Haval H9 Warrior Edition เจเนอเรชันที่ 2 อัปเกรดอุปกรณ์มาตรฐาน

GWM เพิ่มเกรดใหม่ชื่อ Warrior Edition ให้กับ Second-generation Haval H9 ซึ่งนอกจากรถจะมาพร้อมกับการแต่งเพิ่มความเข้มกว่าเกรดอื่นแล้ว ยังได้รับการอัปเกรดอุปกรณ์มาตรฐานเพื่อเพิ่มความสามารถในการลุยด้วย

Haval H9 Warrior Edition

Second-generation Haval H9 Warrior Edition มาในมาดเข้มด้วยการใช้สีดำกับส่วนต่างๆ ของรถทั้งกระจังหน้า กันชน รูฟแร็ก กระจกข้าง ล้อ และโป่งซุ้มล้อ โดยที่รถยังคงมีไฟหน้าทรงกลม ไฟท้ายแนวตั้ง และมีล้ออะไหล่ที่ด้านหลังเหมือนกับเกรดอื่น เช่นเดียวกับขนาดของรถที่ไม่แตกต่างจากเกรดอื่นด้วยความยาว 5,070 มม. กว้าง 1,960 มม. สูง 1,930 มม. และมีระยะฐานล้อยา 2,850 มม.

Haval H9 Warrior Edition

นอกจากถูกเพิ่มความเข้มแล้วรถเอสยูวีทรงกล่องรุ่นใหม่ยังมี Electronic Differential Lock หน้าและหลัง มีหูเกี่ยวพร้อมความสามารถในการลากจูงถึง 2,285 กิโลกรัม และยางออลเทอร์เรนเป็นอุปกรณ์มาตรฐาน ส่วนความสามารถในการลุยน้ำสูงสุดของรถเกรดใหม่อยู่ที่ 800 มม. ในขณะที่ก่อนหน้านี้มีเพียง Electronic Differential Lock หลังเป็นอุปกรณ์มาตรฐาน โดยมี Electronic Differential Lock หน้าเป็นออปชัน

Haval H9 Warrior Edition

แม้ภายนอกจะเน้นความเข้ม แต่ห้องโดยสารของรถเกรดใหม่เน้นความหรูด้วยการแต่งโดยใช้สีแดง Burgundy ในขณะที่อุปกรณ์มาตรฐานของรถมีพวงมาลัย 4 ก้าน จอแสดงข้อมูลการขับขนาด 10.25 นิ้ว จอ Infotainment ขนาด 14.6 นิ้ว ที่ชาร์จไร้สาย 50W และยังคงมีปุ่มจริงให้ใช้ปรับตั้งต่างๆ

Haval H9 Warrior Edition

ขุมพลังของรถมีทั้งเครื่องยนต์เบนซิน 2.0 ลิตรเทอร์โบ 221 แรงม้า แรงบิด 385 นิวตันเมตร พร้อมระบบส่งกำลังอัตโนมัติ 8 สปีด หรือเครื่องยนต์ดีเซล 2.4 ลิตรเทอร์โบ 183 แรงม้า แรงบิด 480 นิวตันเมตรพร้อมระบบส่งกำลังอัตโนมัติ 9 สปีด

ส่วนราคาของรถเอสยูวีเกรดใหม่หากเป็นเครื่องยนต์เบนซินอยู่ที่ 239,900 หยวน ส่วนเครื่องยนต์ดีเซลอยู่ที่ 257,900 หยวน หรือประมาณ 1,089,000 บาทและ 1,170,000 บาทตามลำดับ

 

 

 

เรื่อง : กองบรรณาธิการ

เรียบเรียงข้อมูลโดย Off Road Magazine

ติดตามข่าวสาร ยานยนต์ รถใหม่ ได้ที่ Off Road Magazine

Comments are closed, but trackbacks and pingbacks are open.