“Ford Ranger Raptor – The Mysterious Journey”
ผจญภัยธรรมชาติอันสวยงาม บนเส้นทางชายฝั่งทะเลอันดามัน
รถบินได้ !!! คำนี้คงจะคุ้นหูและเห็นจากสื่อโฆษณาหลายๆช่องทาง แต่สิ่งที่จะเล่าต่อจากนี้ไม่ใช้แค่ รถกระบะบินได้ แต่ยังมีเทคโนโลยีอีกหลายอย่างที่ทำให้รถรุ่นนี้นั้นขับสนุก ชวนให้เพลินไปกับการขับขี่และสามารถไปได้แทบทุกเส้นทาง นั้นคือ ฟอร์ด เรนเจอร์ แร็พเตอร์ โดยเมื่อต้นเดือนที่ผ่านมา ฟอร์ด ประเทศไทย จัดทริปสุดพิเศษ เชิญทีมสื่อมวลชนเดินทางไปสัมผัสดินแดนลึกลับกับธรรมชาติอันสวยงามที่แฝงตัวอยู่บนเส้นทางชายฝั่งทะเลอันดามัน กับ “ฟอร์ด เรนเจอร์ แร็พเตอร์” ด้วยการออกแบบที่มีดีเอ็นเอของฟอร์ด เพอร์ฟอร์แมนซ์ เป็นหัวใจหลัก ฟอร์ด เรนเจอร์ แร็พเตอร์ คือ รถกระบะออฟโรดสมรรถนะสูงที่ทำลายทุกข้อจำกัดของเทคโนโลยี นวัตกรรม และความตื่นเต้นในการขับขี่ กระตุ้นอะดรีนาลีนของการขับรถออฟโรดให้สูบฉีบด้วยความเร้าใจ ตลอดเส้นทางบนชายฝั่งทะเลอันดามันอันท้าทายและเต็มไปด้วยเรื่องราวทางประวัติศาสตร์ เมื่อระหว่างวันที่ 7-9 กุมภาพันธ์ 2562 ณ จังหวัดภูเก็ต-พังงา-สุราษฎร์ธานี
เป้าหมายแรกเมื่อเดินทางถึงสนามบินภูเก็ต เราเดินทางมุ่งหน้าไปยังเขาหน้ายักษ์ อุทยานแห่งชาติหาดท้ายเหมือง-เขาลำปี อำเภอท้ายเหมือง จังหวัดพังงา ซึ่งเป็นแหล่งท่องเที่ยวทางทะเลที่สวยงามมีหาดทรายขาวละเอียด น้ำทะเลสีฟ้าใสตลอดชายหาดยาวกว่า 13 กิโลเมตร ทั้งยังมีโขดหินขนาดใหญ่ที่ถูกทับถมสะสมมาเป็นเวลานับล้านปี ปรากฏร่องรอยลวดลายสวยงามแปลกตา ด้วยรูปร่างของภูเขามีหน้าผาคล้ายใบหน้ายักษ์ จึงกลายเป็นที่มาของชื่อเรียกแหล่งท่องเที่ยวแห่งนี้ ซึ่งการเดินทางเข้าไปต้องใช้ระบบขับเคลื่อน 4 ล้อเพราะระหว่างทางเส้นทางเกือบทั้งหมดจะเป็นทรายสีขาวยาวตลอดถึงเขาหน้ายักษ์ และยังคงได้ใช้ ระบบ 4×4 Terrain Management System (TMS) ในโหมด โคลน/ทราย ซึ่งในระบบนี้การทำงานของเกียร์จะเปลี่ยนที่รอบเครื่องยนต์ที่สูงขึ้นเพื่อรักษาแรงบิดที่มีมหาศาลส่งต่อไปที่ล้อในการขับเคลื่อน
ต่อจากนั้นเราเดินทางไปยังเกาะคอเขาโดยเรือเฟอร์รี่ ซึ่งตั้งอยู่ริมฝั่งทะเลอันดามัน นอกจากจะมีแหล่งทรัพยากรธรรมชาติที่สมบูรณ์ยังมีป่าชายเลนผืนใหญ่ที่ทอดตัวทางทิศตะวันออกและหาดทรายขาวทางทิศตะวันตก ยังคงมีร่องรอยความเจริญของวัฒนธรรมในอดีต จากการสันนิษฐานของนักโบราณคดี เดิมที่นี่เป็นเส้นทางการค้าข้ามคาบสมุทรของชาวอินเดีย จีน อาหรับ และมลายู เนื่องจากเป็นเมืองท่าค้าขายและที่จอดเรือหลบมรสุม บ่งบอกประวัติศาสตร์ของเกาะแห่งนี้ที่มีมานานนับพันปี
การเดินทางมาเกาะคอเขาในครั้งนี้ ทีมสื่อมวลชนจะได้ทดสอบ ระบบ Terrain Management System (TMS) ในทุกโหมดกับขุมพลังเครื่องยนต์ใหม่ขนาด 2.0 ลิตร แบบ Bi-Turbo (เทอร์โบคู่) และเกียร์อัตโนมัติ 10 สปีด เทคโนโลยีล่าสุด กับพละกำลัง 213 แรงม้าและแรงบิด 500 นิวตันเมตร โดยเส้นทางที่เข้าสู่พื้นที่เป็นทางรุกรังมีหินกรวด ระยะทางยาวเสมือนทางแรลลี่ เราได้ใช้โหมดหญ้า/กรวดหิน (Grass/Gravel) ซึ่งออกแบบมาให้ขับขี่บนทางออฟโรดที่เป็นกรวดและพื้นผิวลื่น ทำให้เราคุมรถได้ง่ายด้วยระบบป้องกันล้อหมุนฟรีจะทำงานไวขึ้นเพื่อเพิ่มการเกาะถนนทุกความเร็ว ในโหมดนี้การเปลี่ยนเกียร์จะเปลี่ยนในรอบเครื่องที่ต่ำ คันเร่งจะตอบสนองช้าลงป้องกันรอบเครื่องที่สูง เพื่อไม่ให้ล้อหมุนฟรี ปลอดภัยไปได้สนุก
