ผืนป่าเขาใหญ่ในยามค่ำคืนไม่ได้ให้มาแต่ความเย็นยะเยือกเท่านั้น มันยังให้มาซึ่งเรื่องราวการสัมผัสกับยนตกรรมอเนกประสงค์ ซึ่งมีการตอบรับจากผู้ใช้ในตลาดประเทศญี่ปุ่นเป็นอันดับ 1 เป็นระยะเวลา 8 ปีติดต่อกัน ต้นสังกัดบัญญัตินามมันไว้ว่า X-TRAIL แต่อดีตเด็กปั๊มเชลล์อย่างเราขอเล่าถึงมันว่าคือ “ส่วนผสมของเทคโนโลยีเพื่อการขับขี่และใช้งาน”…..
DESIGN…….ลบเหลี่ยม เล่นระดับ
เมื่อสังคมก้าวเข้าสู่ความนิยมของการเสพสารคาเฟอีน ร้านกาแฟทุกระดับผุดขึ้นมากมายในหลายหลายพื้นที่ สองอย่างของความเหมือนที่แตกต่างสำหรับผู้ที่สั่งกาแฟร้อน นั่นก็คือการที่เราจะได้มีโอกาสเลือกเพิ่มเติมรสชาติของความหวานในระดับที่เราต้องการ ซึ่งสิ่งที่เราใช้ในการเพิ่มเติมความหวานนั้นมันก็มีอยู่ด้วยกันหลายแบบ ทั้งน้ำตาลธรรมชาติ หรือสารให้ความหวานที่ใช้ทดแทนกัน ทั้งหมดเป็นสิ่งที่เกิดขึ้นบนความต้องการของคำว่าทางเลือก
ยนตกรรมอเนกประสงค์ซึ่งเป็นสิ่งที่มีความต้องการชัดเจนมากยิ่งขึ้นในห้วงช่วงเวลานี้ ไม่น่าแปลกใจที่จะเห็นสมาชิกที่มีคุณสมบัติสมควรกับการเข้ากลุ่มรถอเนกประสงค์ที่อยู่ในระดับกลางไปจนค่อนข้างบนซึ่งเป็นด้านบนที่เป็นจริง และเมื่อเร็วๆ นี้ค่ายรถยนต์ NISSAN นำเสนอรูปแบบรถยนต์ที่ชัดเจนในกลุ่มนี้ออกมาเป็นตัวเลือกให้กับผู้บริโภค และก็เช่นเดียวกันที่เราจะได้เห็นในบางส่วนกับบางช่วงเวลาที่ได้ทดสอบ ความล้นพ้นของข้อมูลหรือสิ่งที่ต้องการจะบอกจะไม่มีความหมายถ้ามันไม่ใช่ความจริง
การพัฒนาของ X-TRAIL ที่ตั้งอยู่ในคอนเซ็ปต์รถอเนกประสงค์ของทุกคน ทำให้แนวทางในการออกแบบจะต้องออกมาในลักษณะของสิ่งที่ตรงกับความรู้สึกของหลายเพศหลายวัย จากเดิมที่มันจะเดินแนวทางของความเป็น SUV รถยนต์ที่แข็งแกร่งด้วยเหลี่ยมมุมของตัวรถ ทั้งหมดก็ถูกปาดสไลด์ใส่ไว้ด้วยความกลมกลืนเข้ามาแทนที่ เช่นเดียวกับการเพิ่มเติมขึ้นมาของรถยนต์แบบ CROSSOVER และนั่นก็คือสิ่งที่ใช่แต่ไม่ทั้งหมด เพราะตัวของ X-TRAIL ถูกผสานแนวคิดการออกแบบสุดท้ายในลักษณะของส่วนผสมที่ต้องการเฉพาะจาก SUV&CROSSOVER มันคงจะเหมือนกับน้ำแข็งก้อนสุดท้ายที่ใส่ลงในแก้วเครื่องดื่มหลังจากที่เติมน้ำแข็งและน้ำดื่มลงไปแล้ว ตรงนั้นมันก็คือความพอดี
การออกแบบไม่ได้ตั้งอยู่บนการลดเหลี่ยมมุมออกไปเท่านั้น จุดที่เป็นอุปกรณ์ซึ่งรถยนต์ต้องมีแบบภาคบังคับและใส่มาให้แบบภาคสมัครใจหลายสิ่งคือความน่าสนใจของส่วนประกอบหรือเทคโนโลยีทั้งหลายนั้น
