New Honda CR-V 5 ที่นั่ง เพิ่มพื้นที่-อเนกประสงค์กว่าเดิม
หลังจากสร้างความแปลกใหม่ด้วยการเพิ่มที่นั่งแถว 3 ให้กับ Honda CR-V เจเนอเรชั่นล่าสุดในช่วงเปิดตัวเมื่อต้นปี 2017 แต่เพื่อครอบคลุมความต้องการในการใช้งาน และไลฟ์สไตล์ของคนรุ่นใหม่ ทำให้มีการปรับเปลี่ยนส่งรุ่น 5 ที่นั่งออกมาเป็นอีกทางเลือกเมื่อช่วงปลายปีที่ผ่านมา
การที่ผู้ใช้งานรถแนวคอมแพ็กต์ครอสส์โอเวอร์เอสยูวี ในบ้านเรายังคงคุ้นเคยกับเครื่องยนต์เบนซินมากกว่าดีเซล ทำให้ New CR-V 5 Seats จะมีตัวเลือกเฉพาะเครื่องยนต์เบนซิน 2.4L i-VTEC โดยเพิ่มเข้ามาอีก 2 รุ่นย่อย 2.4S ขับเคลื่อนสองล้อ และ 2.4ES 4WD ขับเคลื่อนสี่ล้ออัตโนมัติ (Real Time AWD)
ใครที่ยังเลือกไม่ได้ระหว่างรุ่น 5 ที่นั่งกับ 7 ที่นั่ง มาดูกันว่า CR-V 2.4ES 4WD 5 ที่นั่ง (สีขาว) กับ 2.4EL 4WD 7 ที่นั่ง (สีเทา) มีตรงไหนที่แตกต่างเพื่อที่จะได้ตัดสินใจได้ง่ายขึ้น
Exterior & Interior
มองจากภายนอกไม่ต้องเสียเวลาเล่นเกมจับผิด เพราะ 2.4ES ไม่มีความแตกต่างกับรุ่น 2.4EL ที่เปิดตัวเมื่อต้นปี 2017 ชุดไฟหน้า-หลัง LED พร้อมไฟส่องสว่างในเวลากลางวัน Day Time Running Light มีให้ครบ เช่นเดียวกับภายในห้องโดยสารเบาะนั่งโทนสีดำ Piano Black ตบแต่งด้วยลายไม้แบบเดียวกับที่อยู่ในรุ่นท็อปของเครื่องยนต์ดีเซล 1.6 DT-EL 4WD
บริเวณคอนโซลกลางทุกอย่างอยู่ในตำแหน่งเดียวกันหมด โดยการอัพเดตรอบนี้ทำให้ระบบเครื่องเสียงหน้าจอสัมผัส 7 นิ้วรองรับการใช้งาน Apple CarPlay จะมีให้ทั้ง 6 รุ่นย่อย แต่รุ่น 5 ที่นั่ง จะตัดปุ่มควบคุมระบบปรับอากาศด้านหลังที่เป็นช่องแอร์อยู่บนเพดานออก เพราะไม่มีคนนั่งแถวที่ 3 ส่วนช่องแอร์สำหรับผู้โดยสารแถวสองยังอยู่เหมือนเดิม และอีกจุดที่แตกต่างเป็นปุ่มควบคุมระดับเสียงวิทยุบนพวงมาลัยจะเป็นแบบกด +- ไม่ได้ใช้นิ้วรูดขึ้นลงเพื่อปรับความเบา-ดังเหมือนในรุ่น 7 ที่นั่ง
ข้อดีของ CR-V ที่น่าจะถูกใจหลายครอบครัวที่ลูกๆ ต้องพกสมาร์ตโฟนหรือแท็บแล็ตติดตัวตลอดเวลาคงจะเป็นช่องเสียบ USB ที่มีมากถึง 4 ตำแหน่ง ไม่ต้องแย่งกันเวลาที่ใครจะชาร์จแบตเตอรี่ และหากคนขับใช้ iPhone เสียบสายเชื่อมต่อ Apple CarPlay ที่จะดึงแอพพลิเคชั่นสำคัญๆ ขึ้นไปแสดงผลที่หน้าจอบริเวณคอนโซลกลางสะดวกต่อการใช้งานมากขึ้น
Hands-free Power Tailgate
หลังจากมีระบบเปิด-ปิดประตูท้ายไฟฟ้าในทุกรุ่นของ CR-V เจเนอเรชั่นนี้ การเพิ่มรุ่น 5 ที่นั่ง ทำให้ Honda ตัดสินใจใส่ออปชั่นระบบเปิดประตูท้าย Hands-free Power Tailgate ให้ครบทั้ง 6 รุ่นย่อย เพื่อความสะดวกสบายเวลาต้องหอบหิ้วของพะรุงพะรังเต็ม 2 มือ ขอเพียงแค่คุณพกกุญแจรถไว้กับตัวแล้วยื่นเท้าเข้าไปบริเวณใต้กันชนฝากระโปรงท้ายก็จะเปิดออกมาอัตโนมัติ