นอกจากนั้น โหมดบาฮา (BAJA) การขับขี่ออฟโรดความเร็วสูงได้ถูกนำมาใช้ในการทดสอบ ก่อนขึ้นเนินจั๊ม หรือเนินกระโดด ด้วยเทคโนโลยีโหมดบาฮา (BAJA) ถือเป็นครั้งแรกในกระบะบ้านเราที่มีโหมดนี้ การทำงานของโหมดนี้ระบบป้องกันล้อหมุนฟรีจะลดการทำงานลง เพื่อให้เร่งเครื่องได้เต็มที่ เกียร์จะเปลี่ยนที่รอบเครื่องยนต์ที่สูงกว่าปกติและรอบเครื่องค้างนานกว่าปกติเพื่อให้ได้กำลังสูงสุด ทีมสื่อก็กดคันเร่งกันเต็มที่ก่อนบินเนินที่ความเร็วสูงสุดที่ทำได้คือ 110 กม/ชม ลงพื้นมาได้อย่างนุ่มนวล ด้วยโช้คอัพ Fox Racing ดูดซับแรงกระแทกจากน้ำหนักตัวรถได้ ถือว่าผ่านสำหรับการรับภาระของน้ำหนักรถที่กระแทกลงเนินมาได้เป็นอย่างดี
นอกเหนือจากนั้น ฟอร์ด ยังคงพาไปทดสอบกับระบบล็อคเฟืองท้าย หรือดิฟล็อคไฟฟ้า ในการผ่านเส้นทางที่เป็นแบบร่องวี เพื่อให้เห็นถึงสมรรถนะของดิฟล็อคที่ทำหน้าที่ให้ล้อหลังทั้งซ้ายและขวาหมุนไปพร้อมกันโดยไม่มีล้อข้างได้หมุนฟรีได้
จากนั้น เราได้ทำกิจกรรมแรลลี่เกมล่าสมบัติ ค้นหาแหล่งโบราณคดีและพันธุ์ไม้หายากบนเกาะคอเขา แหล่งโบราณคดีบ้านทุ่งตึก ในบริเวณนี้มีซากอาคารโบราณสถานอยู่ถึง 3 แห่ง นอกจากนี้ยังได้พบฐานเทวรูป สัญลักษณ์รูปเคารพในศาสนาพราหมณ์ เหรียญเงินอินเดีย เศษภาชนะดินเผาที่ผลิตในสมัยราชวงศ์ถังของจีน และเครื่องแก้วของชาวเปอร์เซีย จากโบราณวัตถุที่พบเป็นจำนวนมาก จึงสันนิษฐานได้ว่า แหล่งโบราณคดีแห่งนี้อาจจะเป็นศูนย์กลางในการค้าขายของศรีวิชัย นอกจากสื่อมวลชนจะได้รับประสบการณ์การขับขี่แบบผจญภัยสุดเร้าใจทั้งตลอดกิจกรรมเกมล่าสมบัติ ยังได้ชมทัศนียภาพอันแปลกตาของพื้นที่ พร้อมทั้งต้นไม้ที่หายากเช่นดอกบัวบา ดอกบัวที่มีขนาดเล็กที่สุดและต้นหม้อข้าวหม้อแกงลิงที่ขึ้นอยู่จำนวนมาก
สุดท้ายเราทางได้ไปเยี่ยมชม กะปง แกรนด์ แคนยอน ประติมากรรมธรรมชาติที่มีลักษณะเป็นภูเขาสูงต่ำไม่เท่ากัน ปรากฏการณ์นี้เกิดจากการทำเหมืองแร่ในสมัยก่อนที่มีการขุดหาแร่ดีบุก ด้วยระบบเหมืองฉีด จึงทำให้มีกองทรายอยู่จำนวนมหาศาล ต่อมาถูกน้ำกัดเซาะจนพังทลายเป็นพื้นที่รูปร่างแปลกตากว่า 50 ไร่ เป็นที่น่าประทับใจของนักท่องเที่ยวที่มาเยี่ยมเยือน ในดินแดนหินผาที่ดูคล้ายสถานที่ท่องเที่ยวเลื่องลือในสหรัฐอเมริกา ซึ่งในการเดินทางสื่อมวลชนได้ใช้ระบบ Terrain Management System (TMS) โหมดการขับขี่โคลน/ทราย อีกครั้งหนึ่ง
เป็นอีกครั้งที่ฟอร์ด เรนเจอร์ แร็พเตอร์ ได้ส่งมอบประสบการณ์การขับขี่ที่เร้าใจ พร้อมรับมือความหฤโหดของทุกสภาพถนน ตลอดเส้นทางชายฝั่งทะเลอันดามันที่ท้าทายและเต็มไปด้วยเรื่องราวทางประวัติศาสตร์ ด้วยสมรรถนะและการตอบสนองอันยอดเยี่ยมของเกียร์อัตโนมัติ 10 สปีด ที่ทำงานร่วมกับเครื่องยนต์ดีเซลใหม่ขนาด 2.0 ลิตร แบบ Bi-Turbo (เทอร์โบคู่) ฟอร์ด เรนเจอร์ แร็พเตอร์ คือรถกระบะออฟโรดสมรรถนะสูง ที่ยกระดับการขับขี่ออฟโรดและปฏิวัติมาตรฐานของวงการรถกระบะไปอีกขั้นอย่างแท้จริง