ห้องโดยสารในแบบของรถยนต์อเนกประสงค์นั่นคือการที่มันจะต้องมีพื้นที่เพิ่มเติมมาสำหรับการใช้งานที่หลากหลาย สิ่งที่สัมผัสกับตัวผู้ขับขี่ในจุดที่สมควรนุ่มนวลมันก็บุมาด้วยวัสดุที่ให้ความรู้สึกนั้น สีของวัสดุตกแต่งภายในแตกต่างกันอยู่ในสองแบบหลักจะมีแบบเน้นสีดำสปอร์ตกับสีแบบทูโทน และเมื่อเติมด้วยการออกแบบของคอนโซลที่ค่อนข้างลื่นไหลในความคิดการใช้เส้นสายกลมกลืนไปกับการวางตำแหน่งสิ่งที่เป็นอุปกรณ์อำนวยความสะดวกต่างๆ อย่างเหมาะสม และเมื่อดวงตาเป็นหน้าต่างของหัวใจสิ่งที่ X-TRAIL สื่อสารกับผู้ขับขี่ผ่านหน้าจออัจฉริยะในแนวเดียวกับหน้าปัดเรือนไมล์นั้นก็คงเป็นส่วนหนึ่งในการตอบสนองของตัวมันด้วย
การที่จะมีพื้นที่ใช้สอยเพิ่มเติมขึ้นได้จากพื้นที่ภายใน ด้วยแนวคิดการออกแบบเบาะนั่งสามแถวซึ่งเป็นลักษณะของที่นั่งแบบ 5+2 ในเบาะนั่งปรับพับราบหรือแยกสัดส่วนได้ในแถวสองและสาม อีกทั้งการจัดวางระดับที่เหลื่อมล้ำแบบที่นั่งในโรงหนัง (THEATER SEAT) ความต่างระดับตรงนั้นเป็นเพื่อมุมมองให้แต่ละแถวที่นั่งถือเป็นแนวคิดการออกแบบที่น่าสนใจ จะแตกต่างจากความเหลื่อมล้ำทางด้านสังคมซึ่งให้ได้แต่ความแตกต่างที่ผู้ต่ำต้อยไม่พึงปรารถนา
ENGINE&TRANSMISSION………ปั่นอัตราทด เพิ่มลดเฟืองท้าย
ต้นกำลังของ X-TRAIL มีอยู่ในสองรุ่นสองรหัส ทั้งสองเป็นเครื่องยนต์เบนซินแบบ 4 สูบ แถวเรียง รหัส MR-20 DD ความจุ 1,997 ซี.ซี. DOHC 16 วาล์ว Twin C-VTC และรหัส QR-25 DE ความจุ 2,488 ซี.ซี.
บล็อก 1,997 ซี.ซี. ให้กำลังสูงสุด 144 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 200 นิวตัน-เมตรและ 171 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 233 นิวตัน-เมตร ในบล็อก 2,488 ซี.ซี. ทั้งสองรุ่นใช้ชุดเกียร์แบบ XTRONIC CVT พร้อมระบบ MANUAL MODE 7 สปีดเดินหน้า (M-CVT) ซึ่งได้รับการปรับรอบการทำงานของชุดเกียร์ใหม่ให้เข้ากับการขับขี่จากต้นกำลังแต่ละบล็อก รวมไปถึงชุดอัตราทดเฟืองท้ายด้วย ซึ่งจะไม่เท่ากันระหว่างเครื่องยนต์สองความจุ เพื่อเป็นการช่วยในเรื่องของการตอบสนองอีกทางหนึ่งด้วยแรงบิดจากอัตราทดที่ต่างกันไปนั้น
ด้วยรูปลักษณ์ที่เห็นในห้องเครื่องยนต์ กับการออกแบบทางเข้าอากาศที่มีระยะทางยาวจากปากดูดทางเข้าในแนวหน้ารถเพื่อรับแรงส่งจากแรงปะทะของอากาศยามรถวิ่ง ซึ่งเดินแนวอ้อมตัวเครื่องยนต์ไปอีกฝั่ง ลักษณะท่ออากาศยาวๆ ถูกเพิ่มประสิทธิภาพการไหลด้วยพื้นที่บรรจุอากาศที่กระเปาะในชุดท่ออากาศเพื่อรักษาแรงดันอากาศในท่อและลดเสียงในการทำงาน อีกทั้งการกระจายน้ำหนักด้วยการวางตัวเครื่องยนต์ในระดับที่ไม่สูงเพื่อรักษาแรงกดและสมดุล น้ำหนักที่เหมาะสมจากน้ำหนักโดยรวมที่กระทำต่อตัวรถและระบบช่วงล่าง
