GWM เปิดตัวรถรุ่นใหม่ใช้เทคโนโลยีไฮบริด L.E.M.O.N. DHT โชว์สมรรถนะเหนือชั้น
เมื่อไม่นานมานี้ GWM ได้เปิดตัวรถรุ่น HAVAL JOLION ในซาอุดีอาระเบีย แอฟริกาใต้ และชิลี และเตรียมเปิดตัวรถรุ่น 3rd Gen HAVAL H6 ในยูเครน โดยรถทั้งสองรุ่นจะนำเสนอเทคโนโลยีไฮบริด L.E.M.O.N. DHT สู่ตลาดโลกเป็นครั้งแรก เพื่อมอบประสบการณ์ใหม่ให้แก่ผู้ขับขี่ทั่วโลกผ่านการพลิกโฉมเทคโนโลยีและนวัตกรรม
การเปิดตัว L.E.M.O.N. DHT จะทำให้ GWM เป็นผู้ผลิตรถสัญชาติจีนรายแรกที่ก้าวข้ามขีดจำกัดของเทคโนโลยีไฮบริด โดย L.E.M.O.N. DHT เป็นระบบไฮบริดแบบหลายโหมดที่มีประสิทธิภาพสูง มาพร้อมสถาปัตยกรรม HEV และ PHEV จึงสามารถรักษาสมดุลระหว่างประสิทธิภาพระดับสูงและสมรรถนะระดับสูงในทุกระดับความเร็วและสภาพการขับขี่ นอกจากนั้นยังมีประสิทธิภาพพลังงานสูงและกินเชื้อเพลิงต่ำ เหมาะสำหรับผู้ขับขี่ทั่วโลกที่ใส่ใจสิ่งแวดล้อม
L.E.M.O.N. DHT มีจุดแข็งอยู่ที่ขุมพลังอันแข็งแกร่ง, ความสบายมากขึ้น, เสียงรบกวน การสั่นสะเทือน และความกระด้าง (NVH) ลดลง และกินเชื้อเพลิงน้อยลง โดยรถรุ่นใหม่ ๆ ของ GWM จะใช้เทคโนโลยีนี้ ซึ่งจะส่งผลให้สมรรถนะเพิ่มขึ้นอย่างชัดเจน ยกตัวอย่างรถรุ่น 3rd Gen HAVAL H6 ที่ใช้เครื่องยนต์เทอร์โบชาร์จ 1.5 ลิตร และมอเตอร์ 130 กิโลวัตต์ ซึ่งให้กำลัง 179 กิโลวัตต์ (243 แรงม้า) และแรงบิด 530 นิวตันเมตร จึงตอบสนองเร็วกว่ารถรุ่น 2nd Gen HAVAL H6 นอกจากนี้ ระบบเกียร์ wet dual-clutch transmission เจนเนอเรชันสอง ยังช่วยให้เปลี่ยนเกียร์ได้อย่างรวดเร็ว มีประสิทธิภาพ และเพิ่มความเร่งได้ดีขึ้น ขณะเดียวกัน เทคโนโลยีไฮบริดยังช่วยให้ 3rd Gen HAVAL H6 ใช้เชื้อเพลิงน้อยลงเหลือเพียง 6.6 ลิตร/100 กิโลเมตร จาก 6.9 ลิตร/100 กิโลเมตรในรถรุ่น 2nd Gen HAVAL H6 ส่งผลให้ประสิทธิภาพการใช้เชื้อเพลิงเพิ่มขึ้น 14.5% ทำให้รถมีกำลังสูงและประหยัดเชื้อเพลิง ทั้งนี้ 3rd Gen HAVAL H6 มีขนาด 4,653 x 1,886 x 1,730 มม. (ยาว x กว้าง x สูง) หรือยาวขึ้น 38 มม. กว้างขึ้น 26 มม. และสูงขึ้น 10 มม. เมื่อเทียบกับรุ่น 2nd Gen HAVAL H6 โดยบอดี้ที่กว้างขึ้นทำให้มีพื้นที่เพิ่มมากขึ้น ช่วยให้สมาชิกในครอบครัวโดยสารได้อย่างสะดวกสบายตามความต้องการของทุกคน ยิ่งไปกว่านั้น เทคโนโลยี L.E.M.O.N. DHT ยังช่วยลด NVH ให้เหลือน้อยที่สุด มอบประสบการณ์การขับขี่อันน่าอภิรมย์ให้แก่ทุกคน
เทคโนโลยีไฮบริดคือหัวใจสำคัญที่ช่วยส่งเสริมกลยุทธ์การขยายธุรกิจทั่วโลกของ GWM และสะท้อนให้เห็นอย่างชัดเจนถึงศักยภาพด้านการวิจัยและพัฒนาของ GWM โดยตลอดหลายปีที่ผ่านมา GWM ได้ทุ่มเทให้กับการวิจัยและพัฒนาอย่างเป็นอิสระ สร้างมาตรฐานคุณภาพในระดับสูง และส่งเสริมการอัปเกรดผลิตภัณฑ์ด้วยเทคโนโลยีหลัก ๆ นอกจากนี้ GWM ยังให้ความสำคัญอย่างยิ่งกับการสร้างประสบการณ์ส่วนบุคคล เพื่อตอบสนองความต้องการที่แตกต่างกันของผู้ใช้งานทั่วโลก ในอนาคต GWM จะพยายามอย่างไม่หยุดยั้งในการพัฒนานวัตกรรมเทคโนโลยี เพื่อผลักดันการเปลี่ยนผ่านอุตสาหกรรมและมอบประสบการณ์การขับขี่สุดไฮเทคให้แก่ผู้ใช้ทั่วโลก
Comments are closed, but trackbacks and pingbacks are open.