Lotus เป็นผู้ผลิตรถสปอร์ตอีกรายที่เดินเข้าร่วมวงในตลาดรถเอสยูวี แต่มาพร้อมกับการมองไปถึงอนาคตด้วยการทำเป็นรถเอสยูวีไฟฟ้าออกมาเลยในชื่อ Eletre ซึ่งเป็นครั้งแรกที่ผู้ผลิตรถสปอร์ตจากสหราชอาณาจักรรายนี้ขยับตัวออกมานอกกรอบของรถสปอร์ตที่สร้างชื่อเสียงให้กับตน และเป็นจุดเริ่มต้นรถไฟฟ้า 3 รุ่นที่ทาง Lotus วางแผนจะเปิดตัวออกมาภายในไม่กี่ปีข้างหน้า
ชื่อของ Lotus Eletre ไม่เพียงทำให้รู้สึกถึงการเป็นรถไฟฟ้าเท่านั้น แต่ทางผู้ผลิตรถสปอร์ตจากสหราชอาณาจักรยังเปิดเผยว่ามีความหมายอื่นด้วย เพราะเป็นคำที่ปรากฏในภาษาฮังกาเรียนที่มีความหมายว่า Coming to Life และแสดงถึงการเกิดใหม่ของ Lotus
ในด้านขนาดของรถ Eletre มีความยาว 5,105 มม. กว้าง 3,019 มม. และสูง 1,639 มม. โดยนอกจากรถมาพร้อมกับการออกแบบเพื่อให้เป็นรถสปอร์ตครอสโอเวอร์แล้ว บนตัวรถยังมีจุดเด่นอย่างสปอยเลอร์หลังปลายหลังคาที่แยกเป็น 2 ชิ้น หรือเซ็นเซอร์ LiDAR แบบป็อป-อัพบนหลังคาเพื่อการมองเห็นที่ชัดเจนเมื่อใช้เทคโนโลยีช่วยขับ
ในด้านการขับเคลื่อนทาง Lotus ระบุว่ารถเอสยูวีไฟฟ้าของตนเริ่มต้นด้วยมอเตอร์คู่ให้กำลัง 600 แรงม้า ใช้เวลาไม่ถึง 3 วินาทีเพื่อทำความเร็วจาก 0-100 กม./ชม. และทำความเร็วได้สูงสุด 257 กม./ชม. โดยที่จะมีรุ่นซึ่งใช้มากกว่ามอเตอร์คู่ขับเคลื่อนด้วย
Eletre ยังมาพร้อมกับแพลตฟอร์มสถาปัตยกรรมใหม่ที่รองรับการชาร์จ 800V ซึ่งจะทำให้ใช้เวลา 18 นาทีเพื่อชาร์จไฟจนเต็ม ส่วนแบตเตอรีของรถทางผู้ผลิตระบุว่ามีความจุมากกว่า 100 kWh ที่ให้ระยการเดินทางได้ถึง 600 กิโลเมตรต่อการชาร์จ โดยหากชาร์จไฟกับเครื่องชาร์จ 350 kW จะเดินทางได้ถึง 400 กิโลเมตรด้วยเวลาชาร์จ 20 นาที
ภายในห้องโดยสารของ Eletre ถูกออกแบบเพื่อให้ความรู้สึกโล่ง กว้าง และทันสมัย พร้อมกับใช้พวงมาลัยที่ไม่ใช่ทรงกลม และเต็มไปด้วยการใช้จอขนาดต่างๆ ในห้องโดยสารไม่ว่าจะเป็นจอขนาดเล็กที่ประตูสำหรับแสดงภาพแทนกระจกข้าง จอขนาดใหญ่ตรงกลางสำหรับระบบ Infotainment จอดิจิตอลสำหรับแสดงข้อมูลผู้ขับที่ถูกออกแบบให้เป็นแถบยาวหลังพวงมาลัย และจอในลักษณะแถบยาวที่แผงแดชบอร์ดฝั่งผู้โดยสาร รวมทั้ง Lotus ยังตามกระแสนิยมในปัจจุบันที่มีการใช้วัสดุเพื่อความยั่งยืนมาจากการรีไซเคิลในการแต่งภายในห้องโดยสารด้วย โดยจากภาพที่ทาง Lotus เผยแพร่ออกมาแสดงให้เห็นว่า Eletre มาพร้อมเบาะ 4 ที่นั่งในห้องโดยสาร
ทาง Lotus วางแผนที่จะขายรถเอสยูวีไฟฟ้าของตนในปี 2023 โดยเริ่มที่สหราชอาณาจักร ยุโรป และจีนก่อนภูมิภาคอื่น ส่วนราคายังไม่มีการเปิดเผยออกมา
Comments are closed, but trackbacks and pingbacks are open.