เกรท วอลล์ มอเตอร์ ประเทศไทย เปิดโชว์รูม GWM Store แห่งแรกของโลก-ประกาศราคา HAVAL H6 28 มิ.ย.นี้

Great Wall Motor เผยโฉม GWM Store แห่งแรกของโลกในประเทศไทยที่ศูนย์การค้าเซ็นทรัล บางนา โดยนับเป็นการเปิดตัว “New Retail Concept” รูปแบบใหม่ของบริษัทเป็นครั้งแรกของโลก ภายใต้กลยุทธ์ New User Experience พร้อมสร้างระบบนิเวศทางธุรกิจแนวใหม่ให้กับอุตสาหกรรมยานยนต์ไทย ด้วยการสร้างประสบการณ์แบบออนไลน์สู่ออฟไลน์ผ่าน GWM Store Partner Store และ GWM Application ยกระดับมาตรฐานการขาย และบริการให้กับผู้บริโภคผ่านเพียงปลายนิ้วสัมผัส

ในขณะเดียวกันเกรท วอลล์ มอเตอร์ ชูจุดเด่นด้วยการกำหนดราคารถแบบ “ONE PRICE” โดย Great Wall Motor เตรียมตัวเปิดกิจกรรมการจองรถล่วงหน้า (Pre-Sale) และเปิดตัว All New Haval H6 Hybrid SUV พร้อมประกาศราคาอย่างเป็นทางการในเดือนมิถุนายนนี้ เพื่อตอบรับกระแสความต้องการของผู้บริโภคชาวไทย

การเปิดตัว GWM Store แห่งแรกจาก เกรท วอลล์ มอเตอร์ ได้สร้างการเปลี่ยนแปลงครั้งสำคัญที่จะพลิกโฉมตลาดรถยนต์ในไทย ด้วยแผนการดำเนินธุรกิจรูปแบบใหม่ “New Retail Concept” แบบ O2O (Online-To-Offline) ภายใต้กลยุทธ์ New User Experience โดยประเทศไทยจะเป็นประเทศแรกในโลกที่จะนำรูปแบบการทำธุรกิจนี้มาประยุกต์ใช้ เพื่อมุ่งเน้นให้ผู้บริโภคได้รับบริการและความพึงพอใจสูงสุด ได้แก่

1. Best Choice: ลูกค้าต้องเป็นผู้เลือกสิ่งที่ดีที่สุดได้ด้วยตัวเอง

2. Transparency: ลูกค้าต้องได้รับการนำเสนอผลิตภัณฑ์ และบริการที่โปร่งใส ตรงไปตรงมา

3. Happiness & Loyalty: ลูกค้าจะต้องมีความสุข และประสบการณ์ที่ดีกับแบรนด์ตลอดการเป็นเจ้าของ และพร้อมที่จะส่งมอบความสุขนี้ให้กับผู้อื่นด้วยการบอกต่อ

สำหรับรูปแบบการดำเนินธุรกิจแบบใหม่นี้ผู้บริโภคสามารถสร้างประสบการณ์ส่วนตัวตั้งแต่การค้นหาข้อมูล, การทดลองขับ, การจองรถ, การจ่ายเงิน และการรับบริการหลังการขายทุกอย่างผ่าน GWM Application ซึ่งเพิ่มความสะดวกสบาย ความเป็นส่วนตัว และการจดจำข้อมูลทุกอย่างผ่านเพียงอุปกรณ์สื่อสาร และปลายนิ้วสัมผัส

