Mazda ฝ่ามรสุมโควิดครึ่งปีแรกส่งมอบรถ 1.9 หมื่นคัน-ประกาศเสริมทัพทั้งเก๋ง และเอสยูวี

ท่ามกลางสถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด-19 ในช่วงครึ่งปีแรก 2564 Mazda สามารถส่งมอบรถยนต์รุ่นใหม่ให้กับลูกค้าไปแล้วกว่า 19,000 คัน เพิ่มขึ้น 23% (เมื่อเทียบจากช่วงเดียวกันกับปีที่ผ่านมา) โดยเฉพาะรถอเนกประสงค์ครอสโอเวอร์เอสยูวีรุ่นใหม่ล่าสุด CX-3 และ CX-30 ที่เติบโตอย่างต่อเนื่องนับตั้งแต่เปิดตัวแนะนำลงสู่ตลาด พร้อมประกาศยุทธศาสตร์แผนบริหารธุรกิจในครึ่งปีหลัง ด้านผลิตภัณฑ์เตรียมบุกตลาดด้วยรถยนต์รุ่นใหม่ และรถอเนกประสงค์เอสยูวีเสริมทัพอีกเพียบ เดินหน้าปรับนโยบายการบริหารงานให้เหมาะสมกับสถานการณ์ เพื่อช่วยแบ่งเบาภาระของลูกค้าและผู้จำหน่ายให้สามารถก้าวผ่านวิกฤตในครั้งนี้ไปด้วยกัน

คุณชาญชัย ตระการอุดมสุข ประธานบริหารบริษัทมาสด้า เซลส์ (ประเทศไทย) กล่าวว่านับตั้งแต่สถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด-19 ระลอกใหม่ที่เกิดขึ้นมาตั้งแต่ช่วงเดือนเมษายน และขยายออกไปเป็นวงกว้างมากยิ่งขึ้น ทำให้ผู้บริโภคต้องหันมาระมัดระวังเรื่องการใช้จ่ายมากขึ้นกว่าเดิม จนส่งผลกระทบต่ออุตสาหกรรมรถยนต์อย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ ดังนั้นยอดจำหน่ายรถยนต์ในช่วงครึ่งแรกของปี 2564 จึงต่ำกว่าที่คาดการณ์ไว้ โดยภาพรวมของอุตสาหกรรมมียอดสะสมอยู่ที่ 370,000 คัน (ประมาณการ) อย่างไรก็ตามยังสามารถบวกเพิ่มขึ้นถึง 14% เมื่อเทียบกับครึ่งปีแรกของปี 2563 ส่วนครึ่งปีหลังคาดว่าสถานการณ์ของตลาดรถยนต์จะค่อยๆ กลับมาดีขึ้น คาดว่ายอดขายรวมจะไปถึง 800,000 คัน ในขณะที่มาสด้าก็ตั้งเป้าหมายไว้สูงเช่นกันที่ 50,000 คัน หรือเพิ่มขึ้นถึง 30%

ในขณะที่ช่วง 6 เดือนแรกของปี 2564 มาสด้า มียอดจำหน่ายรวมอยู่ที่ 18,908 คัน เพิ่มขึ้น 23% โดยรถยนต์นั่งมียอดจำหน่ายรวมอยู่ที่ 10,895 คัน เพิ่มขึ้น 3% แบ่งออกเป็นมาสด้า2 จำนวน 9,622 คัน เพิ่มขึ้น 3% มาสด้า3 จำนวน 1,270 คัน เพิ่มขึ้น 1% และมาสด้า MX-5 รถสปอร์ตเปิดประทุนมียอดขาย 3 คัน ในขณะที่รถอเนกประสงค์ครอสโอเวอร์เอสยูวีมียอดจำหน่ายรวมที่ 7,347 คัน เพิ่มขึ้น 83% โดยมาสด้า CX-30 ยังคงได้รับความนิยมสูงสุดด้วยยอดจำหน่าย 4,194 คัน เพิ่มขึ้นถึง 124% ตามมาด้วยมาสด้า CX-3 จำนวน 2,231 คัน เติบโตสูงสุดเป็นประวัติการณ์ถึง 299% ในขณะที่มาสด้า CX-8 มียอดจำหน่ายที่ 532 คัน ลดลง 26%, มาสด้า CX-5 จำนวน 390 คัน ลดลง 54% ส่วนปิกอัพมาสด้า บีที-50 มียอดจำหน่าย 666 คัน ลดลง 16%

