Isuzu D-Max Blue Power บุกเมืองมัลลิกา พาท่องเมืองวัฒนธรรมและวิถีชีวิต

หลังจากประสบความสำเร็จอย่างสูง จากการเปิดตัว “อีซูซุดีแมคซ์ บลูเพาเวอร์” นวัตกรรมเปลี่ยนโลก เมื่อปลายปี พ.ศ.2558 ทางอีซูซุก็เดินหน้าต่อยอดความสำเร็จอย่างต่อเนื่อง ล่าสุดจัดการส่ง  Isuzu D-Max V-Cross Max 4×4 ลุยตลาดออฟโรด ตอบโจทย์คนรุ่นใหม่ที่ชอบชีวิตอิสระ ที่ไร้ขีดจำกัด

ซึ่ง Isuzu D-Max 2017 ทั้งรุ่น 1.9 และ 3.0 ddi BluePower ได้รับการเติมเต็มความสมบูรณ์แบบด้วยจุดเปลี่ยนใหม่ของดีไซน์ที่หรูหรา พร้อมความสะดวกสบายด้วยฟังก์ชั่นและเทคโนโลยีการใช้งาน และความปลอดภัยที่มากขึ้น โดยเฉพาะในรุ่น 3.0 V-Cross Max 4×4 นั้น จัดหนัก จัดเต็ม เอาใจขาลุยโดยตรง

รุ่น 3.0 V-Cross Max 4×4 มีการดีไซน์​ภายนอก ให้ดูดุดันขึ้นรอบคันตามแบบฉบับออฟโ​ร​​ด​ โดยเน้นไปที่โทนเทาดำ ทั้งโลโก้ V-Cross ด้านข้างประตู กระจกมองข้าง กรอบไฟตัดหมอก ราวเหล็กหลังคา บันไดข้าง กันชนท้าย คิ้วขอบฝากระโปรงหน้า และกระจังหน้าโทนเทาดำและ Blackout เสาข้างประตู  ไฟหน้าโปรเจคเตอร์ พร้อม SILVER RING รวมทั้งล้ออัลลอยดีไซน์พิเศษ ขนาด 18 นิ้ว 6 ก้าน เต็มอารมณ์ออฟโรด

ส่วนภายใน​ ใช้เบาะนั่งกึ่งหนังแท้สไตล์ทูโทน น้ำตาล-เทา เดินด้ายสีส้มรอบตัวเบาะ พร้อมโลโก้ V-Cross ระบบปรับไฟฟ้า 6 ทิศทางด้านคนขับ เบาะหลังมีที่วางแขนในตัว และแยกปรับพับได้แบบ 60:40 พร้อมจุดยึดที่นั่งสำหรับเด็ก พวงมาลัยแบบ Dual Sport Pattern เดินด้ายสีส้ม พร้อมสวิตช์ Multifunction ดีไซน์ขอบข้างประตู สี Bronze Metallic ต่อเนื่องกับมือจับประตูด้านในสีโครม ชุดตกแต่งคอนโซลกลาง สี Piano Black ที่พักแขนแบบ Soft Pad ที่คอนโซลกลางและข้างประตู ให้ความรู้สึกเดียวกับรถยนต์นั่งระดับหรู

ช่อง USB ชาร์จไฟ ขนาด 5 โวลต์ 1 แอมป์ 2 จุดที่ด้านหน้าและด้านหลังคอนโซลกลาง ระบบควบคุมความเร็วอัตโนมัติ Cruise Control เสริมด้วยชุดความบันเทิงจาก KENWOOD พร้อม Built-in Navigator ขนาดใหญ่ 7 นิ้ว มีระบบ Air Mirroring รองรับการเชื่อมต่อแบบไร้สายกับสมาร์ทโฟน ผ่าน Wifi Dongle เล่นได้ทั้ง CD/DVD/MP3/WMA/AAC จุดเชื่อมต่อ USB รองรับทั้งเครื่องเล่น MP3, Flash Drive และสมาร์ทโฟน พร้อมกล้องมองภาพด้านหลังขณะถอยจอด Built-in มีเส้นกะระยะ Lane Guide ระบบ Bluetooth เชื่อมต่อระบบโทรศัพท์ พร้อมฟังก์ชั่น ฟังเพลงผ่านบลูทูธ พร้อมความบันเทิงเต็มพิกัด ด้วยมิติเสียงสมจริงรอบทิศทางถึง 8 ลำโพง และ Roof Speaker ลำโพงพิเศษบนเพดาน