คุณณรงค์ สีตลายน กรรมการผู้จัดการเกรท วอลล์ มอเตอร์ ประเทศไทย เปิดเผยว่า “ธุรกิจรูปแบบใหม่ของเรา เกิดจากการลงไปศึกษาความต้องการที่แท้จริงของผู้บริโภคในทุกมิติ ทั้งปัญหา และอุปสรรคต่างๆ ที่ลูกค้าต้องเผชิญในระหว่างกระบวนการขาย และบริการ รวมถึงการสัมภาษณ์เจ้าของธุรกิจ และผู้จัดจำหน่าย เพื่อหาแนวทางร่วมในการตอบโจทย์ความต้องการของผู้บริโภคให้มีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้นผ่านกระบวนการ “Design Thinking” จนสามารถออกแบบการมอบประสบการณ์แบบ O2O ที่ดีที่สุดให้กับผู้บริโภค เพราะหนึ่งในหัวใจสำคัญในการทำงานของเราคือหลักการ User-centric หรือลูกค้าคือศูนย์กลางสำคัญ”

“ดังนั้นรูปแบบธุรกิจของเราจึงไม่ใช่เป็นเพียงการขายรถยนต์ แต่ยังครอบคลุมถึงการให้บริการในทุกๆ ด้านกับลูกค้าของเรา หรือ Product as a Service (PAAS) ซึ่งรูปแบบธุรกิจใหม่นี้ จะเป็นการนำเอาเทคโนโลยี, แพล็ตฟอร์ม และการสร้างประสบการณ์รูปแบบใหม่ให้กับลูกค้าอย่างที่ไม่เคยมีมาก่อน เพื่อช่วยยกระดับความสะดวกสบาย และสร้างความพึงพอใจให้กับลูกค้าได้อย่างยอดเยี่ยมยิ่งขึ้น ไม่ว่าจะเป็นการเลือกซื้อรถ, การทดลองขับ, การตัดสินใจซื้อรถ รวมไปถึงการบริการหลังการขายซึ่ง GWM Store ของเรา ไม่ได้เป็นเพียงแค่โชว์รูมรถ แต่เราอยากให้ที่แห่งนี้เป็นเหมือนพื้นที่ลูกค้าของเราสามารถมาทำกิจกรรมที่ชื่นชอบ และพัฒนาความคิดสร้างสรรค์ต่างๆ ได้อย่างเต็มที่ พร้อมกับซึมซับ และมีประสบการณ์กับแบรนด์ และผลิตภัณฑ์ของเราอย่างเป็นธรรมชาติ สร้างความรู้สึกเป็นมิตร และผ่อนคลาย ผ่านการออกแบบฟังก์ชั่น และประสบการณ์ของร้านอย่างลงตัว โดยคอนเซ็ปต์นี้จะนำไปประยุกต์ใช้กับ Partner Store ที่เราร่วมเปิดกับพันธมิตรทางธุรกิจของเราเช่นกัน”

“นอกจากนี้เรายังมีการพัฒนา GWM Application เพื่อให้ผู้บริโภคของเราไม่พลาดทุกข่าวสาร และสามารถเข้าถึงทุกบริการของเราได้โดยง่ายจากเพียงปลายนิ้วสัมผัสบนอุปกรณ์เครื่องโปรด รวมไปถึงการเปิดตัวแพล็ตฟอร์ม e-Commerce ในอนาคต ที่จะมาช่วยอำนวยความสะดวกในทุกๆ การทำธุรกรรมของ Great Wall Motor ให้เป็นไปอย่างราบรื่น และสะดวกสบายที่สุด ซึ่งทั้งหมดนี้จะช่วยสร้างความสะดวกสบาย และเชื่อมโยงทุกๆ กิจกรรมระหว่างรถ-ลูกค้า-ไลฟ์สไตล์-การบริการไว้ด้วยกันอย่างสมบูรณ์แบบ ภายใต้แพล็ตฟอร์มของ Great Wall Motor”

Great Wall Motor ดำเนินธุรกิจผ่านเครือข่าย 2 รูปแบบ ได้แก่ GWM Store และ Partner Store โดยตั้งเป้าหมายที่จะเปิด GWM Store ซึ่งลงทุน และดำเนินการโดย Great Wall Motor รวมไปถึง Partner Store ที่เปิดร่วมกับพันธมิตรทางธุรกิจ รวมทั้งสิ้น 30 แห่งภายในสิ้นปี

