รถเอสยูวีคูเป้ LS6 จาก IM Motors ซึ่งขายในบางประเทศรวมทั้งไทยด้วยชื่อ MG IM6 มีรุ่นใหม่ออกมาทำตลาดที่จีนด้วยการขายพรีเซลก่อนที่จะขายรถอย่างเป็นทางการเดือนกันยายนที่จะถึงนี้ โดยรถรุ่นใหม่ที่จีนซึ่งมีทั้งระบบขับเคลื่อน EREV และไฟฟ้าล้วนซึ่งมีทั้งขับเคลื่อนด้วยล้อหลังหรือทุกล้อให้เลือกได่รับการปรับดีไซน์ทั้งภายนอกและภายในของรถ
IM LS6 รุ่นใหม่มีขนาดตัวรถยาว 4,935-4,937 มม. กว้าง 1,988 มม. สูง 1,671 มม. และมีระยะฐานล้อยาว 2,960 มม. ซึ่งหมายความว่ามีรถรุ่นใหม่มีความยาวเพิ่มขึ้น 33 มม. สูงขึ้น 2 มม. และมีระยะฐานล้อยาวขึ้น 10 มม. ขณะที่ดีไซน์ภายนอกของรถมีความทันสมัยโฉบเฉี่ยวมากขึ้นอย่างชัดเจนด้วยไฟหน้ารูปตัววายที่ทางผู้ผลิตเรียกว่าไฟหน้า Starlight พร้อมย้ายตำแหน่งโลโก้สูงขึ้นไปในฝากระโปรงหน้า ส่วนด้านหลังมีไฟท้ายยาวเต็มความกว้างของรถที่ถูกเรียกว่า Skyline 2.0 นอกจากนี้รถเกรดสูงสุดยังมี Lidar บนหลังคาสำหรับระบบช่วยขับที่ใช้ชิป Nvidia Drive Thor ในการทำงาน
ระบบขับเคลื่อนไฟฟ้าของรถมีทั้งแบบใช้มอเตอร์ไฟฟ้า 245 kW หรือ 329 แรงม้า และแบตเตอรีความจุ 76 kWh ให้ระยะเดินทางได้ถึง 650 กิโลเมตรในรถที่ขับเคลื่อนด้วยล้อหลัง รวมทั้งรถที่ขับเคลื่อนทุกล้อมีกำลังรวมจากมอเตอร์ไฟฟ้าคู่ 500 kW หรือ 671 แรงม้า มากับแบตเตอรีความจุ 103 kWh ที่ทำให้รถเดินทางได้ถึง 750 กิโลเมตร และใช้เวลา 3.48 วินาทีเพื่อทำความเร็วจาก 0-100 กม./ชม. โดยรถสามารถเดินทางได้เพิ่ม 310 กิโลเมตรด้วยการชาร์จไฟ 15 นาที
รถที่ขับเคลื่อนด้วยระบบ EREV ใช้เครื่องยนต์ 1.5T 153 แรงม้า และมอเตอร์ไฟฟ้า 230 kW หรือ 308 แรงม้า โดยมีสองความจุแบตเตอรีให้เลือกระหว่าง 52 kWh เดินทางเฉพาะไฟฟ้าได้ถึง 370 กิโลเมตร ใช้น้ำมันรวมไฟฟ้าเดินทางได้ถึง 1,400 กิโลเมตร หรือแบตเตอรีความจุ 66 kWh เดินทางเฉพาะไฟฟ้าได้ 450 กิโลเมตร ใช้น้ำมันรวมไฟฟ้าเดินทางได้ถึง 1,502 กิโลเมตร
รถเอสยูวีคูเป้รุ่นไหม้ยังมาพร้อมกับ Lizard Digital Chasis 2.0 ระบบ Brake-by-wire Continental MK C2 รวมทั้งระบบควบคุมการเลี้ยวทุกล้อ
ห้องโดยสารของรถได้รับการปรับใหม่มีจอขนาด 27.1 นิ้วความละเอียด 5K ยาวจากด้านหน้าผู้ขับมาถึงตรงกลาง และจอขนาด 15.6 นิ้วเพื่อความบันเทิงสำหรับผู้โดยสารด้านหน้า โดยใช้ชิป Qualcomm Snapdragon 8295 ในการทำงาน นอกจากนี้ผู้ซื้อยังสามารถเลือกพวงมาลัยแบบปกติหรือแบบ Yoke Steering Wheel ได้ เช่นเดียวกับเบาะผู้โดยสารด้านหน้าที่สามารถเลือกเป็นออปชันเบาะ Zero Gravity ปรับได้ถึง 121 องศาได้ ในขณะที่เบาะหลังก็เน้นความสบายด้วยการมีทั้งระบบปรับความอุ่น ระบายอากาศ และนวด พร้อมปรับเอนเบาะได้ 10 ระดับ ส่วนอุปกรณ์อื่นๆ ของรถยังมีไฟ Ambient Lighting ตู้เย็นความจุ 11 ลิตร ที่ชาร์จไร้สาย 50W และระบบเสียงลำโพง 21 ตำแหน่ง
รถที่ขายในจีนมีให้เลือกสองเกรดทั้งไฟฟ้าและ EREV ส่วนราคาเริ่มต้นที่ 209,900 หยวนหรือประมาณ 947,000 บาทสำหรับรถไฟฟ้า และเริ่มต้น 214,900 หยวนหรือประมาณ 970,000 บาทสำหรับ EREV
เรื่อง : กองบรรณาธิการ
เรียบเรียงข้อมูลโดย Off Road Magazine
ติดตามข่าวสาร ยานยนต์ รถใหม่ ได้ที่ Off Road Magazine
Comments are closed, but trackbacks and pingbacks are open.