บอดี้ของ D-MAX มีให้เลือกค่อนข้างครบ ทั้งตอนเดียว ตอนครึ่ง สองตอน หรือจะเป็นแนวสเตชั่นแวก้อน จากการทำของค่ายอื่นที่เอารุ่นนี้ไปดัดแปลง ทำให้สามารถเลือกที่จะเอามาใช้งานได้ตรงกับความต้องการ ส่วนหนึ่งคือเรื่องของอะไหล่ เรื่องของแบรนด์ หากเป็นค่ายนี้ความเชื่อถือและไว้วางใจสำหรับคนไทยจะมีค่อนข้างมาก หากหาไปใช้งานทั่วไปย่อมไม่ต้องคิดมาก แต่หากหาไปตกแต่งเป็นตัวลุย ตัวเที่ยวป่า มันก็ค่อนข้างน่าสนใจ
ถ้าเป็นโฉมแรกค่าตัวไม่สูง ไม่เกิน 3 แสนจะหารถบอดี้สวยๆ ไม่ยาก ดีไซน์มีความโป่ง ลักษะของโป่งล้อหน้า หลัง อันเป็นเอกลักษณ์ ช่วงหน้าดูตัน บึกบึนแบบหนุ่มชาวไร่ นำไปจัดอุปกรณ์ ช่วงล่างตามงบประมาณก็เห็นจะเข้าท่า โดยมากถ้าใช้บอดี้นี้แล้วมักจะกดสุด วางคาน กันเต็มที่ ส่วนเรื่องเครื่องยนต์หากไม่ทำการโมดิฟาย เพิ่มกำลัง ก็เห็นจะต้องเปลี่ยนเครื่องกันไปเลย เพราะโฉมแรกๆ รุ่นนี้จะไม่ค่อยเห็นใจการบริโภคน้ำมันสักเท่าไหร่ แต่ถ้าเปลี่ยนเครื่องหรือโมแล้วนั่นก็น่าจะเหมาะกว่า
อีกอย่างที่น่าสนใจคือการใช้งานระบบขับเคลื่อน 4 ล้อ ซึ่งโดยมากทาง D-MAX มักจะออกแบบมาเป็นการเลือกเปลี่ยนโหมดขับเคลื่อนด้วยไฟฟ้า ใช้การกดปุ่ม หรือบิดสวิทช์ ให้ความสะดวกสบาย หากจับเครื่องใหม่ชนเกียร์ระบบขับเคลื่อนเดิม ก็ยังจะได้ความสะดวกตรงนี้ติดตัวต่อไป
แต่ความเป็นจริงแล้วหากต้องการรถที่เอาไปใช้ ในเส้นทางทุรกันดาร สมบุกสมบัน D-MAX เป็นกระบะที่คุณไม่ควรมองข้าม เพราะเรื่องของการดูแลรักษาที่ไม่แพง ทำให้มันคงความน่าสนใจ เรื่องอื่นมันจะเฉลี่ยกันไป เข้าไร่ เข้านา การใช้เชื้อเพลิงและความแรงคงไม่ใช่ประเด็นหลัก หรือไม่ อย่างไร…
Comments are closed, but trackbacks and pingbacks are open.