สำหรับช่วงครึ่งแรกของปี 2021 Great Wall Motor บรรลุเป้าหมายดังกล่าวเป็นที่เรียบร้อยแล้ว โดยยืนยันว่าจะมีการเปิด GWM Store 10 แห่ง และ Partner Store 20 แห่ง รวมถึงร้าน และสาขาอื่นๆ ที่จะตามมาเพิ่มเติมภายในครึ่งปีหลัง ทั้งนี้ภายในเดือนมิถุนายนนี้ Great Wall Motor จะมีการเปิดตัว GWM Store เพิ่มอีก 2 สาขาอย่างเป็นทางการคือสาขาฟิวเจอร์ พาร์ค รังสิต และสาขาสีลม คอมเพล็กซ์ พร้อมวางแผนที่จะเปิด GWM Experience Center ณ ศูนย์การค้าไอคอนสยาม รวมถึง Flagship Service Center ในไตรมาส 3 นี้อีกด้วย

ทางด้านคุณปิยะนุช จตุรภัทร์ ผู้อำนวยการฝ่ายขายเกรท วอลล์ มอเตอร์ ประเทศไทย กล่าวว่า “GWM Store โดดเด่นด้วยการออกแบบพื้นที่ และฟังก์ชั่นการใช้งานที่เหมาะสำหรับการสร้างประสบการณ์ และช่วงเวลาที่ดีที่สุดให้กับผู้บริโภค ด้วยแนวคิด User Lifestyle Space ทำให้ทั้ง GWM Store และ Partner Store ไม่เป็นเพียงแค่โชว์รูมรถยนต์สำหรับจัดแสดง และซื้อขายรถยนต์หรือสินค้าที่ระลึก Merchandise ต่างๆ เท่านั้น แต่ยังเป็นพื้นที่ที่ให้ลูกค้าสามารถออกแบบกิจกรรมของตัวเอง โดยมีน้อง iAm (GWM Intelligent Ambassador) และ CA (Customer Assistant) คอยอำนวยความสะดวก ให้คำปรึกษา และดูแลลูกค้าประดุจครอบครัว พร้อมพื้นที่สำหรับกิจกรรมต่างๆ ที่เปิดกว้างให้ผู้บริโภคสามารถ Walk-in เข้ามาใช้งาน เรียนรู้ และสร้างประสบการณ์ที่ดีไปด้วยกันกับ Great Wall Motor ได้อย่างสะดวกสบาย ไม่ว่าจะเป็น Co-Working Space สำหรับนั่งอ่านหนังสือหรือทำงาน พื้นที่สำหรับพักผ่อนหย่อนใจ Coffee Bar หรือพื้นที่สำหรับการจัด Mini workshop ต่างๆ เป็นต้น”

“ทั้งนี้ Great Wall Motor คำนึงถึงความสำคัญของผู้บริโภคของเราอยู่เสมอ เราจึงอยากจะให้ GWM Store เป็นอีกหนึ่งช่องทางที่จะทำให้กลุ่มลูกค้า และแฟนๆ ของเรา มีความรู้สึกผูกพัน และต้องการที่จะ “Go With Me” ก้าวเดินไปด้วยกัน และพร้อมที่จะเติบโตไปกับ Great Wall Motor ในอนาคต รวมไปถึงเปิดโอกาสในการสร้างความสัมพันธ์ที่แน่นแฟ้น ได้ทำความรู้จัก และเข้าใจความต้องการของผู้บริโภคอย่างลึกซึ้ง และเกิดความร่วมมืออันดีระหว่างกันในอนาคต”

