Ford Ranger PHEV เน้นความอเนกประสงค์สำหรับสายช่าง
Ford Ranger PHEV ซึ่งเปิดตัวออกมาที่ยุโรปเมื่อปีที่แล้ว และมีกำหนดการขายรถในปีนี้ นอกจากจะสามารถเดินทางโดยใช้เฉพาะไฟฟ้าได้เหมือนกับรถปลั๊กอินไฮบริดทั่วไปแล้ว ยังมีการทำงาน V2L สำหรับจ่ายไฟฟ้าให้กับอุปกรณ์ภายนอกเป็นออปชันให้เลือกเพื่อเพื่มความอเนกประสงค์ให้กับรถเมื่อใช้งานในสถานที่ไม่มีไฟฟ้า ซึ่งปกติแล้วการทำงานนี้มักมีในรถไฟฟ้า
การทำงาน V2L สำหรับจ่ายไฟฟ้าให้กับอุปกรณ์ภายนอกของ Ford Ranger PHEV ถูกเรียกว่า Pro Power Onboard โดยมีสองออปชันให้ผู้ซื้อรถเลือกติดระหว่างแบบฐานสร้างกระแสไฟฟ้าได้ 2.3 kW และแบบ 6.9 kW สำหรับผู้ที่ต้องการใช้งานร่วมกับอุปกรณ์หนักมากขึ้น ซึ่งจะมากับหนึ่งช่องจ่ายไฟ 10A หรือ 2.3 kW ในห้องโดยสารและสองช่องจ่ายไฟ 15A หรือ 3.45 kW ที่กระบะของรถ โดยแบบแรกผู้ซื้อรถต้องจ่ายเงินเพิ่ม 1,350 ยูโร ส่วแบบหลังจ่ายเพิ่ม 2,000 ยูโร
ทางผู้ผลิตยังบอกรายละเอียดเกี่ยวกับการทำงาน Pro Power Onboard ในรถปิกอัพปลั๊กอินไฮบริดของตนว่า จะปิดการทำงานเป็นค่าปรับตั้งพื้นฐาน แต่หากต้องการใช้งานก็ทำได้โดยการกดปุ่ม Generator เพื่อให้ระบบทำงาน โดยสามารถสลับช่องจ่ายไฟที่กระบะหลังได้จากจอทัชสกรีนในห้องโดยสารของรถ นอกจากนี้หากพลังงานในแบตเตอรีลดลงต่ำเกินไปเครื่องยนต์ 2.3 ลิตรก็จะติดอัตโนมัติเพื่อให้ยังคงมีการจ่ายไฟ
ระบบปลั๊กอินไฮบริดของรถประกอบด้วยเครื่องยนต์เบนซิน 2.3 ลิตร EcoBoost ระบบส่งกำลังอัตโนมัติ 10 สปีด มอเตอร์ไฟฟ้า 75 kW หรือ 100.5 แรงม้า และแบตเตอรี 11.8 kWh ให้กำลังรวมจากระบบ 279 แรงม้า แรงบิด 690 นิวตัน–เมตร สามารถเดินทาวโดยใช้เฉพาะไฟฟ้าได้ 45 กิโลเมตร โดยรถมากับระบบขับเคลื่อน 4 e-4WD รองรับน้ำหนักบรรทุกถึง 1,000 กิโลกรัม และสามารถลากจูงได้ถึง 3,500 กิโลกรัม
เรื่อง : กองบรรณาธิการ
เรียบเรียงข้อมูลโดย Off Road Magazine
ติดตามข่าวสาร ยานยนต์ รถใหม่ ได้ที่ Off Road Magazine
Comments are closed, but trackbacks and pingbacks are open.