อีซูซุ กับทริปแอ่วเหนือสุดพีค หลายอารมณ์เส้นทางเชียงใหม่-เชียงรายกับ MU-X “THE NEXT PEAK”

อีซูซูจัดทริปพาสื่อมวลชนแอ่วเหนือแบบพีคๆ ในเส้นทางเชียงใหม่ – เชียงราย กับมิว-เอ็กซ์ “เดอะ เน็คซ์พีค” รถยนต์อเนกประสงค์ระดับหรูรุ่นใหม่ล่าสุดที่เปิดตัวไปเมื่อเดือนมิถุนายนที่ผ่านมา และกำลังได้รับความนิยมเป็นอย่างสูง รวมทั้งสิ้น 7 คัน ขับรถทางไกล ระยะทางรวมกว่า 250 กิโลเมตร

โดยทริปนี้เริ่มต้นที่จังหวัดเชียงใหม่ สถานที่แรกที่เริ่มในทริปนี้คือ The Baristro Asian Style คาเฟ่ไม้ตกแต่งสวยงาม ได้รับแรงบันดาลใจมาจากความเป็นญี่ปุ่นแบบดั้งเดิม นอกจากนี้ยังผสมผสานศิลปะการตกแต่งแบบเอเชี่ยนสไตล์จากหลากหลายที่ ให้เห็นถึงความงดงามของการออกแบบที่อิงจากความเป็นเอเชีย รวมถึงอาคารไม้ที่ตกแต่งสไตล์ล้านนา งานไม้ที่นี่มีความเป็นญี่ปุ่น และเกาหลี ผสมผสานอยู่ด้วยกันมารวมไว้ที่เดียว

นอกจากจะโดดเด่นในเรื่องการตกแต่งและสไตล์ที่ชัดเจนแล้ว กาแฟและเครื่องดื่ม จาก The Baristro ถือเป็นอีกหนึ่งสิ่งที่การันตีคุณภาพได้เป็นอย่างดี อีกทั้งยังมีโซน Slow Bar ที่เปิดให้ทุก ๆ ท่าน ได้เข้ามานั่งดูวิธีการทำดริปกาแฟ และ มัจฉะกันอย่างใกล้ชิด หลังจากจิบชา กาแฟ และถ่ายรูปเก๋ ๆ กันเสร็จแล้วก็ออกเดินทางมุ่งหน้าไปยังจังหวัดเชียงราย ด้วยถนนหมายเลข 118 ระทางกว่า 146 กิโลเมตร เป็นเส้นทางที่โค้งเยอะ ฝนตกตลอดทาง และมีการก่อสร้างถนนในบางช่วง แต่ยังสามารถขับขี่ได้อย่างอุ่นใจด้วยเทคโนโลยีระบบความปลอดภัย Active & Passive Safety ที่จะช่วยควบคุมการทรงตัวและช่วยออกตัวบนทางลาดชันตลอดเส้นทาง เพิ่มการขับขี่ให้มั่นใจยิ่งขึ้น รวมถึงพวงมาลัยไฟฟ้าใหม่ ที่ช่วยให้การขับขี่ทางไกล สบายมากยิ่งขึ้น

หลังจากขับผ่านเส้นทางโค้งยาวก็ถึงร้านภูน้ำสรวย ร้านอาหารริมเขื่อนแม่สรวย จังหวัดเชียงราย ถือว่าเป็นร้านที่บรรยากาศที่รสชาติเด็ด มีความเข้มข้นและจัดจ้านทุกจาน โดยเมนูที่พลาดไม่ได้เลยก็คือ ฉู่ฉี่ปลาเนื้ออ่อน ต้มยำปลาคัง และกุ้งฝอยทอด ถือว่าเป็นเมนูยอดฮิตประจำร้านที่ใครมาก็เป็นต้องสั่ง ส่วนวิวที่ร้าน ล้อมรอบไปด้วยเขื่อนและภูเขา ถือว่าวิวดีมาก ๆ

