Toyota C-HR รุ่นแรกมาในสไตล์ลักษณะรถเอสยูวีคูเป้พร้อมกับดีไซน์สปอร์ตโฉบเฉี่ยว ซึ่งลักษณะนี้ยังคงสืบทอดมาถึงรถรุ่นใหม่เจเนเรชันที่ 2 ที่เพิ่งเผยโฉมออกมาด้วย โดยคราวนี้รถเอสยูวีดีไซน์สปอร์ตมาพร้อมกับทางเลือกในการขับเคลื่อนเฉพาะแบบไฮบริดโดยที่มีปลั๊กอินไฮบริดให้เลือกตั้งแต่เริ่มเปิดตัว
Toyota C-HR ใหม่มาในดีไซน์ที่ยังคงยึดมาจากรถที่ทางผู้ผลิตเผยออกมาให้ดูล่วงหน้าเมื่อปลายปีที่แล้ว กับเส้นสายบนตัวรถในสไตล์ที่เหมือนรถคูเป้และมีความเฉียบคมขึ้นในรุ่นใหม่จนทำให้รถมีรูปทรงที่ทางผู้ผลิตเรียกว่าซูเปอร์-คูเป้ โดยที่ด้านหน้ารถถูกระบุว่าแสดงถึงโฉมหน้าใหม่ของรถเอสยูวีจากค่าย ในดีไซน์ที่ปรากฏในรถไฟฟ้า bZ4X และ Prius ใหม่มาแล้ว พร้อมเน้นเส้นในลักษณะ Diamond-cut ที่ด้านข้าง นอกจากนี้ยังเป็นครั้งแรกที่มีที่เปิดประตูแบบ Flush Door Handle เพิ่มความโดดเด่นให้กับรถ
ทางผู้ผลิตยังระบุว่ารถเอสยูวีรุ่นใหม่ดูมีพลังและความแข็งแกร่งจากโอเวอร์แฮงก์ที่สั้นและล้อขนาดใหญ่ถึง 20 นิ้ว รวมไปถึงมีดีไซน์สีไบโทนให้เลือกซึ่งจะมีสีดำตั้งแต่ในส่วนของหลังคาลงมาจนถึงบริเวณด้านหลังของรถและกันชนหลัง นอกจากนี้ทางทีมนักออกแบบและทีมงานแอโรไดนามิกยังทำงานร่วมกันเพื่อทำให้ภายนอกรถมีแอโรไดนามิกที่มีประสิทธิภาพไปพร้อมกับรูปลักษณ์ที่น่าประทับใจของรถ
ทางผู้ผลิตรถยนต์จากญี่ปุ่นยังระบุว่ารถรุ่นใหม่ของตนถูกออกแบบเพื่อสร้างประสบการณ์ผู้ใช้ที่ไร้รอยต่อ มีความเข้าในง่าย และเป็นส่วนตัวทั้งจากการใช้แอปป์ในสมาร์ทโฟน จอทัชสกรีน หรือระบบสั่งงานด้วยเสียงเพื่อควบคุมสิ่งต่างๆ นอกจากนี้เมื่อผู้ขับมาถึงรถไฟภายนอกของรถจะสว่างขึ้นพร้อมกับมีไฟซิกเนเจอร์ไลต์ที่ประตูหลัง และมีการปรับตั้งค่าต่างๆ ที่ผู้ขับชอบใช้อัตโนมัติอย่างตำแหน่งเบาะ การแสดงข้อมูลที่จอ การแสดงข้อมูล Head-up Display รวมทั้งจอมัลติมีเดีย
ส่วนอุปกรณ์ในห้องโดยสารจะมีจอแสดงข้อมูลผู้ขับแบบดิจิตอลถึงขนาด 12.3 นิ้วขึ้นอยู่กับเกรดรถ ในขณะที่ระบบมัลติมีเดียอยู่ในจอขนาด 8 หรือ 12.3 นิ้วของรถ พร้อมการเชื่อมต่อสมาร์ทโฟนไร้สายสำหรับ Apple CarPlay และ Android Auto รวมทั้งมีระบบไฟ Ambient Lighting ซึ่งสามารถแสดงตามบรรยากาศในห้องโดยสารหรือช่วงเวลาของวันได้ และยังทำงานร่วมกับเสียงและการเตือนในระบบความปลอดภัย Safe Exit Assist เมื่อมีความเสี่ยงที่อาจเกิดการชนหรือเมื่อกำลังมีรถจักรยานเข้ามาที่ด้านหลัง
การขับเคลื่อนของรถจะมีให้เลือก 4 ระบบซึ่งล้วนแต่มีการใช้พลังงานไฟฟ้าคือ ไฮบริด HEV ใช้เครื่องยนต์ 1.8 ลิตร 140 แรงม้า หรือ 2.0 ลิตร 198 แรงม้า และปลั๊กอินไฮบริด 2.0 ลิตร 223 แรงม้า ซึ่งทั้งหมดจะขับเคลื่อนด้วยล้อหน้า แต่รุ่นไฮบริด HEV 2.0 ลิตรจะมีระบบขับเคลื่อน 4 ล้อเพิ่มเข้ามาเป็นออฟชันให้เลือก ในขณะที่รุ่นปลั๊กอินไฮบริดสามารถเดินทางโดยใช้เฉพาะพลังงานจากแบตเตอรีได้ 66 กิโลเมตร
ทางผู้ผลิตยังระบุว่าระบบขับเคลื่อนของรถรุ่นใหม่ถูกปรับตั้งเพื่อให้มีการตอบสนองทั้งการเร่งความเร็วและการขับขี่ รวมไปถึงมีการออกแบบและปรับช่วงล่างของรถรวมไปถึงพวงมาลัยใหม่เพื่อให้ความสมดุลย์ทั้งการควบคุมรถ ความสบาย และการตอบสนอง
ในช่วงแรกที่เปิดตัวรถเอสยูวีรุ่นใหม่จะมี 2 รุ่นพิเศษออกมาเป็นทางเลือกคือ GR Sport Premiere Edition ที่เพิ่มรายละเอียดต่างๆ ในสไตล์ GR ให้กับรถรวมทั้งระบบเสียง JBL และการแสดงข้อมูล Head-up Display โดยรถมาในสีเงิน Prcious Silver ไบโทนที่ภายนอก และรุ่น High Premiere Edition ที่มาพร้อมกับเบาะหนัง การแสดงข้อมูล Head-up Display และหลังคาพาโนรามิกรวมกับภายนอกรถสี Sulphur ไบโทน
ทาง Toyotaในยุโรปเปิดรับจองรถทางออนไลน์ทันทีหลังเปิดตัวรถอย่างเป็นทางการ ขณะที่ราคาเริ่มต้นของรถอยู่ที่ 35,000 ยูโร อย่างไรก็ตามหลายตลาดที่เคยสัมผัสกับ C-HRเจเนเรชันแรกอาจไม่มีโอกาสได้สัมผัสรถเจเนเรชันที่ 2
เรื่อง : กองบรรณาธิการ
เรียบเรียงข้อมูลโดย Off Road Magazine
ติดตามข่าวสาร ยานยนต์ รถจักรยานยนต์ รถใหม่ ได้ที่ Off Road Magazine
Comments are closed, but trackbacks and pingbacks are open.