More Comfort
ถึงการพับเก็บเบาะนั่งแถวสามของ CR-V รุ่น 7 ที่นั่งจะสะดวกสบาย แต่การที่ไลฟ์สไตล์ของคนยุคนี้เป็นครอบครัวขนาดเล็กคู่รักหรือมีลูกแค่คนเดียว ทำให้การซื้อรถเอสยูวีที่นั่ง 3 แถว ปีๆ หนึ่งคงจะไม่ได้ใช้งานเท่าไรนัก
หลังจากลงมือลองวัดขนาดพื้นที่ด้านหลังของ CR-V 5 ที่นั่ง ซึ่งไม่มีเบาะแถวที่ 3 มาเบียดบังพื้นที่จะเห็นความแตกต่างว่ารองรับสัมภาระได้มากขึ้นแค่ไหน
New CR-V 2.4ES 4WD 5 ที่นั่ง | CR-V 2.4EL 4WD 7 ที่นั่ง | |
ความกว้างประตูท้าย | 104 | 104 |
ความสูงประตูท้าย | 84 | 84 |
ความสูงพื้นภายในรถ-หลังคา | 90 | 72 |
ความกว้างภายใน | 147 | 147 |
ความกว้างระหว่างซุ้มล้อหลัง | 119 | 102 |
* หน่วยเป็นเซนติเมตร
เปรียบเทียบให้เห็นภาพง่ายๆ CR-V 5 ที่นั่ง สามารถใส่กระเป๋าเดินทางไซส์ใหญ่ 29 นิ้ว 3 ใบเรียงกันแบบไม่ต้องเหนื่อยกับการพลิกหามุมเสียบเข้าไปเก็บ หากเทียบกับรุ่น 7 ที่นั่ง ถึงจะพับเบาะแถวสามราบลงแต่พื้นที่จะน้อยกว่า และมีการแบ่งพื้นที่เป็นช่องด้านล่างความสูง 15 เซนติเมตรที่พอจะเก็บรองเท้าได้ 2-3 คู่ แต่หากเดินทางเต็ม 7 คนจะวางได้แค่กระเป๋าไซส์เล็ก 20 นิ้ว และกระเป๋าสะพายใบเล็กๆ เท่านั้น
แต่ถ้าต้องใส่ของเพิ่มขึ้นเล็กๆน้อยๆ เอสยูวีแบบ CR-V จะมีทริกพิเศษในการปรับเบาะนั่งแถวสองให้ชันขึ้น เพื่อจะได้ความยาวเพิ่มอีกเล็กน้อยเป็น 102 เซนติเมตร ส่วนใครชอบซื้อเฟอร์นิเจอร์, ต้นไม้ หรือขนของที่มีความยาว สามารถพับเบาะนั่งด้านหน้าเพื่อวางยาวเป็นอีกหนึ่งทางเลือก
ในส่วนกรณีเกิดอุบัติเหตุต้องเปลี่ยนยาง รุ่น 5 ที่นั่งเพียงแค่ยกแผ่นรองปิดบริเวณด้านท้ายขึ้นมาจะเห็นยางอะไหล่รอให้นำออกไปใช้ ส่วนรุ่น 7 ที่นั่ง จะมีความยากตรงที่ต้องปลดเบาะนั่งแถวสามออกมาก่อน เรื่องนี้หลายคนคงไม่อยากเจอแต่รู้ไว้ก็คงไม่เสียหายอะไร
Engine & Eco
CR-V 5 Seats ใช้เครื่องยนต์ 2.4L i-VTEC ทำงานร่วมกับเกียร์ CVT เหมือนในรุ่น 7 Seats ทำให้ไม่มีความแตกต่างในการขับขี่ และถึงน้ำหนักรวมของรถจะลงมาเหลือ 1,599 กิโลกรัมเบากว่าเดิม 71 กิโลกรัม อัตราประหยัดน้ำมันยังคงไม่เปลี่ยนแปลงอยู่ที่ 12.2 กม./ลิตร (การทดสอบภายใต้สภาวะรวมตามมาตรฐาน Eco Sticker) และมีอัตราปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ (CO2) 194 กรัม/กม. เท่าเดิม