​ด้านเครื่องยนต์ ก็ใช้เครื่องยนต์อีซูซุ 3.0​ ดีดีไอ บลูเพาเวอร์ ขนาด 3,000 ซี.ซี. ให้กำลัง 177 แรงม้า แรงบิดสูงแบบต่อเนื่อง (High Flat-torque) 380 นิวตันเมตร ที่ 1,800-2,800 รอบ/นาที  มีให้เลือกทั้งแบบเกียร์ออโตเมติก 6 สปีด พร้อมโหมดการขับขี่แบบสปอร์ต Rev Tronic สามารถเลือกเปลี่ยนเกียร์ได้แบบเกียร์ธรรมดา และเกียร์ธรรมดา 5 สปีด ส่งกำลังแบบ GENIUS SPORT SHIFT ในรุ่นเกียร์ธรรมดา มีไฟบอกตำแหน่งเกียร์ และแจ้งเตือนให้เปลี่ยนเกียร์ในรอบและความเร็วที่เหมาะสม ส่วนระบบปรับเปลี่ยนการขับเคลื่อนก็เป็นแบบไฟฟ้า สวิตช์ปรับระบบการขับเคลื่อนระหว่าง 2 ล้อ และ 4 ล้อ ด้วยระบบมอเตอร์ไฟฟ้า ให้ความแม่นยำสูง ปรับเปลี่ยนง่าย สะดวก รวดเร็ว เลือกใช้งานได้ถึง 3 รูปแบบ คือ 2H, 4H และ 4L ตามสภาพถนน นอกจากนี้ยังมี HDC (Hill Descent Control) ระบบควบคุมความเร็วขณะลงทางลาดชัน เสริมความปลอดภัยให้กับผู้ขับขี่อีกด้วย

นั่นคือข้อมูลคร่าวๆ ของรถกระบะคันเก่งจากค่ายอีซูซุ ซึ่งใครที่สนใจติดต่อสอบถามและเข้าไปทดลองขับได้ที่โชว์รูมใกล้บ้านท่าน

เพื่อเป็นการตอกย้ำสมรรถนะอันยอดเยี่ยมของ Isuzu D-Max​ Blue Power Press Trip 2017 เมื่อวันที่ 31 มกราคม-1 กุมภาพันธ์ 2560 ที่ผ่านมา ทางอีซูซุได้พาคณะสื่อมวลชนมากกว่า 30 ชีวิต เดินทางท่องเที่ยวและทดสอบกระบะคันเก่งไปที่เมืองมัลลิกา ที่ตั้งอยู่ตรงปากทางเข้าปราสาทเมืองสิงห์ ต.สิงห์ อ.ไทรโยค จ.กาญจนบุรี

เมืองมัลลิกา ร.ศ. 124 ถือเป็น Landmark แห่งใหม่ของ อ.ไทรโยค จัดสร้างขึ้นโดย พลศักดิ์ ประกอบ ภายในเนื้อที่กว่า 60 ไร่ เป็นเมืองแห่งวัฒนธรรมและวิถีชีวิตที่จะพาทุกคนย้อนเวลานับ 100 ปี ไปสัมผัสรากเหง้าความเป็นไทยอย่างแท้จริง ผ่านงานสถาปัตยกรรมและวิถีชีวิตของชาวสยามในอดีต ในช่วงปลายรัชสมัยสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว (ร.5) หลังจากมีการประกาศเลิกทาส

ภายในเมือง ประกอบไปด้วยเรือนไทย 4 ประเภท คือ เรือนเดี่ยว เรือนหมู่ เรือนคหบดี และย่านการค้า หลังจากก้าวผ่านประตูเข้าสู่เมืองมัลลิกาแล้ว ก็เห็นชาวเมืองต่างโจงกระเบนและผ้าแถบรัดอกสีน้ำตาลเข้ม-อ่อน พร้อมพูดจา “เจ้าค่ะ” “ขอรับ” เชื้อเชิญให้ลองชิมอาหาร ถัดจากย่านการค้าบนบก ก็จะเป็นบรรยากาศของเรือนแพ ย่านการค้าทางน้ำ เรือนแพเหล่านี้ปลูกไว้ริมน้ำรายล้อมไปด้วยร้านค้ามากมาย อีกหนึ่งร้านที่ห้ามพลาดคือ ร้านกาแฟตงฮู ซึ่งได้ชื่อว่าเป็นร้านกาแฟที่ทันสมัยที่สุดในยุคนั้น ถัดมาคือ ร้านข้าวแกงที่สร้างจุดขายได้อย่างน่าสนใจ ด้วยการนำเมนูข้าวแกงที่รัชกาลที่ 5 ทรงโปรด

