เปิดตัว New Range Rover SV ครั้งแรกในประเทศไทย ราคาเริ่มต้น 16.99 ล้านบาท
บริษัทอินช์เคป (ประเทศไทย) ผู้นำเข้าและตัวแทนจำหน่ายรถยนต์จากัวร์และแลนด์โรเวอร์อย่างเป็นทางการแต่เพียงผู้เดียวในประเทศไทย เปิดตัวรถยนต์ The New Range Rover SV (เรนจ์ โรเวอร์ เอสวี ใหม่) พร้อมให้เป็นเจ้าของใน ราคา เริ่มต้นที่ 16,999,000 บาท พร้อมรับ Range Rover Care นาน 5 ปี (การรับประกันคุณภาพ, บริการบำรุงรักษาตามระยะ และบริการช่วยเหลือฉุกเฉินบนท้องถนน 24 ชั่วโมง ระยะเวลา 5 ปี) พิเศษสำหรับลูกค้าจอง และออกรถตั้งแต่วันที่ 20 กันยายน–31 ธันวาคม 2566 สัมผัสประสบการณ์สุดเอ็กซ์คลูซีฟเยี่ยมชมโรงงาน ณ ประเทศอังกฤษ เป็นระยะเวลา 3 วัน 2 คืน
Range Rover SV สุดยอดยนตกรรมของตระกูล Range Rover โดยนำเสนอความประณีต ความหรูหราและการปรับแต่งเฉพาะตัวของ Range Rover ด้วยบริการใหม่จาก SV Bespoke Service ที่มาพร้อมกับวัสดุพิเศษเฉพาะ ธีมการออกแบบที่คัดสรรมาอย่างดี รวมถึงขอบเขตการปรับแต่งที่มากขึ้นกว่าที่เคยของผู้เชี่ยวชาญจากศูนย์ความเป็นเลิศด้านเทคนิค Special Vehicle Operations ทำให้ลูกค้ามีทางเลือกสำหรับแนวทางในการสร้างสรรค์ความหรูหราสมัยใหม่ในแบบฉบับของตนเอง เติมเต็มความหลงใหลที่มีร่วมกันในการออกแบบอันประณีต ความสมบูรณ์แบบของไลฟ์สไตล์ ความชำนาญในงานฝีมือ และวัสดุคุณภาพระดับสูง
Range Rover SV สามารถกำหนดธีมการออกแบบทั้งภายนอก และภายในที่คัดสรรมาเป็นอย่างดี ได้แก่ SV Serenity และ SV Intrepid ตกแต่งด้วยสี และวัสดุที่งดงามในทิศทางที่แตกต่างกัน ในลักษณะของสีทูโทนที่ตัดกันระหว่างด้านหน้า และด้านหลังด้วยวัสดุพิเศษ ได้แก่ โลหะชุบมันเงา, เซรามิกเนื้อเรียบ, งานประดับกระเบื้องโมเสคอันประณีต และหนังอะนิลีนเนื้อนุ่ม ขณะเดียวกันลูกค้า Range Rover SV ยังสามารถเลือกสีมาตรฐานของ Range Rover หรือสีเพิ่มเติมได้ 14 สีใน SV Bespoke Premium Palette ซึ่งรวมถึงสีเคลือบเงา และสีซาติน
การตบแต่งภายในมีเฉดสีวัสดุให้เลือกถึง 391 เฉดสี โดยชุดสี SV Bespoke ประกอบด้วยสีซาติน และเคลือบเงามากกว่า 230 สี ตลอดจนบริการ Match to Sample ลูกค้าสามารถทำให้ Range Rover มีเอกลักษณ์เฉพาะตัวได้อย่างแท้จริง สามารถเข้าถึงวัสดุได้ตามต้องการ ทั้งการตกแต่งภายใน และภายนอก
การทำงานร่วมกับผู้เชี่ยวชาญของ SV ลูกค้าจะปฏิบัติตามกระบวนการสร้างสรรค์และขั้นตอนที่มีเอกลักษณ์ โดยพิจารณาจากสี ธีม ตัวเลือกพิเศษเฉพาะของ SV วัสดุ และการตกแต่งขั้นสุดท้าย ซึ่งการปรับแต่งเฉพาะบุคคลนี้ ทำให้รถยนต์แต่ละคันจะมีเอกลักษณ์เฉพาะตัว บ่งบอก และสะท้อนความเป็นตัวตนของเจ้าของอย่างแท้จริง
การใช้วัสดุที่พิเศษถือเป็นกุญแจสำคัญในการสร้างความแตกต่างที่ทำให้ Range Rover SV มีความหรูหรา และทันสมัย โดยเฉพาะการใช้เซรามิกในการผลิตตราสัญลักษณ์ SV สีดำที่อยู่ด้านท้ายที่แสดงออกถึงความบริสุทธิ์ และความแข็งแกร่ง โดยใช้เทคนิคในการผลิตแบบเดียวกับที่ใช้ผลิตหน้าปัดนาฬิกาหรู และเป็นครั้งแรกที่ใช้วิธีการดังกล่าวกับภายนอกรถยนต์ วงกลมอันเป็นเอกลักษณ์ผสมผสานตัวอักษรสีดำขึ้นรูปบนพื้นหลังสีขาวเรียบเนียน ซึ่งเป็นเครื่องหมายที่แสดงถึงความแตกต่างอย่างแท้จริง
