง จากนั้นในช่วงบ่ายเป็นการแข่งขันรอบคัดเลือก แข่งขันทั้งหมด 3 SS เอาเวลามาแปลงเป็นคะแนน คัดรถเข้ารอบต่อไป บรรดาตัวเต็งของแต่ละรุ่นผ่านเข้ารอบไปตามโผ ความเข้มข้น เร้าใจ ของรายการนี้ จะไปอยู่ในวันที่สองซึ่งตรงกับวันที่ 23 ตุลาคม 2557 หรือวันปิยะมหาราช
เริ่มจากไฮไลท์ในรุ่นปีกนก ต้องบอกว่ามีการพลิกล็อกตลอดเวลา โดยเฉพาะแชมป์เก่าอย่าง รถหมายเลข 99 มงคล จุลทัศน์/ทรงวุฒิ สายศร สนามนี้ผิดฟอร์มตั้งแต่รอบแรก ผ่านเข้ารอบ 8 คันสุดท้ายมาอย่างเฉียดฉิว แต่ก็ต้องมาพลาดท่าให้กับรถหมายเลข 11 สิทธิศักดิ์ ธรรมสุนทร/พรชัย ยืนยง ทำให้หนทางป้องกันแชมป์หริบหรี่ลงทุกขณะ ทำให้คู่ปรับสำคัญอย่าง อัฎฐ์ทยุต มัจฉาปรีดาภัทร์/นฤนาท แสงอินทร์ หายใจโล่งอก แม้ว่าในสนามนี้พลาดท่าตกไปชิงอันอันดับ 3 แต่คะแนนรวมของเขาก็ทะยานนำหน้าคู่แข่งไปมากโข สนามสุดท้ายแค่เข้ารอบ 8 คันสุดท้าย โอกาสคว้าแชมป์ประจำปีน่าจะสดใส ส่วนคู่ชิงกลายเป็นการล้างตาของคู่ชิงสนามที่ 3 ระหว่าง ธงชัย กลิ่นเกตุ/ชาญเดช โรจนพาณิชย์วงศ์ กับรถหมายเลข 32 อดิเรก มุลิ/อาภากร กลิ่นเกตุ ผลปรากฏว่าสนามนี้ ธงชัย กลิ่นเกตุ สามารถล้างตาได้สำเร็จ คว้าแชมป์ไปครอง พร้อมกับทำคะแนนรวมประจำปี ขึ้นไปยืนอันดับ 2
รุ่นคานแข็งก็เช่นกัน 2-3 สนามแรก ดูเหมือน พิเชษฐ์ แสงพิชัย/เบนท์ แซบแมน แชมป์เก่าจะทำคะแนนรวมแบบนอนมา เบียดมากับ รถหมายเลข 97 วิโรจน์ พานทอง/ก่วย บุตรดีวงศ์ แต่สนามนี้สถานการณ์พลิก เมื่อ พิเชษฐ์ แสงพิชัย ไปพลาดท่าให้กับนักแข่งน้องใหม่เมืองหมูย่างรถหมายเลข 37 นราวุฒิ เพชรแก้ว/พงศ์พัฒน์ ขวัญนิมิต จากตรัง ส่วนวิโรจน์ พานทอง พ่ายให้กับ ปณชัย อยู่หมื่นไวย ทั้งคู่ล่วงไปอยู่อันดับ 4 และอันดับ 5 แต่ที่มาแรงจริงๆ ในช่วงนี้ ก็คือ เจ้าหนุ่มน้อยลูกหลานย่าโม ปณชัย อยู่หมื่นไวย/เกรียงศักดิ์ ดีหมื่นไวย ควบรถคันเก่งเบียดเข้าไปชิงกับรถหมายเลข 22 ปริญญา โพธิ์ศรี/ณัฐวุฒิ ภูมิภักดิ์ และสามารถเอาชนะคว้าแชมป์ในสนามนี้ได้สำเร็จ ทำให้ปาดหน้าทำคะแนนรวมขึ้นไปยืนบนจ่าฝูงแทน
สถานการณ์ตอนนี้ของรุ่นคานแข็ง ใครคว้าแชมป์สนามสุดท้าย โอกาสคว้าแชมป์ประจำปีมีสูง
