ออฟโรดภาคใต้รวมตัวเฉพาะกิจ พิชิตเมืองเมืองลับแล ตามล่าหาน้ำตก “หนานน้ำฟุ้ง”

ทริปเข้าพรรษาของออฟโรดภาคใต้ครั้งนี้  บอกได้เลยว่า เป็นการรวมตัวเฉพาะกิจของชาวออฟโรดภาคใต้ ที่สนุกสนานเต็มเปี่ยมไปด้วยมิตรภาพกลางธรรมชาติอันงดงามของจำนวนรถ 15 คัน กับสมาชิก 40 คน ภายใต้การนำของผู้เขียนหรือ อธิรักษ์  นวลใย ประธานชมรมพระแสงออฟโรด

สำหรับสมาชิกชมรมต่างๆ ประกอบด้วย ชมรมพระแสงออฟโรด, สหายภูเล, จิ๊ปนาสารสัมพันธ์, บูมเมอแรงออฟโรด, จิ๊ปควนสามัคคี, ทีมหนุกกันนิคุณ, ทีมกะลุยออฟโรด และพี่น้องเจ้าของพื้นที่ บุกเมืองลับแล เมืองประวัติศาสตร์อีกเมืองหนึ่ง ซึ่งเคยเป็นพื้นที่สีแดง และเป็นฐานกำลังของกองกำลังคอมมิวนิสต์  รวมทั้งเป็นแหล่งต้นน้ำแม่น้ำตาปี ที่เคยเกิดอุทกภัยครั้งยิ่งใหญ่ ในปี 2531 และก่อให้เกิดความเสียหายต่อชีวิตและทรัพย์สินมหาศาล โดยเฉพาะที่ตลาดชุมชนบ้านกะทูนและพื้นที่ใกล้เคียง จนไม่สามารถพัฒนาปรับปรุงให้ประชาชนอาศัยอยู่ได้ต่อไป ทางการจึงได้พัฒนาพื้นที่เป็นอ่างเก็บน้ำบ้านกะทูนขึ้นมาแทน เพื่อแก้ปัญหาอุทกภัยที่เกิดขึ้นซ้ำซากและได้ผลเป็นอย่างดี

กระนั้น…นั่นเป็นเพียงหนึ่งเหตุผลที่น่าสนใจ แต่ไฮไลท์หรือปลายทางของทริปนี้ มิใช่แค่เมืองลับแลเท่านั้น เพราะในพื้นที่ของเทือกเขาหลวง หลังคาภาคใต้แห่งนี้ ยังซุกซ่อนความงดงามอีกอย่างหนึ่งเอาไว้อย่างมิดชิด นั่นก็คือ น้ำตกหนานน้ำฟุ้ง ซึ่งตั้งหมู่ที่ 8 ต.กะทูน  อ.พิปูน จ.นครศรีธรรมราช  น้ำตกดังกล่าวอยู่ในความรับผิดชอบของเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่ากะทูน  ขึ้นตรงกับสำนักบริหารพื้นที่อนุรักษ์ที่ 5 กรมอุทยานแห่งชาติสัตว์ป่าและพันธุ์พืช  และตั้งอยู่เหนืออ่างเก็บน้ำกะทูนขึ้นไป และเป็นน้ำตกที่เพิ่งมีการสำรวจและค้นพบใหม่เมื่อปี พ.ศ.2559 นี่เอง

ดังนั้นจึงมีผู้รู้จักน้อยมาก และที่สำคัญการเดินทางเข้าไปยังน้ำตก นอกจากการเดินเท้าเข้าไปแล้ว ก็ต้องใช้รถขับเคลื่อนสี่ล้อหรือรถออฟโรดเท่านั้น ระยะทางโดยประมาณจากอ่างเก็บน้ำกะทูน ถึงตัวน้ำตกอยู่ที่ประมาณ 14 กม.

แต่ละชมรมเดินทางมารวมตัวกันที่อ่างเก็บน้ำกะทูนในช่วงเช้าของวันเข้าพรรษาที่ผ่านมา เมื่อทุกอย่างพร้อมก็ค่อยๆ เคลื่อนตัวขับกินลมชมวิวไปตามรายทางเรื่อยๆ พร้อมเก็บภาพอันประทับใจกันไปตลอดทาง โดยมี บังแอ๊ว หรือ ประสิทธิ์  จิตรหลัง ช่างภาพชื่อดังจากชมรมบูมเมอแรงรับหน้าที่เก็บภาพประทับใจในครั้งนี้

กระทั่งเที่ยงวันขบวนของเราก็เดินทางที่บ้านนายูง และได้รับการต้อนรับเป็นอย่างดีจาก คุณกานดา  ริยาพันธ์  และคณะ ที่จัดเตรียมอาหารเอาไว้คอยท่าอยู่ก่อนแล้ว และที่ลืมไม่ได้ก็คือ คุณอุบล  สุมน ที่จัดปลาทับทิบรสชาตแสนอร่อยมาให้พวกเราได้ทาน ต้องขอบคุณน้ำใจของทั้งสองท่านและคณะจากใจจริง