ในส่วนของ Partner Store จะมีการออกแบบพื้นที่คอนเซ็ปต์ และฟังก์ชั่นการใช้งานที่ใกล้เคียงกันกับ GWM Store แต่จะเป็นการพลิกโฉม และให้คำนิยามใหม่ให้กับพันธมิตรทางธุรกิจของเกรท วอลล์ มอเตอร์ ที่จะไม่ได้เป็นเพียงดีลเลอร์หรือผู้แทนจำหน่ายอีกต่อไป แต่จะมาร่วมเป็นพาร์ทเนอร์หรือหุ้นส่วนธุรกิจในการเป็น “ผู้ให้บริการ” ที่พร้อมส่งมอบประสบการณ์ที่ดีที่สุดให้กับผู้บริโภค และลูกค้าของ Great Wall Motor อย่างแท้จริง

ในส่วนของกลยุทธ์ด้านการบริการหลังการขาย คุณศราวุฒิ  บรรยงค์กุล  ผู้อำนวยการฝ่ายบริการหลังการขาย เกรท วอลล์ มอเตอร์ ประเทศไทย กล่าวว่า “นอกจากบริการด้านการขายแล้วนั้น งานบริการหลังการขายถือเป็นหัวใจสำคัญในการสร้างประสบการณ์ที่ดีให้กับผู้บริโภคเป็นอย่างมาก ซึ่งในส่วนของบริการหลังการขายของ เกรท วอลล์ มอเตอร์ มีความมุ่งมั่นที่จะตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์ของผู้บริโภคในยุคดิจิทัลให้ได้รับความสะดวก รวดเร็ว ประหยัดเวลา และสามารถเติมเต็มความต้องการด้านต่างๆ ได้แบบครบวงจรตลอด 24 ชั่วโมงเพื่อให้ลูกค้าของเราอุ่นใจและไร้กังวล ด้วยรูปแบบการให้บริการแบบ “Premium Service at Your Fingertips” ผ่าน 4 กลยุทธ์หลักคือ

1. Connected Car Ecology: เชื่อมต่อทุกระบบนิเวศของรถไว้ด้วยกัน ทั้งตัวรถ, ลูกค้า, ศูนย์บริการ และ Great Wall Motor เพื่อให้ผู้บริโภคไม่พลาดทุกการเชื่อมต่อข้อมูล,ข่าวสาร, การบริการ และความบันเทิงทุกรูปแบบจาก Great Wall Motor ไม่ว่าจะเป็นระบบการจัดการข้อมูล ระบบควบคุม และสั่งงานตัวรถ ระบบ Infotainment การค้นหาข้อมูล การจอง และใช้บริการต่างๆ ได้อย่างสะดวกสบายจากเพียงปลายนิ้วสัมผัส อาทิ การค้นหาศูนย์บริการ และการนำทาง หรือการให้บริการผ่านทาง GWM Application ทั้งการจอง และแจ้งเตือนเข้ารับบริการ การประเมินค่าบริการเบื้องต้น การเรียกรถช่วยเหลือฉุกเฉิน การจองการรับรถและส่งรถ การจ่ายค่าบริการออนไลน์ หรือแม้แต่การเช็คสถานะการซ่อม ทุกอย่างสามารถทำได้ง่ายดายผ่านแอปพลิเคชั่น

2. 24 Hrs/7 Day Response: การให้บริการของระบบ GWM Contact Center แบบ 24/7 ทั้ง 7 วัน ตลอด 24 ชั่วโมง เพื่อให้มั่นใจได้ว่าทุกๆ คำถาม ทุกๆ ปัญหาของผู้บริโภคของเกรท วอลล์ มอเตอร์ ได้รับความใส่ใจ และได้รับการช่วยเหลืออย่างเต็มที่และทันท่วงที ทั้งทางช่องทางผ่านระบบโทรศัพท์ และช่องทางโซเชียลมีเดียต่างๆ ของ GWM