เมื่ออิ่มท้องกันแล้วก็ได้เวลาออกลุยกันต่อกับเส้นทางอีก 124 กิโลเมตร มุ่งหน้าไปยัง อนันตรา สามเหลี่ยมทองคำ แคมป์ช้าง แอนด์ รีสอร์ท รีสอร์ตที่ตั้งอยู่บนเขาสามารถมองเห็นวิวของ 3 ประเทศคือ ไทย ลาวและพม่า ในจุดที่แม่น้ำโขงและแม่น้ำรวกไหลมาบรรจบกัน หันหน้าออกทางแม่น้ำและสามเหลี่ยมทองคำ ตัวรีสอร์ทตั้งอยู่ท่ามกลางธรรมชาติที่สมบูรณ์เหมาะแก่การพักผ่อนอย่างยิ่ง และในช่วงเย็นทางรีสอร์ตได้เตรียมอาหารไว้รองรับอย่างดี เป็นบุพเฟ่ต์ดินเนอร์ที่มีอาหารหลากหลายสัญชาติ รวมถึงอาหารท้องถิ่นของภาคเหนือ อย่างข้าวซอยไก่ หรือไส้อั่ว น้ำพริกหนุ่ม ให้ได้อิ่มท้องกัน พร้อมกันนี้ระหว่างรับประทานอาหาร อีซูซุก็ได้จัดกิจกรรมมอบรางวัลและของที่ระลึกสุดเอ็กซ์คลูซีฟ ซึ่งเป็นลายเซ็นจากผู้ออกแบบรถมิว-เอ็กซ์ คันที่นำมาร่วมทริปในครั้งนี้ เรียกได้ว่า ส่งตรงมาจากญี่ปุ่นกันเลยทีเดียว ถือเป็นการจบวันที่ทั้งสนุกและสวยงาม

เช้าวันที่ถัดมาที่ อนันตรา สามเหลี่ยมทองคำ แคมป์ช้าง แอนด์ รีสอร์ท ยังมีอีกหนึ่งความพิเศษในการมาพักที่นี่คือ การไปเดินป่ากับช้าง ใช้เวลาประมาณ 1 ชั่วโมง โดยมีควาญช้างดูแลตลอดกิจกรรม พร้อม Specialist คอยให้ข้อมูลและอธิบายเกี่ยวกับมูลนิธิโกลเด้น ไทรแองเกิ้ล เอเชียน เอเลเฟนท์ (Golden Triangle Asian Elephant Foundation : GTAEF) ที่ก่อตั้งขึ้นในปี 2549 โดยกลุ่มโรงแรมอนันตรา เพื่อช่วยเหลือและพัฒนาคุณภาพชีวิตช้างในประเทศไทยและแถบเอเชีย โดยได้เข้ามาช่วยแก้ปัญหาช้างเร่ร่อน และการลดจำนวนช้างบนท้องถนน โดยการใช้ระบบเช่าช้าง เป็นการจ้างงานควาญช้าง ให้นำช้างและครอบครัวมาอาศัยอยู่ที่แคมป์ช้าง มีค่าตอบแทนเป็นเงินเดือน สวัสดิการรักษาพยาบาล และการศึกษาแก่ครอบครัวที่มีบุตร ซึ่งจะทำให้ควาญช้างไม่จำเป็นต้องเร่ร่อนหาเงินอีกต่อไป ถือเป็นการมาพักผ่อนที่ได้ทั้งสุขกายและใจเลยทีเดียว

หลังจากนั้นมุ่งหน้าไปร้านอาหารกลางวันที่ ร้านเบลนด์สุข คาเฟ่สไตล์ฟาร์มที่เต็มไปด้วยแปลงผักออร์แกนิคที่ทางร้านปลูกผักไว้เป็นวัตถุดิบในการปรุงอาหาร นอกจากจะปลูกเองแล้วก็ยังมีการอุดหนุนผลผลิตจากเกษตรกรในชุมชน เพื่อสร้างรายได้ให้กับชุมชนโดยรอบอีกด้วย เรียกได้ว่าเป็นพื้นที่แห่งการปันสุขอย่างแท้จริง

ต่อด้วยร้าน Error Smith ที่เป็นทั้งคาเฟ่และ Gallery Art ในสถานที่เดียวกัน ภายในร้านจะตกแต่งเต็มไปด้วยงานศิลปะ และครั้งนี้ทางอีซูซุได้ร่วมกับทางร้านจัดกิจกรรมเพ้นท์เสื้อ MU-X “THE NEXT PEAK” แบบ เอ็กซ์คลูซีฟให้ทุกคนได้รังสรรค์ศิลปะในแบบของตัวเองลงในเสื้อ MU-X ได้อย่างไม่จำกัดจินตนาการ ใส่ทุกความสนุกในทริปนี้ลงไป จบทริปด้วยความสุขตลอดการเดินทางในรถอเนกประสงค์ MU-X “THE NEXT PEAK” ที่ทำให้การท่องเที่ยวครั้งนี้สมบูรณ์แบบที่สุด