ครั้นเสร็จจากอาหารมื้อกลางวันเรียบร้อยแล้ว ที่หมายต่อไปของคณะของเราก็คือ สำนักงานเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่ากะทูนที่เราได้ขออนุญาติและประสานงานเอาไว้ก่อนแล้ว พร้อมกับรับเจ้าหน้าที่ป่าไม้เพื่อนำทางพวกเราไปยังน้ำตกหนานน้ำฟุ้ง

จากนั้นก็ได้เวลาแห่งการผจญภัยอย่างแท้จริง ด้วยการขับไปตามเส้นทางธรรมชาติ ที่ถูกแต่งแต้มด้วยอุปสรรคนานัปการ โดยเฉพาะลำห้วยน้อย-ใหญ่ ที่ใสสะอาด สลับการการผ่านพื้นที่ป่าอันอุดมสมบูรณ์ เต็มไปด้วยพันธุ์พืชนานา รวมทั้ง สัตว์ที่หลากหลาย กระทั่งบ่ายคล้อยทุกคันก็เดินทางถึงที่หมาย เป็นจุดกางเต็นท์พักแรมด้านล่างของน้ำตกหนานน้ำฟุ้ง ทุกคนต่างแยกย้ายก็ทำหน้าที่ของตนเอง ทั้งจัดเตรียมตั้งเต็นท์พักแรม เตรียมอาหาร บางคนอดใจไม่ไหวเมื่อเห็นสายน้ำที่ใสสะอาด และเย็นฉ่ำ จนต้องลงไปนอนแช่น้ำผ่อนคลาย

เวลาในป่าเคลื่อนคล้อยมาไวกว่าปกติ ชั่วไม่นานรอบๆ ราวป่าก็ถูกปกคลุมเอาไว้ด้วยความมืด ทุกคนเริ่มนั่งล้อมวงรับประทานอาหารมื้อเย็นกันอย่างเอร็ดอร่อย พร้อมกับพูดคุยแลกเปลี่ยนประสบการณ์ของกันและกันอย่างออกรส ก่อนจะแยกย้ายกันเข้านนอนเอาเมื่อเวลาเริ่มย่างกายเข้าสู่วันใหม่

เช้าตรู่ทุกคนต่างตื่นนอน ด้วยความสดชื่นที่ได้ดื่มด่ำกับบรรยากาศแห่งธรรมชาติกลางวงล้อมแห่งสายน้ำและพงไพร ของเทือกเขาหลวงอันยิ่งใหญ่  เมื่อรับประทานอาหารเช้าเสร็จ ก็ได้เวลาสละรถมาเดินเท้าไปยังน้ำตกหนานน้ำฟุ้งที่ตั้งอยู่ห่างออกไปราว 570 เมตร ระยะทางไม่ไกล แต่ต้องอาศัยการโหนเถาวัลย์ขึ้นไปในบางช่วง เล่นเอาเหงื่อตกไปตามๆ กันกว่าจะถึงเป้าหมาย

แต่ความเหน็ดเหนื่อยเมื่อล้า ก็หายเป็นปลิดทิ้งเมื่อทุกคนต่างได้เห็นสายน้ำสีขาวขนาดใหญ่ที่ไหลผาโตรกผากระกระโจนลงแอ่งขนาดมหึมาด้านล่าง ละอองน้ำฟุ้งกระจายไปทั่วบริเวณ สมกับชื่อน้ำตกหนานน้ำฟุ้งจริงๆ ทุกคนได้ดื่มด่ำกับความสวยงามจนเต็มอิ่ม  จนเวลาบ่ายๆ ทุกคนจึงเดินย้อนกลับมายังจุดพักแรม เพื่อเก็บข้าวของและสัมภาะต่างๆ และที่ขาดไม่ได้ก็คือ การดูแลทำความสะอาดพื้นที่ซึ่งเราตระหนักและให้ความสำคัญอยู่เสมอ

ระหว่างทางก่อนแยกย้ายกันกลับภูมิลำเนา เราได้ร่วมรับประทานอาหารและขี่ช้างชมป่าเป็นของแถม ที่ทางทีมจิ๊ป นครศรีธรรมราช จัดมาเตรียมเอาไว้ต้อนรับ จนเสร็จสิ้นภารกิจทุกคนแยกย้ายเดินทางกลับบ้านอันปลอดภัย

ทริปนี้ ทีมงานออฟโรดทุกคน ต้องขอขอบคุณ นราชัย  ริยาพันธ์  เจ้าหน้าที่ เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่ากะทูน ที่ได้นำทาง  เกรียงศักดิ์  ทองสุข เป็นผู้ประสานงานในการเดินทางเข้าถึงน้ำตกหนานน้ำฟุ้ง และที่ขาดไม่ได้ก็คือ ทีมงานออฟโรดภาคใต้ทุกคน และขอขอบคุณ ที่ต่างหยิบยื่นมิตรภาพและไมตรีจิตรอันงดงามให้แก่กันและกัน  จึงขอขอบคุณมา ณ โอกาสนี้

 

 

 

เรื่อง : ชาย พระแสง

ภาพ : ประสิทธิ์  จิตรหลัง

เรียบเรียงข้อมูลโดย Off Road Magazine

ติดตามข่าวสาร ยานยนต์ รถจักรยานยนต์ รถใหม่ ได้ที่ Off Road Magazine