Nissa ส่ง Terra Sport ลุยทำตลาดประเทศฟิลิปปินส์
Nissan ที่ฟิลิปปินส์เปิดตัว Terra Sport ออกมาเป็นเกรดสูงสุดของรถเอสยูวีรุ่นนี้ โดยใช้พื้นฐานจากเกรด VL ซึ่งเป็นเกรดสูงสุดเดิม แต่เพิ่มความเข้มด้วยการใช้วัสดุสีดำแต่งทั้งภายนอกและภายในห้องโดยาร และมีให้เลือกทั้งแบบขับเคลื่อน 2 หรือ 4 ล้อ
Nissan Terra Sport ที่ฟิลิปปินส์มาพร้อมกับการแต่งภายนอกด้วยสีดำซึ่งจริงๆ แล้วเหมือนกับ Terraพร้อมกับแพกเก็จแต่ง 70th Anniversary ในไทยที่ภายนอกของรถมาพร้อมกับวัสดุสีดำทั้งในส่วนของกระจังหน้า การแต่งที่กันหน้า ขอบไฟตัดหมอก แผงกันกระแทกใต้กันชนหน้า ขณะที่ด้านข้างรถมีทั้งกระจกมองข้าง คิ้วแต่งหลังซุ้มล้อหน้า บันไดข้าง และราวหลังคาสีดำ ส่วนด้านหลังของรถมีเสาอากาศครีบฉลาม สปอยเลอร์ปลายหลังคา คิ้วแต่งฝาท้าย ชุดแต่งกันชนหลัง และแผงกันกระแทกสีดำ
อย่างไรก็ตามรถเอสยูวีเกรดสปอร์ตที่ขายในฟิลิปปินส์แตกต่างจากแพกเก็จแต่ง 70th Anniversary ในไทยตรงที่ไม่มีสติกเกอร์แต่งบนฝากระโปรงหน้า แต่มาพร้อมกับล้ออัลลอยสีดำเงาขนาด 18 นิ้ว ส่วนสีภายนอกของรถมีให้เลือก 4 สีระหว่างสีขาว Aspen Pearl White สีแดง Fiery Red สีดำ Galaxy Black และสีเทา Stealth Pearl Gray
ส่วนห้องโดยสารใช้หนังสีดำในการแต่งแผงแดชบอร์ด และเบาะทั้ง 3 แถวของรถ โดยที่เบาะหน้าเป็นแบบ Zero Gravity เพื่อช่วยลดความอ่อนล้าของผู้ขับ ในขณะที่จอทัชสกรีนตรงกลางมีขนาด 8 นิ้วพร้อม Apple CarPlay ไร้สายและ Android Auto ส่วนจอแสดงข้อมูลผู้ขับเป็นจอ TFT สีขนาด 7 นิ้ว โดยหากเป็นรุ่นขับเคลื่อน 4 ล้อจะมีระบบเสียงพรีเมียมของ Bose พร้อมลำโพง 8 ตัว เป็นอุปกรณ์มาตรฐานมาพร้อมกับรถ
นอกจากนี้รถเอสยูวีรุ่นแต่งสปอร์ตยังมีอุปกรณ์มาตรฐานอย่างแท่นชาร์จสมาร์ทโฟนไร้สาย ระบบปรับอากาศอัตโนมัติดูอัลโซลพร้อมช่องระบบปรับอากาศด้านหลัง และช่องชาร์จยูเอสบีที่ด้านหลัง
ส่วนการขับเคลื่อนของรถเอสยูวีเกรดสปอร์ตไม่แตกต่างจากเกรดอื่นที่เป็นเครื่องยนต์ 2.5 ลิตร เทอร์โบ 190 แรงม้าที่ 3,600 รอบ/นาที ให้แรงบิดสูงสุด 450 นิวตัน-เมตรที่ 2,000 รอบ/นาที โดยใช้เกียร์อัตโนมัตื 7 สปีดส่งกำลังจากเครื่องยนต์สู่ล้อพร้อมมีโหมดแมนนวล และสำหรับรุ่นที่ขับเคลื่อนด้วยทุกล้อจะมาพร้อมกับล็อกเฟืองท้าย Differential หลัง รวมทั้งมีระบบขับเคลื่อน 4 ล้อ Shift-on-the-fly ที่เลือกได้ระหว่าง 2H, 4H และ 2L
นอกจากนี้รถแต่งเน้นความเข้มยังมาพร้อมกับระบบความปลอดภัย Intelligent Mobility จึงทำให้เต็มไปด้วยการทำงานต่างๆ อย่างกล้องมองภาพรอบคัน กระจกมองหลังอัจฉริยะ ระบบเตือนก่อนการชนด้านหน้า ระบบเบรกฉุกเฉิน ระบบเตือนเมื่อรถเบี่ยงออกนอกเลน ระบบเตือนเมื่อผู้ขับเกิดความอ่อนล้า ระบบตรวจจับมุมบอด ระบบเตือนเมื่อมีรถผ่านด้านหลังขณะถอยออกจากช่องจอด รวมทั้งระบบตรวจวัดลมยาง
ด้านราคาของรถอยู่ที่ 2,119,000 เปโซสำหรับรุ่นขับเคลื่อน 2 ล้อและ 2,459,000 เปโซสำหรับรุ่นขับเคลื่อน 4 ล้อหรือประมาณ 1,338,000 บาทและ 1,55,200 บาทตามลำดับ
เรื่อง: กองบรรณาธิการ
เรียบเรียงข้อมูลโดย Off Road Magazine
ติดตามข่าวสาร ยานยนต์ รถใหม่ ได้ที่ https://offroadmag-thailand.grandprix.co.th/
Comments are closed, but trackbacks and pingbacks are open.