สำหรับภายในห้องโดยสารโดดเด่นด้วย SV Signature Suite แบบ 4 ที่นั่ง มอบประสบการณ์สุดพิเศษให้กับผู้โดยสารด้วยเบาะคู่หน้าไฟฟ้าสามารถปรับได้ 24 ทิศทาง พร้อมฟังก์ชันการนวด โดยโต๊ะ Club Table ปรับใช้ด้วยระบบไฟฟ้าได้อย่างลงตัว สามารถยกสูงขึ้นจากคอนโซลกลางที่มีความยาวแบบเต็มพื้นที่ตั้งแต่ด้านหน้าจนถึงด้านหลัง ซึ่งซ่อนฟังก์ชันการใช้งานไว้จนกว่าจะถึงเวลาที่ต้องการได้อย่างแนบเนียน เพื่อมอบพื้นที่ใช้สอยที่สะดวกสบายเมื่อจำเป็น เช่นเดียวกับที่วางแก้วก็สามารถเลื่อนขึ้นจากใต้แผ่นฝาปิดได้อย่างไหลลื่นในทุกครั้งที่ต้องการใช้งาน
ความใส่ใจในรายละเอียดยังขยายไปถึงประตูตู้เย็นแบบเปิดด้วยไฟฟ้า ซึ่งควบคุมโดยใช้ตัวควบคุมบนหน้าจอสัมผัสที่เบาะหลังขนาด 8 นิ้ว โดยเผยให้เห็นช่องที่ใหญ่พอที่จะใส่ขวดแชมเปญได้และสามารถทำความเย็นได้เร็วกว่าที่เคย และคอนโซลกลางยังมีพื้นที่ซ่อนไว้สำหรับเก็บของมีค่าได้อย่างปลอดภัย
ขณะที่การชาร์จอุปกรณ์ไร้สาย การเชื่อมต่อ USB, ช่องจ่ายไฟ 12V และปลั๊กไฟแบบที่ใช้ภายในบ้านนั้น อยู่ใต้ที่วางแขนตรงกลางด้านหลัง ด้วยวิธีนี้ SV Signature Suite จึงมอบสิ่งที่ดีที่สุด และสภาพแวดล้อมการเดินทางที่ไม่มีใครเทียบได้ ไม่ว่าผู้โดยสารจะทำงานหรือพักผ่อนก็ตาม
นอกจากนี้ Range Rover SV ยังมอบประสบการณ์ความบันเทิงขั้นสูงสำหรับที่นั่งด้านหลัง ด้วยหน้าจอขนาด 13.1 นิ้ว ซึ่งมีขนาดใหญ่ที่สุดในบรรดา Range Rover ทุกรุ่น และหูฟังประสิทธิภาพสูงพร้อมความคมชัดที่เพิ่มขึ้นพิเศษเฉพาะรุ่น SV เท่านั้น
Range Rover SV ขับเคลื่อนด้วยขุมพลัง Ingenium ขนาด 3.0 ลิตร Turbocharged Petrol PHEV ให้พละกำลังสูงสุด 460 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 550 นิวตัน-เมตร มาพร้อมกับระบบส่ง กำลังแบบอัตโนมัติขับเคลื่อน 4 ล้อ (iAWD) ควบคุมโดยระบบ Intelligent Driveline Dynamics (IDD) สามารถตรวจสอบระดับการยึดเกาะ และการสั่งการของผู้ขับขี่ 100 ครั้งต่อวินาที เพื่อคาดการณ์การกระจายแรงบิดระหว่างเพลาหน้ากับเพลาหลัง รวมทั้งกระจายไปทั่วเพลาหลังเพื่อแรงยึดเกาะที่ดีที่สุดทั้งการขับขี่บนทางเรียบ และเส้นทางขรุขระ
Range Rover SV มาพร้อมระบบขับเคลื่อน Dynamic Response Pro รุ่นล่าสุดที่จะรักษาระดับสมดุลของตัวรถให้ขนานไปกับถนนในขณะเข้าโค้ง ระบบ Terrain Response ที่เพิ่มฟังก์ชัน Adaptive Off-Road Cruise Control ที่จะรักษาความเร็วของรถเมื่อเข้าสู่ทางออฟโรด โดยที่ผู้ขับขี่ไม่ต้องกังวลในการควบคุมความเร็วสามารถมีสมาธิกับการขับขี่ และควบคุมพวงมาลัย ได้อย่างมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น
ร่วมสัมผัส The New Range Rover SV อีกระดับของนิยามความลักซ์ชัวรี่ ได้ที่โชว์รูมแลนด์โรเวอร์ พระราม 4 สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติม โทร. 02-666-7500
เรื่อง: พูนทวี สุวัตถิกุล
ขอบคุณข้อมูล: บริษัทอินช์เคป (ประเทศไทย) จำกัด
Comments are closed, but trackbacks and pingbacks are open.