หนึ่งในรถเอสยูวีหรูที่มีชื่อเสียงและเป็นทางเลือกแรกๆ สำหรับการเดินทางบนเส้นทางออฟโรดมายาวนานก่อนที่ความนิยมรถเอสยูวีจะมากขึ้นจนผู้ผลิตรถยนต์ต่างๆ หันมาทำรถสำหรับเส้นทางออฟโรดออกมาเป็นทางเลือกคือ Land Rover Discovery ซึ่งถูกผลิตออกมาทำตลาดตั้งแต่ปี 1989 และในโอกาสที่รถเอสยูวีรุ่นนี้มีอายุครบ 30 ปีทาง Land Rover จึงทำ Discovery Anniversary Edition ออกมาในโอกาสพิเศษนี้ด้วยจำนวนจำกัด 400 คัน
Land Rover Discovery Anniversary Edition ใช้พื้นฐานจากรุ่น Sd6 SE ซึ่งใช้เครื่องยนต์ดีเซล 3,000 ซีซี 306 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 700 นิวตันเมตร มีอัตราเร่งจาก 0-100 กม./ชม. 7.5 วินาที และทำความเร็วสูงสุด 209 กม./ชม. สำหรับขับเคลื่อนล้อทั้ง 4 โดยความพิเศษที่ถูกเพิ่มเติมไปในรุ่นครบรอบ 30 ปีคือเปลี่ยนจากการใช้ล้ออัลลอยขนาด 20 นิ้ววึ่งเป็นอุปกรณ์มาตรฐานในรุ่น SE มาเป็นขนาด 22 นิ้วแบบ 5011 Spark Silver แทน พร้อมกับมีหลังคากระจก Panoramic Glass Roof แบบติดตายตัวเพื่อให้ความรู้สึกที่โล่งในขณะอยู่ในห้องโดยสาร ขณะที่ให้ความเป็นส่วนตัวด้วยกระจกที่เบาะหลังและกระจกหลังรถ Privacy Glass และมาพร้อมกับระบบเสียง Meridian 380W แทนระบบเสียง Enhanced Sound 250W เดิมเพิ่มให้เต็มอิ่มกับความบันเทิงได้มากขึ้น โดยมีสีเมทัลลิกเป็นมาตรฐานซึ่งมีสีของตัวถังให้เลือก 3 สีคือสีดำ Santorini Black, สีเทา Corris Grey Loire และสีเงิน Indus Silver
ส่วนอุปกรณ์มาตรฐานอื่นๆ ใน Anniversary Edition ที่มาจากรุ่น Sd6 SE คือ ระบบ Infotainment แบบ Touch Pro พร้อมจอทัชสกรีนขนาด 10 นิ้วสำหรับการเชื่อมต่อ การควบคุม และความบันเทิงที่สามารถเข้าถึงการปรับตั้งได้ทั้งด้วยการแตะและปัดหน้าจอ กระจังหน้าสีเข้ม Dark Atlas พร้อมกรอบสีดำ Narvik Black และ Park Pack สำหรับช่วยในการจอดรถในพื้นที่แคบหรือในเมืองซึ่งใช้ระบบ 360 Parking Aid และ Rear Traffic Monitor
Land Rover Discovery Anniversary Edition ไม่เพียงจำกัดการผลิตเพียง 400 คันเท่านั้น แต่ยังเป็นเอกสิทธิ์เฉพาะสำหรับคนอังกฤษเท่านั้นด้วย เพราะจะมีการจำหน่ายเฉพาะในอังกฤษโดยตั้งราคาไว้ที่ 59,995 ปอนด์
Comments are closed, but trackbacks and pingbacks are open.