“จากยอดจำหน่ายข้างต้น เมื่อแบ่งออกเป็นรายไตรมาสจะพบว่ายอดขายไตรมาสแรกระหว่างมกราคม–มีนาคม 2564 มีจำนวน 10,890 คัน เพิ่มขึ้น 7% ส่วนไตรมาสที่สองระหว่างเมษายน–มิถุนายน 2564 มีจำนวน 8,018 คัน เพิ่มขึ้นถึง 53% ซึ่งสอดคล้องกับทิศทางของตลาด นับเป็นหนึ่งในสัญญาณบวกว่าความต้องการซื้อรถยนต์ในประเทศยังคงมีอยู่ แต่อย่างไรก็ตามยังต้องคอยติดตามสถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด-19 อย่างใกล้ชิด เพื่อประเมินแนวโน้มทิศทางและนำมาปรับกลยุทธ์เพื่อประคับประคองธุรกิจในช่วงครึ่งปีหลังให้เดินหน้าไปสู่เป้าหมายที่วางไว้” คุณชาญชัย กล่าวเพิ่มเติม

คุณธีร์ เพิ่มพงศ์พันธ์ รองประธานบริหารอาวุโส กล่าวถึงกลยุทธ์ในการขับเคลื่อนธุรกิจในช่วงครึ่งหลังของปี 2564 แม้จะอยู่ในช่วงสถานการณ์ที่ยากลำบากเช่นนี้ว่า ชาวมาสด้าทุกภาคส่วนขอส่งกำลังแรงใจไปยังพี่น้องคนไทยและผู้ประกอบการทุกท่านให้ก้าวผ่านวิกฤตครั้งนี้ไปด้วยกันอีกครั้ง สำหรับมาสด้าได้มีการปรับแผนงานเพื่อให้สอดรับกับเหตุการณ์ควบคู่ไปกับการสร้างแผนธุรกิจแบบเฉพาะกิจขึ้นมา เพื่อเตรียมพร้อมในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจหลังวิกฤตเริ่มคลี่คลาย มาสด้า ได้ประสานความร่วมมือกับผู้จำหน่ายทั่วประเทศอย่างใกล้ชิด เพื่อปรับนโยบายแบบเร่งด่วนให้เกิดประโยชน์สูงสุดไปยังลูกค้า ทั้งการเอาใจใส่ดูแลลูกค้าปัจจุบันให้ดีที่สุด โดยเฉพาะมาตรการเพื่อแบ่งเบาภาระค่าใช้จ่ายของลูกค้า รวมถึงการมอบสิทธิพิเศษสำหรับลูกค้าใหม่ที่กำลังจะเกิดขึ้น โดยร่วมมือกับทางบริษัทไฟแนนซ์ที่จะเข้ามาซัพพอร์ต อาทิ เงินดาวน์น้อย ขยายระยะเวลาการผ่อนชำระให้ยาวนานที่สุด อัตราดอกเบี้ยต้องต่ำสุด ซึ่งหลายรุ่นมาสด้าจัดดอกเบี้ย 0% รวมถึงการผ่อนชำระต่องวดให้น้อยที่สุด เพื่อแบ่งเบาภาระค่าใช้จ่ายของลูกค้าและสามารถนำรถไปประกอบกิจการให้เกิดประโยชน์สูงสุด