3. Transparency Data: การทำงานและการให้บริการที่โปร่งใส ซื่อสัตย์กับผู้บริโภค ด้วยระบบการจัดการข้อมูลแบบ ONE Single Service Data Management System เพื่อให้มั่นใจได้ว่า ทุกๆ ข้อมูลในระบบมีความถูกต้อง แม่นยำ อัพเดทแบบเรียลไทม์ และเข้าถึงได้ด้วยชุดข้อมูลที่ตรงกันทั้งหมด รวมถึงประวัติการซ่อม และการเข้ารับบริการของลูกค้าทุกคนจากทุกๆ ช่องทาง และศูนย์บริการของ Great Wall Motor ทำให้ลูกค้าสามารถเข้ารับบริการได้จากทุกที่ เช็คสถานะการซ่อมผ่านระบบข้อมูลกลาง อนุมัติงานซ่อมและงานบริการได้แบบเรียลไทม์ผ่าน GWM Application ทำให้โปร่งใส ฉับไว และมีประสิทธิภาพสูงสุด

4. Convenience Service: อำนวยความสะดวกสบายถึงขีดสุดด้วยบริการที่ส่งตรงถึงบ้านคุณจากศูนย์บริการของ Great Wall Motor ที่อยู่ใกล้คุณมากที่สุด โดยสามารถเรียกใช้บริการ ไม่ว่าจะเป็นการเช็คสภาพรถ การเช็คระยะ หรือบริการอื่นๆ พร้อมติดตามความคืบหน้า และทราบผลการบริการได้อย่างสะดวกสบาย รวมถึงบริการรับ-ส่งรถเพื่อเข้ารับบริการ เพิ่มความสะดวกสบายให้กับลูกค้าของ Great Wall Motor ในทุก ๆ มิติการบริการไม่ว่าจะอยู่ที่ใด

ทั้งนี้ Great Wall Motor มีแผนเตรียมเปิดตัว GWM Application ที่เป็นหัวใจหลักของรูปแบบการดำเนินธุรกิจแบบใหม่ผ่านระบบ O2O ที่จะช่วยให้ผู้บริโภคไม่พลาดทุกข้อมูลข่าวสารอัพเดทล่าสุดจาก Great Wall Motor รวมถึงการรับบริการด้านการขาย และบริการหลังการขาย ทั้งก่อน และหลังจากเป็นเจ้าของรถ

นอกจากนี้ผู้บริโภคยังสามารถใช้ฟังก์ชั่นต่างๆ ในแอปพลิเคชั่นเพื่อเชื่อมประสบการณ์การชอปปิ้งตามไลฟ์สไตล์ของตนผ่าน Brand Store ที่ทาง Great Wall Motor เลือกสรรมาให้ ผ่านการใช้ระบบ Point System โดย GWM Application ยังสามารถเชื่อมต่อกับระบบ Telematic และแพลตฟอร์มของรถได้ ไม่ว่าจะเป็นระบบเครือข่ายอินเทอร์เน็ตค้นหาข้อมูล ดูหนังฟังเพลงและเอ็นเตอร์เทนเมนต์ต่างๆ รวมไปถึงการค้นหาตำแหน่งและเนวิเกเตอร์นําทาง การตรวจสอบสถานการณ์บำรุงรักษารถยนต์ เป็นต้น

นอกจากนี้ Great Wall Motor ยังเตรียมเปิดตัวแพล็ตฟอร์ม e-Commerce เพื่อเสริมธุรกิจยานยนต์ให้แข็งแกร่งยิ่งขึ้น ด้วยการให้บริการด้านการเงิน และการทำธุรกรรมต่างๆ  ตั้งแต่ขั้นตอนการจอง และทดลองขับแบบออนไลน์ที่สโตร์ใกล้บ้าน, ไปจนถึงกระบวนการซื้อรถ ที่สามารถประเมินค่าใช้จ่าย ตรวจสอบแพ็คเกจการรับประกันและยื่นไฟแนนซ์ การชำระเงินออนไลน์ รวมถึงการส่งมอบรถยนต์ถึงหน้าบ้านได้อย่างสะดวกสบาย โดยไม่ต้องเสียเวลาเดินทาง