MUX THE NEXT PEAKรุ่น RS การออกแบบครั้งใหม่! ในคอนเสป THE PEAK OF RS DESIGN ที่พลิกโฉม MU-X ให้โดดเด่น และสปอร์ต ผ่านเส้นสายที่มีความ DYNAMIC รอบคันมาพร้อมสีสันอันเป็นเอกลักษณ์เฉพาะ สีใหม่! สีเทา ไอเกอร์ โอเพค (Eiger Gray Opaque) เร้าใจด้วยชุดกันชนหน้าแบบ Fighter Jet มาพร้อมกล้องรอบคัน 360 องศา (360° Surround View Camera) ภาพคมชัดระดับพรีเมี่ยม เพิ่มความมั่นใจเหนือกว่าด้วยมุมมองใต้ท้องรถ ขับสบายด้วยพวงมาลัยไฟฟ้า และเสริมความปลอดภัยเหนือขั้น ด้วยระบบช่วยเหลือผู้ขับขี่ ADAS Generation ล่าสุด!

เติมความสปอร์ตด้วยล้ออัลลอยใหม่! RS Design ขนาด 20 นิ้ว เพิ่มความสปอร์ตด้วย Fender Garnish สีดำ และ Side Garnish สัญลักษณ์ RS ภายในดีไซน์บรรยากาศภายในห้องโดยสารให้พีคกว่าเดิมด้วยโทนสีดำ พร้อมตกแต่งด้วย Matte Silver Garnish เพอร์เฟกต์ทุกองศา ด้วยเบาะนั่งดีไซน์สปอร์ต นั่งสบายโอบรับสรีระ พร้อมโดดเด่น ด้วยการเดินด้ายสี LIME GREEN และสัญลักษณ์ RS บนหัวเบาะ เสริมความสะดวกสบายด้วยเทคโนโลยีล้ำหน้าที่เหนือไปอีกขั้นกับ Infotainment Display ขนาด 9 นิ้ว แบบสัมผัส รองรับ Wireless Android Auto & Wireless Apple CarPlay พร้อม Multitasking System เชื่อมต่อข้อมูลกับ Integrated MID แสดงผลได้หลากหลายฟังก์ชัน เช่น ระบบช่วยเหลือผู้ขับขี่ ADAS การแสดงสถานะของระบบขับเคลื่อน ระบบแสดงองศามุมปีนไต่ ลาดเอียง และทิศทางการเลี้ยวของล้อ และอื่น ๆ ที่นั่งโดยสาร 7 ที่นั่ง เบาะคู่หน้าปรับไฟฟ้า ฝั่งคนขับปรับได้ 8 ทิศทาง และเบาะนั่งตอน 2 และตอน 3 ปรับเอนได้พร้อมพับได้ราบสนิท เพิ่มพื้นที่เก็บของ เข้าออกที่นั่งตอน 3 แบบ One Touch ฝาท้ายเปิด-ปิดด้วยระบบไฟฟ้าและหยุดเมื่อมีสิ่งกีดขวางด้วยระบบ Jam Protection

 

โดยในเรื่องของการขับขี่บนเส้นทางจากเชียงใหม่ไปยังเชียงราย ต้องเจอกับสภาพถนนที่หลากหลาย ทั้งทางเปียก ทางฝุ่น โคลน ทางลูกรัง แทบจะไม่เจอทางแห้งๆ กันเลย แถมยังเจอฝนตกกันเกือบตลอดทั้งเส้นทาง ต้องยอมรับว่าในเรื่องของการปรับจูนระบบช่วงล่างของ MU-X “THE NEXT PEAK” ทำได้ดีมากกว่ารุ่นก่อนหน้านี้อย่างสิ้นเชิง โดยเฉพาะการขับด้วยความเร็วบนทางเปียกที่ทำให้ขับได้มั่นใจขึ้นมาก อาการท้ายรถเบาและส่ายที่เคยเกิดขึ้นไม่มีอีกแล้ว มีแต่ความนุ่มสบาย และที่ต้องชื่นชมคือ พวงมาลัยไฟฟ้าที่มีน้ำหนักเบา ซึ่งไม่ได้เบาจนเกินไป เบาในน้ำหนักที่ควบคุมได้มั่นใจ ผู้หญิงชอบน้ำหนักพวงมาลัยแบบนี้ ในขณะที่ผู้ชายขับก็ไม่ได้รู้สึกว่ามันเบาจนเกินไป นั่นทำให้อารมณ์ในการขับขี่บนพื้นผิวถนนที่มีความหลากหลายทำได้สะดวกสบายและปลอดภัยมากขึ้นไปด้วยนั่นเอง