ทำให้กลายเป็นเรื่องน่าตลกหากไปดูผลการทดสอบ CR-V EL 4WD เครื่องยนต์ดีเซล i-DTEC Turbo 1.6 ลิตร ไม่เพียงจะมีอัตราประหยัดน้ำมันที่ดีถึง 17.9 กม./ลิตร และอัตราปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์น้อยกว่าที่ 149 กรัม/กม. จะเห็นได้ว่าปัญหามลพิษฝุ่น PM 2.5 ที่ชาวกรุงเทพฯ เผชิญอยู่คงจะโทษให้รถยนต์นั่งส่วนบุคคลเป็นผู้ร้ายไม่ได้ แต่ต้องให้ภาครัฐสนับสนุนการใช้เครื่องยนต์ที่มีเทคโนโลยีสูงปล่อยมลพิษน้อยที่สุดมากกว่า
Price
เหตุผลสุดท้ายประกอบการตัดสินใจซื้อรถใหม่ของหลายคนเป็นเรื่องของราคา CR-V 5 ที่นั่ง รุ่นเริ่มต้น 2.4S กลายเป็นโมเดลเริ่มต้นด้วยราคา 1,359,000 บาท ในขณะที่รุ่นล่างสุดของตัว 7 ที่นั่ง 2.4 E มีการเพิ่มออปชั่นทำให้ราคาบวกเพิ่มอีก 10,000 บาท กลายเป็น 1,409,000 และ 5 ที่นั่งตัวท็อป 2.4ES 4WD จะแทรกตรงกลางที่ 1,499,000 บาท
ตารางราคา Honda CR-V ปี 2019
รุ่น | ราคา (บาท) |
1.6 DT-EL 4WD (7 ที่นั่ง) | 1,699,000 |
1.6 DT-E (7 ที่นั่ง) | 1,559,000 |
2.4 EL 4WD (7 ที่นั่ง) | 1,549,000 |
2.4 ES 4WD (5 ที่นั่ง) | 1,499,000 |
2.4 E (7 ที่นั่ง) | 1,409,000 |
2.4 S (5 ที่นั่ง) | 1,359,000 |
Just Arrive!!!
เรียกว่าเป็นคู่แข่งสำคัญก็คงจะไม่ได้หากมองจากยอดขายในประเทศไทยที่ห่างไกลกันเหลือเกิน แต่ New Nissan X-Trail ที่เพิ่งเปิดตัวเมื่อต้นเดือนกุมภาพันธ์ เสริมออปชั่นใหม่ได้น่าสนใจ โดยเฉพาะเทคโนโลยีความปลอดภัย Nissan Intelligent Mobility ที่มาแบบยกชุด และปรับเปลี่ยนดีไซน์ภายในด้วยการใส่พวงมาลัย Sporty D-Shaped พร้อมปุ่มควบคุมมัลติฟังก์ชั่นที่อยู่ในหลายๆ โมเดลใหม่ของพวกเขาตอนนี้
จุดขายสำคัญของ X-Trail ยังคงเป็นคอมแพ็กต์ครอสส์โอเวอร์รุ่นเดียวในตลาดเมืองไทยที่มีตัวเลือกเครื่องยนต์ไฮบริด โดยจะเป็นเทคโนโลยีเดิมจากตอนที่เปิดตัวครั้งแรกเมื่อปี 2015 โดยเครื่องยนต์เบนซิน 2.0 ลิตร (144 แรงม้า, แรงบิดสูงสุด 200 นิวตันเมคร) จะทำงานร่วมกับมอเตอร์ไฟฟ้าแบบ Synchronous Electric Motor (41 แรงม้า, แรงบิดสูงสุด 160 นิวตันเมตร) ทำให้มีกำลังรวมสูงสุด 179 แรงม้า
อย่างไรก็ตามข้อมูลอัตราประหยัดน้ำมัน Eco Sticker ของ New X-Trail ยังไม่มีการเปิดเผยออกมา โดยหากใช้ข้อมูลบนเว็บไซต์ car.go.th เมื่อปีที่แล้ว รุ่นไฮบริด 2.0L V 4WD จะอยู่ที่ 15.6 กม./ลิตร (ทดสอบในสภาวะรวม) และรุ่นเครื่องยนต์เบนซิน 2.5L V จะกินน้ำมัน 12.0 กม./ลิตร
เรียกว่าหากใครมองที่ความประหยัด Nissan ทำได้ใกล้เคียงกับ Honda ทั้งรุ่นเบนซิน และดีเซลเลยทีเดียว แต่ข้อแตกต่างสำคัญคือ CR-V รุ่น 2.4 รองรับน้ำมันแก๊สโซฮอล E85 ในขณะที่ X-Trail เครื่องยนต์เบนซินเติมได้แค่ E20 และแก๊สโซฮอล 91เท่านั้นสำหรับรุ่นไฮบริด
Comments are closed, but trackbacks and pingbacks are open.