ในรุ่น OPEN B ทั้ง 3 สนามที่ผ่านมาคะแนนเบียดไหล่กันมาตลอด โดยเฉพาะรถหมายเลข 21 สุธารักษ์ พิณเมืองทอง/พรรภสิทธิ์ วงษ์สุข กับรถหมายเลข 33 กิรศักดิ์ แสงอินทร์/ธีระพงษ์ ธีสะนะสาย รวมทั้งรถหมายเลข 50 สิรวิชญ์ มุลิ/ยุทธิศักดิ์ อัครวิบูลย์ แต่เมื่อการแข่งขันจบลง ปรากฏว่า แชมป์ 10 เซียนประจัญบาน 2014 สิรวิชญ์ มุลิ/ยุทธิศักดิ์ อัครวิบูลย์ โชว์ฟอร์มได้อย่างร้อนแรง เฉือนเอาชนะคู่ปรับสำคัญอย่างรถ UTV ของ ภาคภูมิ นิตยผลิต/จตุพล วงษ์น้อย ไปแบบสนุก ทำให้คะแนนรวมของ สิรวิชญ์ มุลิ ก้าวกระโดดขึ้นไปอยู่จ่าฝูงทันที แซงหน้า สุธารักษ์ พิณเมืองทอง 6.5 คะแนน สนามสุดท้ายชี้ชะตาอีกรุ่นหนึ่ง รับรองว่าด่านช้างสนามแตกแน่นอน ส่วนอันดับ 3 ของรุ่นนี้เป็นของรถหมายเลข 10 กิตติ บำรุงพงษ์/พิเชษฐ์ โชคสัมฤทธิผล จาก polaris Thailand ที่เฉือนเอาชนะรถหมายเลข 95 นิรุตติ ลี้ปฐมากุล/สินชัย ไข่ติยากุ
ปิดท้ายเช่นเคยกับความดุเด็ดเผ็ดมันในรุ่นใหญ่สุดของเมืองไทย ที่ไม่ว่าจะคันไหนจับคู่กับใคร รับรองความมันระดับ 5 ดาวบังเกิดขึ้นแน่นอน โดยเฉพาะผู้ที่ฟอร์มร้อนแรงมากที่สุดในตอนนี้ คงหนีไม่พ้น “เจ้าเอ็กซ์” อภิเดช ชูประดิษฐ์/สิทธิพร ชูมณี หนุ่มนักบู๊จากปักษ์ใต้ โชว์ฟอร์มเทพ ปราบคู่แข่งมาอย่างราบคาบ เข้ามาชนกับ ชัยรัช คำพึ่ง ตัวเต็งแชมป์อีกคัน ผลปรากฏว่า อภิเดช ชูประดิษฐ์ สามารถเอาชนะไปได้อย่างสุดมัน อย่างไรก็ตาม แม้ว่า ชัยรัช คำพี่ง จะพลาดท่า แต่คะแนนรวม 4 สนามของเขาก็ทะยานขึ้นมาอยู่อันดับ 2 ตามหลัง รถหมายเลข 63 สัมพันธ์ ชวศิลป/ตระการ ณ หงสาวดี อยู่เพียงแค่ 1 คะแนนเท่านั้น เนื่องจากสนามนี้ สัมพันธ์ ชวศิลป พลาดท่าในรอบ 8 คันสุดท้าย หลังควบรถคันใหม่ยังไม่เข้าที่เข้าทางเท่าไรนัก และมีปัญหาระหว่างเข้าด้ายเข้าเข็มในรอบเจอกับ อภิเดช ชูประดิษฐ์
ส่วนอันดับ 3 ในสนามนี้ ถึงคิวพระเอกชื่อดัง พีท ทองเจือ ได้โชว์ลีลาผ่านหน้าจอทีวีเสียที หลังเฉือนเอาชนะรถหมายเลข 54 ชณัฐ ศิริพงษ์/ทวิช ถานะวร จาก ptt performa team ไปแบบสนุกถูกใจผู้ชมรอบสนาม
ติดตามความสนุกสนานและลุ้นแชมป์ประจำปีในสนามสุดท้ายหรือสนามที่ 5 ของการแข่งขันรายการ OFF ROAD TROPHY 2014 ได้ระหว่างวันที่ 9-10 ธันวาคม 2557 ซึ่งโยกย้ายไปแข่งขันที่ อ.ด่านช้าง จ.สุพรรณบุรี รับรองว่าด่านช้างสนามแตกแน่นอน…
เรียบเรียงข้อมูลโดย นิตยสาร ออฟโรด : www.grandprix.co.th/offroadmagazine
ติดตามข่าวสาร ยานยนต์ รถจักรยานยนต์ รถใหม่ ไดที่ www.grandprix.co.th
Comments are closed, but trackbacks and pingbacks are open.