Nio ES8 เลือกได้ระหว่างซื้อรถพร้อมแบตเตอรีหรือแบบเช่า
Nio เริ่มขายพรีเซล ES8 รุ่นใหม่เจเนเรชันที่สามที่ถูกอ้างว่าเป็นรถเอสยูวีไฟฟ้าขนาดใหญ่ที่สุดของจีน โดยสามารถเลือกได้ระหว่างซื้อรถพร้อมแบตเตอรีหรือแบบเช่าแบตเตอรีที่ทำให้รถมีราคาถูกลงเกือบ 5 แสนบาท ขณะที่ระบบขับเคลื่อนของรถมีแต่มอเตอร์ไฟฟ้าคู่ขับเคลื่อนทุกล้อ
Nio ES8 ได้รับการอัปเกรดจากรุ่นก่อนหน้าทั้งขนาดและคลาสของรถที่ยกระดับจากรถเอสยูวีขนาดกลางเป็นรถเอสยูวีขนาดใหญ่ด้วยความยาว 5,280 มม. กว้าง 2,010 มม. สูง 1,800 มม. โดยมีระยะฐานล้อยาว 3,130 มม. ซึ่งนอกจากจะมีตัวเลขเพิ่มขึ้นจากรุ่นก่อน 181 มม., 21 มม., 50 มม. และ 60 มม. ตามลำดับแล้ว ทางผู้ผลิตยังอ้างว่าเป็นรถเอสยูวีไฟฟ้าขนาดใหญ่ที่สุดของจีนด้วย
ด้านดีไซน์ภานอกของรถมากับภาษาการออกแบบ Design for Success มีไฟ Daytime Running Light อยู่บนฝากระโปรงหน้าส่วนไฟหน้าถูกจัดเรียงแนวตั้งอยู่ที่กันชนหน้า โดยไฟหน้ามาพร้อมกับฟังก์ชั่น Lane-tracking และ Light-tracking ขณะที่ไฟท้ายของรถซึ่งมีลักษณะแถบยาวถูกระบุว่าประกอบด้วย 600 ไฟ LED และไฟ SuperRed 480 จุด ในขณะที่ล้อของรถเป็นล้อฟอร์จขนาด 22 นิ้ว ส่วนสีภายนอกของรถมีให้เลือก 6 สี
ห้องโดยสารของรถเป็นรูปแบบเบาะ 3 แถวโดยเลือกได้ระหว่างเบาะ 6 ที่นั่งหรือ 7 ที่นั่ง มีจอเรียวเล็กยาวเต็มความกว้างของรถสำหรับแสดงข้อมูลต่างๆ การแสดงข้อมูล AR Head-up Display ที่กระจกหน้าขนาด 38 นิ้ว จอตรงกลางขนาด 16.4 นิ้ว และจอขนาด 21.4 นิ้วที่เพดานสำหรับด้านหลัง นอกจากนี้ยังมีที่ชาร์จไร้สายคู่เป็นอุปกรณ์มากับรถ
รถที่มีรูปแบบเบาะ 6 ที่นั่งจะสามารถปรับเอนเบาะแถวที่สองได้ถึง 151 องศาพร้อมมีที่รองขาปรับความอุ่นได้ อย่างไรก็ตามเบาะทั้งหมดมีการทำงานปรับความอุ่นมาให้ใช้ โดยอุปกรณ์อื่นๆ เพื่อความสะดวกสบายในห้องโดยสารยังมีระบบปรับอากาศ 5 โซน โต๊ะพับ ตู้เย็น และระบบเสียงลำโพง 27 ตำแหน่ง ในขณะที่พื้นที่เก็บสัมภาระด้านหลังมีความจุ 547 ลิตร สามารถขยายความจุได้ถึง 3,230 ลิตรด้วยการพับเบาะลง รวมทั้งยังมีพื้นที่เก็บสัมภาระความจุ 230 ลิตรใต้ฝากระโปรงหน้า
รถเอสยูวีไฟฟ้าฟูลไซส์อยู่บนสถาปัตยกรรม 900-volt ใช้มอเตอร์ไฟฟ้าคู่สำหรับการขับเคลื่อนทุกล้อ โดยมอเตอร์หน้ามีกำลัง 180 kW หรือ 241 แรงม้า แรงบิด 300 นิวตัน–เมตร มอเตอร์หลังมีกำลัง 340 kW หรือ 456 แรงม้า แรงบิด 400 นิวตัน–เมตร แบตเตอรีของรถมีความจุ 102 kWh ให้พลังงานสำหรับเดินทางได้ถึง 635 กิโลเมตรตามมาตรฐาน CLTC ส่วนการชาร์จไฟแบบเร็วรองรับถึง 600 kW ทำให้ชาร์จไฟ 5 นาทีสามารถเดินทางได้เพิ่ม 250 กิโลเมตร
รถยังให้ความสบายในการเดินทางด้วยช่วงล่าง Dual-Chamber Air Suspension ที่สามารถปรับได้ 50 มม. พร้อมมีความสามารถในการลุยด้วยการมีความสูงของใต้ท้องรถจากพื้น 165 มม. และสามารถลุยน้ำได้ลึกถึง 650 มม. อย่างไรก็ตามรถมีโหมด Easy Entry ที่ลดความสูงของรถลง 50 มม. เมื่อจอดรถเพื่อให้เข้าสู่ห้องโดยสารได้ง่ายขึ้น และโหมด Easy Load ที่ลดความสูงลงเมื่อเปิดฝาท้ายของรถ นอกจากนี้รถยังมีทั้ง Lidar บนหลังคา ชุด Lidar มุมกว้าง เรดาร์ 4D Imaging และกล้องหลายตัวสำหรับระบบช่วยขับ
ราคารถพร้อมแบตเตอรีเริ่มต้น 416,800 หยวนหรือประมาณ 1,886,000 บาท ส่วนรถในแบบเช่าแบตเตอรีราคาเริ่มต้น 308,800 หยวนหรือประมาณ 1,400,000 บาท
เรื่อง : กองบรรณาธิการ
เรียบเรียงข้อมูลโดย Off Road Magazine
ติดตามข่าวสาร ยานยนต์ รถใหม่ ได้ที่ Off Road Magazine
Comments are closed, but trackbacks and pingbacks are open.