Great Wall Motor พร้อมแล้วที่จะสร้างความประทับใจและความเชื่อมั่นให้กับลูกค้าในการเป็นเจ้าของรถ เกรท วอลล์ มอเตอร์ ไม่ว่าจะเป็นนโยบายการขยายเครือข่ายผ่าน GWM Store และ Partner Store ทั่วประเทศ การรับประกันและรูปแบบของแพ็คเกจเซอร์วิสต่างๆ ที่จะเป็น Best-in-Class และ First-in-Class ให้ลูกค้าหมดกังวลกับการใช้รถ และการดูแลรักษาระยะยาว รวมไปถึงเซอร์ไพรส์แคมเปญสำหรับลูกค้าคนพิเศษในการเปิดรับจองรถ All New HAVAL H6 Hybrid SUV ในวันที่ 15 มิถุนายนนี้ และการเปิดตัวรวมถึงประกาศราคาอย่างเป็นทางการวันที่ 28 มิถุนายน 2564 ที่จะมาพร้อมจุดเด่นด้วยการกำหนดราคารถแบบ “ONE PRICE” คือราคาเดียว เท่ากันในทุกๆ ช่องทางการขายของ เกรท วอลล์ มอเตอร์ ผ่านระบบ GWM Application ที่รวบรวมทุกบริการอยู่ภายใต้ปลายนิ้วสัมผัส

Great Wall Motor ในฐานะ “บริษัทที่ให้บริการการขับเคลื่อนด้วยเทคโนโลยีระดับโลก (Global Mobility Technology Company)” ยังคงมุ่งมั่นที่จะส่งมอบประสบการณ์ที่ดีที่สุดให้แก่ผู้บริโภค และด้วยการนำธุรกิจรูปแบบใหม่ภายใต้กลยุทธ์ New User Experience มามอบให้ผู้บริโภคได้สัมผัสเป็นครั้งแรกของโลกครั้งนี้ เกรท วอลล์ มอเตอร์ พร้อมแล้วที่จะก้าวสู่การเป็น Top of Mind แบรนด์รถยนต์ของคนไทย และช่วยยกระดับมาตรฐานการบริการด้านยานยนต์ให้ไปก้าวไกลไปอีกขั้น เพื่อส่งมอบประสบการณ์ด้านยานยนต์ที่ดีที่สุดให้กับผู้บริโภคชาวไทยและทั่วโลกต่อไปในอนาคต

เรื่อง: พูนทวี สุวัตถิกุล

ขอบคุณข้อมูล: เกรท วอลล์ มอเตอร์ ประเทศไทย

 

Comments are closed, but trackbacks and pingbacks are open.

เราใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของคุณ คุณสามารถศึกษารายละเอียดได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และสามารถจัดการความเป็นส่วนตัวเองได้ของคุณได้เองโดยคลิกที่ ตั้งค่า

Privacy Preferences

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

Allow All
Manage Consent Preferences
  • คุกกี้ที่จำเป็น
    Always Active

    ประเภทของคุกกี้มีความจำเป็นสำหรับการทำงานของเว็บไซต์ เพื่อให้คุณสามารถใช้ได้อย่างเป็นปกติ และเข้าชมเว็บไซต์ คุณไม่สามารถปิดการทำงานของคุกกี้นี้ในระบบเว็บไซต์ของเราได้

  • คุกกี้เพื่อการวิเคราะห์

    คุกกี้ประเภทนี้จะทำการเก็บข้อมูลการใช้งานเว็บไซต์ของคุณ เพื่อเป็นประโยชน์ในการวัดผล ปรับปรุง และพัฒนาประสบการณ์ที่ดีในการใช้งานเว็บไซต์ ถ้าหากท่านไม่ยินยอมให้เราใช้คุกกี้นี้ เราจะไม่สามารถวัดผล ปรับปรุงและพัฒนาเว็บไซต์ได้
    Cookies Details

Save