Porsch วางแผนที่จะใช้เหล็กกล้า H2 Green Steel ในกระบวนการผลิตรถยนต์
Porsche แถลงออกมาว่าวางแผนที่จะใช้เหล็กกล้า H2 Green Steel ที่ลดกาปล่อยคาร์บอนไดออกไซด์ลงถึง 95 เปอร์เซ็นต์ในกระบวนการผลิตกับรถของตนในอนาคต
เนื่องจากเหล็กกล้าเป็นหนึ่งในวัสดุที่ใช้ในการผลิตรถยนต์ที่ทำให้เกิดคาร์บอนไดออกไซด์มากที่สุด เพื่อลดผลกระทบนี้ทาง Porsche ได้ประกาศออกมาว่าจะใช้เหล็กกล้าที่ทำให้เกิดคาร์บอนไดออกไซด์ในขั้นการผลิตลดลงกับรถของตนตั้งแต่ปี 2026 เป็นต้นไป
เหล็กกล้าที่ทางผู้ผลิตรถยนต์สมรรถนะสูงจากเยอรมนีจะใช้ในอนาคตจะมาจาก H2 Green Steel ซึ่งใช้เทคนิคใหม่ในการผลิต โดยใช้ไฟฟ้าและไฮโดรเจนในกระบวนการผลิตแทนการเผาถ่านหินเพื่อทำให้เหล็กกล้ามีอุณหภูมิสูงขึ้น ซึ่งวิธีการผลิตใหม่นี้จะช่วยลดการเกิดคาร์บอนไดออกไซด์ระหว่างการผลิตลงได้มากถึง 95 เปอร์เซ็นต์
การใช้เหล็กกล้าที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมจะเป็นการใช้งานโดยตรงจากการส่งมอบให้จากผู้ผลิตซึ่งจะเริ่มตั้งแต่ปี 2026 แต่อย่างไรก็ตามทาง Porscheยังไม่สามารถเปลี่ยนมาใช้เหล็กกล้าชนิดใหม่ทั้งหมดได้เพราะยังมีข้อจำกัดในเรื่องการผลิต ที่ทำให้ได้รับเหล็กกล้า H2 Green Steel แค่ 35,000 ตันเท่านั้น ซึ่งเป็นจำนวนไม่ถึง 1 ใน 4 ของเหล็กกล้าจำนวน 220,000 ตันที่ใช้ในปี 2022
ทาง Barbara Frenkel หัวหน้าฝ่ายจัดซื้อของPorsche บอกว่า “Porsche กำลังทำงานเพื่อมุ่งไปสู่การมีคาร์บอนเป็นกลางทั่วทั้งห่วงโซ่การผลิตรถภายในปี 2030 เหล็กกล้าที่ลดคาร์บอนไดออกไซด์จะมีบทบาทสำคัญในยุทธศาสตร์เพื่อความยั่งยืนของเรา กับเหล็กกล้านี้จาก H2 Green Steel เราจะก้าวไปสู่การลดมลพิษจากคาร์บอนไดออกไซด์มากขึ้น เนื่องจากนี่คือวัสดุที่สำคัญ”
ทางผู้ผลิตรถสมรรถนะสูงได้บอกว่ามีการลดปริมาณเหล็กกล้าในรถมาก่อนหน้านี้แล้ว โดยการใช้อลูมิเนียมน้ำหนักเบา แต่ก็ยังมีความจำเป็นต้องใช้เหล็กกล้าในส่วนเมคานิกจึงทำให้ยากที่เลิกใช้เหล็กกล้าอย่างสิ้นเชิง โดยนอกจาก Porscheแล้ว ผู้ผลิตรถยนต์รายอื่นอย่าง Volvo และ Mercedes-Benz ก็ได้เซ็นสัญญากับผู้ผลิตเหล็กกล้ารายนี้เพื่อให้เหล็กกล้าที่ลดการปล่อยคาร์บอนไดออกไซด์ในการผลิต
เรื่อง : กองบรรณาธิการ
เรียบเรียงข้อมูลโดย Off Road Magazine
ติดตามข่าวสาร ยานยนต์ รถจักรยานยนต์ รถใหม่ ได้ที่ Off Road Magazine
Comments are closed, but trackbacks and pingbacks are open.