เมื่อเดือนมิถุนายนที่ผ่านมาทาง Jeep ได้เผยแพร่ภาพของ Cherokee รุ่นใหม่เจเนเรชันที่ 6 ออกมา ซึ่งตอนนี้รถเอสยูวีรุ่นใหม่ถูกเผยโฉมอย่างเป็นทางการแล้วก่อนที่จะมีการส่งมอบรถปลายปีนี้ โดยเป็นการกลับสู่ตลาดอีกครั้งของรถรุ่นนี้หลังจากหายหน้าไปจากตลาดตั้งแต่ปี 2023
Jeep Cherokee ใหม่อยู่บนแพลตฟอร์ม STLA Large มีขนาดตัวรถยาว 4,778 มม. กว้าง 2,123 มม. สูง 1,715 มม. ส่วนระยะฐานล้อของรถมีความยาว 2,870 มม. ในขณะที่ดีไซน์ของรถมีบางส่วนที่พอจะให้กลิ่นไอของเจเนเรชันที่สองอยู่บ้างอย่างกระจังหน้าขนาดเล็กที่ตั้งตรงและไฟหน้าสี่เหลี่ยมขนาดเล็ก และตัวถังด้านข้างของรถเน้นเหลี่ยมสันอย่างชัดเจน แต่มีความทันสมัยด้วยมือจับเปิดประตูแบบ Flush-mount ในขณะที่ด้านหลังของรถมีไฟท้ายทรงสี่เหลี่ยมผืนผ้า
นอกจากรถยังมีทั้งกันชนหน้า คิ้วกันกระแทกที่ประตู ซุ้มล้อ และกันหลังสีดำ ส่วนล้อของรถมีขนาด 17 ถึง 20 นิ้วมากับยาง Nexen Roadian GTX หรือยางออล–ซีซัน Pirelli Scorpion MS ขึ้นอยู่กับเกรดของรถ โดยรถมีความสามารถในการลุยด้วยมุมไต่ 19.6 องศา มุมจาก 29.4 องศา และมุม Breakover หรือมุมสูงสุดที่สามารถขับผ่านเนินได้ 18.8 องศา ขณะที่ความสูงของใต้ท้องรถจากพื้นอยู่ที่ 203 มม. ซึ่งทางผู้ผลิตรถยนต์อเมริกันอ้างว่ารถเอสยูวีรุ่นใหม่ของตนมีมุมไต่และมุมจากดีที่สุดในรถระดับเดียวกัน
ห้องโดยสารของรถผสานความคลาสสิก เทคโนโลยี และความสะดวกสบายด้วยพวงมาลัยทรง 8 เหลี่ยม โดยมีจอแสดงข้อมูลการขับขนาด 10.25 นิ้วอยู่ด้านหลัง ส่วนจอ Infotainment มีขนาด 12.3 นิ้ว รองรับ Apple CarPlay และ Android Auto ไร้สาย โดยนอกจากรถมีสวิตช์เลือกระบบขับเคลื่อและโหมด Selec-Terrain สำหรับการลุยสถานการณ์ต่างๆ ที่คอนโซลกลางแล้ว การปรับควบคุมต่างๆ จะอยู่ที่จอ Infotainment ส่วนการควบคุมระบบปรับอากาศเป็นแบบสัมผัส
วัสดุที่ใช้ในห้องโดยสารเน้นเป็นความมิตรกับสิ่งแวดล้อมด้วยไวนิล Capri พร้อมมีลายรูระบายอากาศเฉพาะในบางเกรดของรถ นอกจากนี้ยังใช้วัสดุรีไซเคิลร่วมกับวัสดุในบางจุดของห้องโดยสารอย่างบุหลังคา พรมปูพื้น และชิ้นส่วนต่างๆ ขณะที่ความจุของพื้นที่เก็บสัมภาระด้านหลังอยู่ที่ 962 ลิตร และเพิ่มได้ถึง 1,934 ลิตรเมื่อพับเบาะแถวที่สอง
ขุมกำลังของรถเป็นเครื่องยนต์ 4 สูบ 1.6 ลิตรเทอร์โบ 177 แรงม้า แรงบิด 300 นิวตัน–เมตร พร้อมระบบไฮบริดที่ประกอบด้วยมอเตอร์ไฟฟ้าคู่ แบตเตอรี 1.08 kWh และระบบส่งกำลังซีวีทีควบคุมด้วยอีเล็กทรอนิก ทำให้มีกำลังขับเคลื่อนรวม 210 แรงม้า แรงบิด 312 นิวตัน–เมตรโดยรถมาพร้อมระบบขับเคลื่อนทุกล้อพร้อมการทำงานตัดการส่งกำลังที่เพลาหลังเป็นอุปกรณ์มาตรฐานเช่นเดียวกับระบบช่วยขับต่างๆ
รถเอสยูวีรุ่นใหม่มี 4 เกรดแต่งให้เลือกที่สหรัฐอเมริกา ราคาเริ่มต้น 36,995 ดอลลาร์ โดยจะเริ่มการส่งมอบรถตั้งแต่ช่วงปลายปีนี้
เรื่อง : กองบรรณาธิการ
เรียบเรียงข้อมูลโดย Off Road Magazine
ติดตามข่าวสาร ยานยนต์ รถใหม่ ได้ที่ Off Road Magazine
Comments are closed, but trackbacks and pingbacks are open.