นอกจากนี้ คุณธีร์ เพิ่มพงศ์พันธ์ ยังได้กำหนดยุทธศาสตร์การบริหารงานเพื่อให้เกิดการเติบโตในช่วงวิกฤต เพราะในทุกวิกฤตย่อมมีโอกาสเสมอ โดยมาสด้าได้เตรียมความพร้อมทางด้านกลยุทธ์การบริหารงานในช่วงครึ่งปีหลัง 2564 เพื่อรับมือกับสถานการณ์และวางรากฐานผลักดันให้องค์กรเดินหน้าไปสู่เป้าหมายที่วางไว้ ด้วย 6 องค์ประกอบหลัก ดังนี้

1. ด้านผลิตภัณฑ์ใหม่ เตรียมพร้อมลุยตลาดอย่างเต็มกำลังด้วยการนำเสนอรถยนต์นั่งและรถเอสยูวีรุ่นใหม่ ที่มาพร้อมเทคโนโลยีอันทันสมัย ตอบรับวิถีชีวิตของผู้บริโภคยุคใหม่และสร้างความแตกต่างในตลาด ซึ่งเชื่อว่าจะสามารถเพิ่มศักยภาพการแข่งขันและผลักดันให้มาสด้าเดินหน้าไปสู่เป้าจำหน่ายที่วางไว้ได้

2. ด้านนโยบายส่งเสริมผู้จำหน่าย ปรับนโยบายการบริหารจัดการให้เหมาะสมกับสถานการณ์และให้การสนับสนุนด้านการขายกับผู้จำหน่ายในแต่ละพื้นที่ โดยทำงานร่วมกันอย่างใกล้ชิดภายใต้แนวทางการทำงานเป็นทีม ONE MAZDA เพื่อให้ผู้จำหน่ายถ่ายทอดไปยังลูกค้าให้เกิดประโยชน์สูงสุดและก้าวผ่านวิกฤตนี้ไปได้ด้วยกัน

3. ด้านการตลาดและการสื่อสาร ดึงกลยุทธ์การตลาดแบบออนไลน์มาเป็นแกนหลักในการสื่อสารผ่าน Mazda Online Platform หรือโซเชียลมีเดีย เพิ่มการนำเสนอรูปแบบใหม่ๆ ผ่านสื่อดิจิทัล ส่งเสริมให้ผู้จำหน่ายทำกิจกรรมผ่านระบบออนไลน์มากขึ้น เพื่อให้เหมาะสมกับสถานการณ์และเข้าถึงกลุ่มเป้าหมายได้ดียิ่งขึ้น

4. ด้านการส่งเสริมการขาย จัดแคมเปญส่งเสริมการขายเพื่อให้ลูกค้าสามารถเป็นเจ้าของรถยนต์มาสด้าได้ง่ายขึ้น รวมถึงทำงานร่วมกับสถาบันทางการเงิน ในเรื่องของการปล่อยสินเชื่อเพื่อให้เหมาะสมกับสภาพเศรษฐกิจในปัจจุบันมากที่สุด รวมถึงจัดแคมเปญให้เหมาะสมสำหรับรถแต่ละรุ่น โดยร่วมมือกับพันธมิตรและผู้จำหน่ายจัดกิจกรรมในพื้นที่ต่างๆ ทั่วประเทศเพื่อให้เข้าถึงกลุ่มลูกค้าให้มากที่สุด

5. ด้านเทคโนโลยี การวางรากฐานการทำงานระยะยาวให้เกิดความยั่งยืน ด้วยการนำเอาเทคโนโลยีเข้ามามีบทบาทมากขึ้นในการบริหารงานและติดต่อสื่อสารทั้งภายในและภายนอกองค์กร โดยเฉพาะผู้จำหน่ายต้องปรับตัวเข้ากับการดำเนินธุรกิจในยุคดิจิทัล มาสด้าต้องเป็นองค์กรที่ขับเคลื่อนด้วยเทคโนโลยีและนวัตกรรม พร้อมรับมือกับเทคโนโลยียานยนต์แห่งอนาคตที่กำลังจะเข้าสู่ตลาดประเทศไทยในเร็วๆ นี้