ความจุเครื่องยนต์ที่แตกต่างยังเป็นแนวของการออกแบบการฉีดน้ำมันที่แตกต่างในรุ่น 2,000 ซี.ซี. ถึงจะมีความจุของเครื่องยนต์ที่น้อยกว่าแต่ใช้การออกแบบการฉีดและอุปกรณ์การ ฉีดแบบ DIRECT INJECTION ส่วนในรุ่น 2,500 ซี.ซี. นั้นจะเป็นการใช้หัวฉีดน้ำมันแบบ MULTIPOINT
ความเดิมตอนที่แล้วอย่างละครหลังข่าวแทบจะไม่มีย้อนกลับมาให้เห็นอีกกับในหลายสิ่งหลายอย่างซึ่งมีมาใน X-TRAIL ระบบขับเคลื่อนซึ่งในรุ่นขับเคลื่อนสี่ล้อมีอยู่เป็นทางเลือกสำหรับผู้ใช้งาน ในการออกแบบระบบขับเคลื่อน โดยสามารถปรับเปลี่ยนหรือเลือกใช้งานได้ด้วยสวิทช์บิดทรงกลมสามตำแหน่งที่บริเวณด้านล่างแนวคันเกียร์ด้านข้างผู้ขับขี่ ซึ่งสามารถเลือกได้ทั้งแบบขับเคลื่อนสองล้อตลอดเวลา 2WD (ขับล้อหน้า) 100 เปอร์เซ็นต์ , โหมดขับขี่แบบ AUTO ซึ่งจะปรับหรือกระจายแรงขับไปยังล้อต่างๆ แบบแปรผันตามสภาพเส้นทาง , โหมด 4WD-LOCK ซึ่งจะเป็นการขับเคลื่อนแบบ 4WD FULLTIME ในเส้นทางที่ต้องการแรงบิดทั้งสี่ล้อ ซึ่งจะตัดเป็นโหมด AUTO เมื่อความเร็วเกิน 40 กม./ชม.
HANDLING&SUSPENSION…..ช่วยควบคุมด้วยเทคโนโลยี
จากความเป็นไปของการออกแบบมุมมองและทัศนวิสัยในการขับขี่ที่มีให้ชัดเจนทั้งยามเคลื่อนที่และยามที่ต้องการจะจอด กับเทคโนโลยีกล้องรอบคันและการแสดงผลที่หน้าจอ AVMตรงกลางคอนโซลรถ ซึ่งนับเป็นสิ่งที่มีประโยชน์อย่างมากในการใช้งานมันทำให้ทุกคนที่ต่างประสบการณ์ขับรถสามารถขับขี่มันได้อย่างเหมาะสม ไม่เพียงแต่รูปโฉมที่มันเป็นเอกลักษณ์อย่างกลมกลืนซึ่งเรียกเสียงลอยตามลมจาก “ผู้ร่วมทริปหน้าหยกฟันหนู” ว่า “งามแงะ” ได้อย่างไม่ยากเย็นเมื่อแรกเห็น แต่กับผู้ร่วมเดินทางอย่างเราๆ มันก็ต้องค้นหาตัวตนกันต่อไป
การทักทายกันระหว่างเรา (อาจจะดูฮาร์ดคอร์) สำหรับผู้ที่เป็นผู้ดีเก่าจากวังค้างคาวเพราะที่ด้านหน้าจอสีสามมิติตรงหน้าปัดจะมีรูป “เท้า” ขึ้นบอกให้เราเหยียบเบรกแล้วกดปุ่มสตาร์ทเครื่องยนต์ จากนั้นความทันสมัยมันจะแสดงตัวออกมาต่อเนื่องข้อมูลอะไรที่เกิดขึ้นกับตัวรถรวมไปถึงการทำงานของระบบต่างๆ ก็สามารถแสดงได้ที่หน้าจอตรงนี้
สัมผัสจากการรองรับของเบาะนั่งซึ่งแถวหน้ามีความเหมาะสมในการรองรับและแถวสองมีพื้นที่ระยะห่างของการวางขาระหว่างเบาะหน้าที่ดูว่าจะเหลือเฟือ ที่พักแขนข้างประตูวัสดุและการติดตั้งอยู่ในระดับที่น่าสนใจ การขับขี่น้ำหนักพวงมาลัยควบคุมง่าย พวงมาลัยตอบสนองรวดเร็วสัมผัสการจับกระชับ รัศมีวงเลี้ยวแคบสุดที่ 5.6 เมตร