เป็นการปรับโฉมที่นอกจากจะดูโฉบเฉี่ยวทันสมัยและน่ามองแล้ว สมรรถนะการขับขี่ยังถือว่าดีขึ้นมากกว่าเดิมเยอะมาก เป็นรถอเนกประสงค์ที่ทุกคนในครอบครัวสามารถขับใช้งานในแบบท่องเที่ยวได้อย่างสบาย และมีจุดหนึ่งที่น่าประหลาดใจคือ ด้วยยาง Bridgestone dueler H/T ที่ติดรถมา ตามสเปคให้เติมลมยางเพียง 29 psi เท่านั้น ก่อนขับยังรู้สึกกังวลอยู่ว่าลมยางน้อยขนาดนี้ขับแล้วจะโอเคเหรอ? แต่พอขับใช้งานจริงๆ กลับกลายเป็นว่าเหมือนขับบนลมยางที่แข็งกว่านี้ จากการสอบถามพอได้เรื่องมาว่า ด้วยเทคโนโลยีการผลิตยางยุคใหม่ แก้มยางและคุณภาพเนื้อยางมีประสิทธิภาพที่สูงขึ้นกว่าอดีต ทางบริดจสโตนได้แนะนำมาเลยว่า ต้องเติมลมยางตามสเปคนี้จะทำให้การขับขี่ดีที่สุด ซึ่งหากเติมลมยางแข็งขึ้น จะทำให้การควบคุมไม่ได้สมรรถนะเท่ากับสเปคที่ตั้งเอาไว้กับยางแบบนี้ ถือว่าเป็นความรู้ใหม่กันเลย แต่ที่สำคัญการขับขี่แบบใช้งานจริงมันทำได้ดีมากๆ เลยทีเดียว ยางรีดน้ำได้ดีมาก มั่นใจสุดๆ ทำให้ทริปการเดินทางบนเส้นทางที่หลากหลายแบบนี้ MU-X “THE NEXT PEAK” เป็นรถอเนกประสงค์ที่ตอบโจทย์การใช้งานในแบบท่องเที่ยวอย่างนี้มากๆ จริงๆ

พบกับ MU-X “THE NEXT PEAK” ได้ที่โชว์รูมอีซูซุทั่วประเทศ หรือติดตามข่าวสารของอีซูซุเพิ่มเติมได้ที่ www.isuzu-tis.com หรือ LINE: @isuzuthai

 

เรื่อง : พุทธิ ผาสุข

Comments are closed, but trackbacks and pingbacks are open.

เราใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของคุณ คุณสามารถศึกษารายละเอียดได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และสามารถจัดการความเป็นส่วนตัวเองได้ของคุณได้เองโดยคลิกที่ ตั้งค่า

Privacy Preferences

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

Allow All
Manage Consent Preferences
  • คุกกี้ที่จำเป็น
    Always Active

    ประเภทของคุกกี้มีความจำเป็นสำหรับการทำงานของเว็บไซต์ เพื่อให้คุณสามารถใช้ได้อย่างเป็นปกติ และเข้าชมเว็บไซต์ คุณไม่สามารถปิดการทำงานของคุกกี้นี้ในระบบเว็บไซต์ของเราได้

  • คุกกี้เพื่อการวิเคราะห์

    คุกกี้ประเภทนี้จะทำการเก็บข้อมูลการใช้งานเว็บไซต์ของคุณ เพื่อเป็นประโยชน์ในการวัดผล ปรับปรุง และพัฒนาประสบการณ์ที่ดีในการใช้งานเว็บไซต์ ถ้าหากท่านไม่ยินยอมให้เราใช้คุกกี้นี้ เราจะไม่สามารถวัดผล ปรับปรุงและพัฒนาเว็บไซต์ได้
    Cookies Details

Save