6. ด้านบริการหลังการขาย ยกระดับและพัฒนาการบริการหลังการขายให้มีประสิทธิภาพสูงขึ้นและต้องมีมาตรฐานเดียวกันทั่วประเทศ โดยเฉพาะแผนการขยายเครือข่ายโชว์รูม และศูนย์บริการ รวมถึงศูนย์บริการแบบ MAZDA FAST SERVICE ตรวจเช็กตามระยะแบบเร่งด่วนให้ครอบคลุมทุกพื้นที่ทั่วประเทศ รองรับปริมาณลูกค้าที่เพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว ลดการรอคิว และอำนวยความสะดวกรวดเร็วให้กับลูกค้าที่มาเข้ารับบริการ

นอกจากนี้ Mazda ยังมอบโปรโมชั่นสุดพิเศษเพื่อให้ลูกค้าสามารถออกรถ และเป็นเจ้าของรถมาสด้าทุกรุ่นได้ง่ายขึ้น ภายใต้แคมเปญ BEST DEAL ในระหว่างวันที่ 10–18 กรกฎาคม 2564 ดอกเบี้ยเริ่มต้น 0% ผ่อนนานสูงสุด 60 เดือน พร้อมฟรีประกันภัยชั้นหนึ่ง รับทันทีเครื่องฟอกอากาศ SHARP มูลค่า 2,990 บาท พิเศษสุดเฉพาะลูกค้าที่จองซื้อ CX-5 และ CX-8 (จำนวนจำกัด เฉพาะรุ่น) เลือกรับดอกเบี้ย 0% นาน 84 เดือน หรือผ่อนเริ่มต้นเพียง 15,000 บาทกว่าบาท (อย่างใดอย่างหนึ่ง) พร้อมคูปองน้ำมันมูลค่า 10,000 บาท ณ โชว์รูมมาสด้าทั่วประเทศ

สรุปยอดจำหน่ายรถยนต์มาสด้า ในช่วงครึ่งแรกของปี 2564 เปรียบเทียบกับปี 2563

ข้อมูลการขายรถ มกราคม–มิถุนายน 2564 (คัน) มกราคม–มิถุนายน 2563

(คัน)

เปลี่ยนแปลง

(%)

Mazda2 9,622 9,342 + 3
Mazda3 1,270 1,257 + 1
Mazda CX-3 2,231 559 + 299
Mazda CX-30 4,194 1,873 + 124
Mazda CX-5 390 851 – 54
Mazda CX-8 532 723 – 26
Mazda BT-50 666 797 – 16
Mazda MX-5 3 6 – 50
ยอดรวม 18,908 15,408 + 23

 

เรื่อง: พูนทวี สุวัตถิกุล

ขอบคุณข้อมูล: มาสด้า เซลส์ (ประเทศไทย)

 

Comments are closed, but trackbacks and pingbacks are open.

เราใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของคุณ คุณสามารถศึกษารายละเอียดได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และสามารถจัดการความเป็นส่วนตัวเองได้ของคุณได้เองโดยคลิกที่ ตั้งค่า

Privacy Preferences

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

Allow All
Manage Consent Preferences
  • คุกกี้ที่จำเป็น
    Always Active

    ประเภทของคุกกี้มีความจำเป็นสำหรับการทำงานของเว็บไซต์ เพื่อให้คุณสามารถใช้ได้อย่างเป็นปกติ และเข้าชมเว็บไซต์ คุณไม่สามารถปิดการทำงานของคุกกี้นี้ในระบบเว็บไซต์ของเราได้

  • คุกกี้เพื่อการวิเคราะห์

    คุกกี้ประเภทนี้จะทำการเก็บข้อมูลการใช้งานเว็บไซต์ของคุณ เพื่อเป็นประโยชน์ในการวัดผล ปรับปรุง และพัฒนาประสบการณ์ที่ดีในการใช้งานเว็บไซต์ ถ้าหากท่านไม่ยินยอมให้เราใช้คุกกี้นี้ เราจะไม่สามารถวัดผล ปรับปรุงและพัฒนาเว็บไซต์ได้
    Cookies Details

Save