ส่วนฝั่งตรงข้ามนั้นคือ เรือนเดี่ยว ที่อยู่ของชนชั้นกรรมาชีพและชาวนา ที่ยังชีพด้วยการ ทำไร่ ทำนา ทำสวน ปลูกผัก ณ เรือนนี้ ถัดมาคือ เรือนคหบดี ซึ่งเป็นที่อยู่ของชนชั้นปกครอง เรือนแห่งนี้จะเน้นงานไปที่งานฝีมือต่างๆ  สะท้อนวิถีชีวิตการทำอาหารอย่างวิจิตรงดงามของคนสมัยก่อน เช่น การหุงข้าวด้วยเตากระทะ การประกอบอาหารคาวหวานตามแบบฉบับโบราณแท้ จากนั้นก็เป็นหมู่เรือนคหบดี เรือนนี้จะสะท้อนวิถีชีวิตของนาฏศิลป์ไทย รวมทั้งความวิจิตรบรรจงของสำรับกับข้าวไทยที่ขึ้นชื่อทั้งรสชาติและหน้าตา อาหารที่นี่ถือเป็นอีกหนึ่งไฮไลท์ อาหารที่นำมาจัดสำรับได้แก่ แกงบวน ยำใหญ่หรือยำทวาย หมี่กรอบ แกงมัสมั่นไก่ น้ำพริกและผักสด เรือนหมู่แห่งนี้ยังถือเป็นเรือนหมู่ที่ใหญ่ที่สุดในประเทศไทยเลยทีเดียว

สำหรับนักท่องเที่ยวที่ต้องการท่องเที่ยวเมืองมัลลิกา ค่าเข้าชมสำหรับผู้ใหญ่ 250 บาท/ท่าน และเด็กและผู้สูงอายุราคา 120 บาท/ท่าน และหากจะเข้าชมพร้อมรับประทานอาหารโบราณและชมการแสดงโชว์ในช่วงเย็นสำหรับผู้ใหญ่ 700 บาท/คน เด็กราคา 350 บาท/คน เวลาเปิด-ปิดเมือง 09.00-19.00 น. ส่วนเวลาอาหารเย็นและการแสดงคือ 18.00-20.00 น. และที่ลืมไม่ได้ ในเมืองนี้เขาใช้เหรียญสตางค์ เงินปัจจุบันใช้ไม่ได้ เราสามารถแลกได้ที่แบงค์สยาม กัมมาจล ซึ่งตั้งอยู่บริเวณย่านการค้า หลังข้ามสะพานไปเล็กน้อย

หลังซึมซับกับบรรยากาศของเมืองไทยในอดีตกันจนเต็มอิ่มแล้ว ขบวน Isuzu D-Max​ Blue Power Press Trip 2017 ก็เดินทางมาพักกันที่ ครอส ทู ริเวอร์แคว รีสอร์ท หรือ X2 River Kwai ที่บ้านสำโรง ต.หนองหญ้า ห่างจากตัวเมืองกาญจน์ฯ ราว 15 กิโลเมตร ซึ่งรีสอร์ทแห่งนี้ตั้งอยู่ริมแม่น้ำแควน้อยอันเงียบสงบ และร่มรื่นอีกทั้งมีเอกลักษณ์และโดดเด่นเป็นสไตล์อินดัสเทรียล เน้นงานไม้และงานเหล็กอย่างลงตัว

จบทริปท่องเที่ยวและทดสอบสมรรถนะของ 3.0 V-Cross Max 4×4 ที่น่าประทับใจอีกครั้งกับ Isuzu D-Max​ Blue Power Press Trip 2017

กองบรรณาธิการ เรื่อง/จิตรกร ถาวร ภาพ

 

Comments are closed, but trackbacks and pingbacks are open.

เราใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของคุณ คุณสามารถศึกษารายละเอียดได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และสามารถจัดการความเป็นส่วนตัวเองได้ของคุณได้เองโดยคลิกที่ ตั้งค่า

Privacy Preferences

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

Allow All
Manage Consent Preferences
  • คุกกี้ที่จำเป็น
    Always Active

    ประเภทของคุกกี้มีความจำเป็นสำหรับการทำงานของเว็บไซต์ เพื่อให้คุณสามารถใช้ได้อย่างเป็นปกติ และเข้าชมเว็บไซต์ คุณไม่สามารถปิดการทำงานของคุกกี้นี้ในระบบเว็บไซต์ของเราได้

  • คุกกี้เพื่อการวิเคราะห์

    คุกกี้ประเภทนี้จะทำการเก็บข้อมูลการใช้งานเว็บไซต์ของคุณ เพื่อเป็นประโยชน์ในการวัดผล ปรับปรุง และพัฒนาประสบการณ์ที่ดีในการใช้งานเว็บไซต์ ถ้าหากท่านไม่ยินยอมให้เราใช้คุกกี้นี้ เราจะไม่สามารถวัดผล ปรับปรุงและพัฒนาเว็บไซต์ได้
    Cookies Details

Save