Ineos ต้องการขยายเครือข่ายผู้แทนจำหน่ายทั่วอเมริกาเหนือ เพื่อกระตุ้นยอดขายรถเอสยูวีรุ่น Grenadier และรถกระบะ Grenadier Quartermaster ในสหรัฐฯ และแคนาดา
ปัจจุบัน Ineos ผู้ผลิตรถยนต์สัญชาติอังกฤษรายนี้ มีผู้แทนจำหน่ายอยู่ 18 แห่ง ใน 14 รัฐของสหรัฐฯ และมี 2 แห่งในแคนาดา เกร็ก คลาร์ก รองประธานบริหารของ Ineos ประจำภูมิภาคอเมริกา กล่าวว่า บริษัทฯ กำลังมองหาการเพิ่มผู้แทนจำหน่ายอีก 5-6 แห่งในปีนี้ โดยมีเป้าหมายสำคัญในการขยายสาขาไปยังเขตเมืองฟีนิกซ์ พื้นที่รอบกรุงวอชิงตันดีซีโดยเฉพาะ นอกจากนี้ยังต้องการขยายไปยังพื้นที่นิวยอร์ก นิวเจอร์ซี และคอนเนตทิคัตด้วย
ขณะเดียวกัน คลาร์ก ยังกล่าวว่า เขตมิดเวสต์ของสหรัฐฯ ก็เป็นอีกพื้นที่ที่บริษัทฯ ให้ความสนใจ เนื่องจากปัจจุบันมีผู้แทนจำหน่ายเพียงแห่งเดียวในภูมิภาคนี้ ตั้งอยู่ที่เมืองเลค บลัฟฟ์ รัฐอิลินอยส์ นอกจากนี้ ยังตั้งเป้าขยายกิจการไปที่เมืองแคลกะรีและเอ็ดมันตัน ก่อนที่บริษัทจะเดินทางไปถึงเม็กซิโกในช่วงปลายปีนี้อีกด้วย
การส่งมอบรถ Grenadier ในสหรัฐฯ เริ่มต้นขึ้นประมาณช่วงเทศกาลวันขอบคุณพระเจ้าที่ผ่านมา และในช่วงเวลาต่อเนื่องกันนั้น ผู้ผลิตรถยนต์รายนี้ได้ส่งมอบรถยนต์รุ่นดังกล่าวไปยังลูกค้าแล้วประมาณ 4,200 คัน ซึ่งคิดเป็นสัดส่วนราวสองในสามของยอดสั่งซื้อล่วงหน้าทั้งหมด
“เราเริ่มต้นได้อย่างมั่นคงในสหรัฐฯ” ลินน์ คาร์เตอร์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารของ Ineos Automotive กล่าว “ที่นี่เป็นตลาดที่แข็งแกร่งที่สุดของเรา มันไม่ใช่เรื่องที่น่าประหลาดใจอะไรมาก แต่ก็เป็นเรื่องที่น่ายินดีที่สิ่งที่เราคาดหวังไว้กำลังเกิดขึ้น ปัจจุบันเรามีผู้แทนจำหน่ายใน 14 รัฐ ซึ่งถือว่ายังเป็นแค่เพียงผิวเผินของตลาดขนาดใหญ่แห่งนี้อยู่เท่านั้น”
เมื่อเดือนเมษายนที่ผ่านมา Ineos ประกาศว่า รถกระบะ Quartermaster ที่พัฒนาขึ้นจากพื้นฐานของ Grenadier มีเริ่มต้นที่ราคา 86,900 ดอลลาร์สหรัฐ (ประมาณ 3,204,100 บาท) ซึ่งถือว่าสูงกว่าราคาเริ่มต้นของรถเอสยูวีรุ่น Grenadier ที่ตั้งราคาไว้อยู่ที่ 71,500 ดอลลาร์สหรัฐ (ประมาณ 2,635,900 บาท) เหตุผลสำคัญประการหนึ่งที่ทำให้ราคามีความแตกต่างกันก็คือ โมเดลรถกระบะผลิตที่โรงงานในเมืองฮัมแบร์ก ประเทศฝรั่งเศส ซึ่งต้องเสียภาษีที่ทางสหรัฐฯ เก็บกับรถที่ผลิตจากต่างประเทศในอัตรา 25%
Ineos จะเริ่มผลิตรถกระบะ Quartermaster รุ่นสำหรับอเมริกาเหนือในเดือนกรกฎาคม โดยจะมีการส่งรถเพียง 50 คันไปยังอเมริกาเหนือ ซึ่งจะไม่ใช่รถสำหรับจำหน่าย แต่มีไว้สำหรับเป็นรถสาธิตหรือใช้เพื่อการตลาดสำหรับรุ่นปี 2024 โดยลูกค้าจะได้รับรถรุ่นปี 2025 ก่อนสิ้นปีนี้
เรื่อง : กองบรรณาธิการ
เรียบเรียงข้อมูลโดย Off Road Magazine
ติดตามข่าวสาร ยานยนต์ รถใหม่ ได้ที่ Off Road Magazine
Comments are closed, but trackbacks and pingbacks are open.