กำลังของเครื่องยนต์ที่ถ่ายทอดผ่านตัวชุดเกียร์ CVT ที่ได้มีการออกแบบให้สามารถสร้างอัตราทดได้หลากหลายถึง 7 สปีด ทำให้การขับขี่ในเมืองที่ต้องเพิ่มหรือลดความเร็วเป็นช่วงๆนั้นไหลลื่น ความสะดวกที่มาพร้อมกับการตอบสนองที่ต่อเนื่องการไต่ระดับความเร็วเป็นไปในลักษณะแบบที่เครื่องยนต์รุ่นใหม่ทำได้ รอบจัดจ้านแมนน่วลโหมดถึงจะออกแบบมาตัดเปลี่ยนเกียร์อัตโนมัติแต่รอบก็วนเวียนที่ 5,000-6,000 รอบต่อนาที สำหรับการลากแบบอยากรู้จังหวะ
ที่ความเร็วเดินทางราว 120 กม./ชม. รอบเครื่องยนต์ป้วนเปี้ยนอยู่ในระดับ 2,000 รอบต่อ นาที ซึ่งนั่นคงเป็นข้อได้เปรียบอีกอย่างของระบบเกียร์ CVT ที่มีการปรับอัตราทดมาให้ในชุดนี้ สำหรับย่านความเร็วที่สูงขึ้นมันก็ต้องดูที่ความมั่นใจของช่วงล่างซึ่งระบบช่วงล่างแบบอิสระนั้น จะตอบสนองได้คล่องแคล่วอยู่แล้ว การยึดเกาะถนนนอกจากมันจะแสดงตนตามแบบของช่วงล่างที่เซ็ตมา เทคโนโลยีที่ช่วยให้การขับขี่มีเสถียรภาพมากขึ้นมันก็ถูกบรรจุเอาไว้
เทคโนโลยี Advance Chassis Control คือสิ่งที่เราสื่อสาร นอกจากพื้นฐานกับสิ่งที่ได้ประโยชน์จากระบบขับเคลื่อนสี่ล้อแบบอัตโนมัติที่มีให้ การช่วยควบคุมความเร็วของรถขณะเข้าโค้ง การควบคุมความเร็วของรถในยามที่เจอสภาพทางแบบคลื่นเนินสลับ ลดการโยนตัวด้วยการควบคุมความเร็วลดชั่วขณะ และปรับระยะยุบยืดของระบบรองรับให้เหมาะสม ที่สำคัญกับการควบคุมอาการรถก่อนที่รถจะเสียอาการด้วยการจับตัวของเบรกแบบอัตโนมัติ นั่นเองมันทำให้เมื่อต้องควบคุมและขับขี่มันไป ความมั่นใจมันก็ยังมีให้ในการขับขี่
นอกจากส่วนผสมของเทคโนโลยีและการออกแบบตัวรถที่แตกต่างออกไปด้วย ซันรูฟขนาดใหญ่ซึ่งกินพื้นที่ด้านบนต่อเนื่องถึงตอนกลางตัวรถ ทำให้มันขยับตัวเองขึ้นไปอีกขั้นกับการเป็นรถในกลุ่มนี้ แต่ถึงมันจะขยับปรับตัวเองให้มีความหรูมากสักเพียงไหน สายเลือดกิ้งก่าทะเลทรายอย่าง X-TRAIL ยังมีความพร้อมในการใช้งานอยู่เสมอ…….
NISSAN X-TRAIL รุ่น 2.5V CVT 4WD – ราคา 1,551,000 บาท
NISSAN X-TRAIL รุ่น 2.0V CVT 4WD – ราคา 1,325,000 บาท
ราคาอาจมีการเปลี่ยนแปลง
ข้อมูลเพิ่มเติม
เรียบเรียงข้อมูลโดย นิตยสาร ออฟโรด : www.grandprix.co.th/offroadmagazine
ติดตามข่าวสาร ยานยนต์ รถจักรยานยนต์ รถใหม่ ไดที่ www.grandprix.co.th
Comments are closed, but trackbacks and pingbacks are open.