Jeep Avenger e-Hybrid เพิ่มขุมพลังไฮบริดเป็นทางเลือกใหม่สำหรับยุโรป
เดือนตุลาคมปีที่แล้ว Jeep เปิดตัวรถเอสยูวีขนาดกะทัดรัดรุ่น Avenger ที่ออกแบบสำหรับยุโรปออกมาพร้อมกับระบบขับเคลื่อนไฟฟ้า ผ่านมาหนึ่งปีกว่ารถเอสยูวีรุ่นนี้มีระบบขับเคลื่อนไมลด์ไฮบริดเพิ่มเข้ามาเป็นทางเลือกในชื่อ e-Hybrid และจะเริ่มทำตลาดตั้งแต่เดือนพฤศจิกายนนี้
ระบบขับเคลื่อนไฮบริดของ Jeep Avenger e-Hybrid เป็นเครื่องยนต์ 3 สูบ 1.2 ลิตร กำลัง 100 แรงม้า แรงบิด 205 นิวตัน-เมตร พร้อมกับใช้ชุดเกียร์ดูอัลคลัตช์ 6 สปีดซึ่งมีมอเตอร์ไฟฟ้า 21 kW แรงบิด 55 นิวตัน-เมตร อินเวอร์เตอร์ และระบบส่งกำลังกลางรวมอยู่ด้วย และใช้แบตเตอรีลิเธียมไอออน 48-โวลต์ ส่วนสมรรถนะของรถใช้เวลา 11 วินาทีเพื่อทำความเร็วจาก 0-100 กม./ชม.
ทางผู้ผลิตระบุว่าระบบไฟฟ้าของรถจะช่วยเพิ่มแรงบิดที่ช่วงความเร็วต่ำ รวมทั้งทำให้มีความเงียบและการตอบสนองที่ดีเมื่อสตาร์ตรถ นอกจากนี้ยังมีการทำงาน e-creeping ที่ใช้เฉพาะพลังงานไฟฟ้าในการเคลื่อนที่ไปด้านหน้าระยะทางสั้นๆ โดยไม่เหยียบคันเร่ง อย่างเช่นในสถานการณ์ที่การจราจรติด รวมทั้งการทำงานใช้เฉพาะไฟฟ้าในการจอดรถ e-parking ในขณะที่การชาร์จไฟให้กับแบตเตอรีมาจากการเก็บพลังงานจากการลดความเร็วของรถ
รถเอสยูวีไฮบริดรุ่นใหม่ยังมาพร้อมกับฟีเจอร์ต่างๆ อย่างหลังคา Open-Air Sky Roof เพื่อการเปิดรับอากาศภายนอกของผู้ขับและผู้โดยสาร การทำงานนวดที่เบาะหนัง ส่วนห้องโดยสารของรถมีหน้าจอแสดงข้อมูลผู้ขับขนาด 7 นิ้วถึงขนาด 10.25 นิ้ว พร้อมมีแป้นชิฟต์เกียร์ที่พวงมาลัยเป็นอุปกรณ์มาตรฐาน
สำหรับเกรดแต่งมีให้เลือก 3 เกรดคือ Longitude ซึ่งเป็นเกรดพื้นฐานมากับอุปกรณ์ต่างๆ อย่างล้ออัลลอยขนาด 16 นิ้ว จอขนาด 7 นิ้ว เกรด Attitude มีอุปกรณ์มาตรฐานอย่างล้ออัลลอยขนาด 17 นิ้ว จอขนาด 10.25 นิ้ว และเกรด Summit ที่มีล้อขนาด 18 นิ้วเป็นอุปกรณ์มาตรฐานร่วมดับอุปกรณ์อื่น ส่วนราคาของรถทางผู้ผลิตไม่ได้ระบุออกมา
เรื่อง : กองบรรณาธิการ
เรียบเรียงข้อมูลโดย Off Road Magazine
ติดตามข่าวสาร ยานยนต์ รถจักรยานยนต์ รถใหม่ ได้ที่ Off Road Magazine
Comments are closed, but trackbacks and pingbacks are open.