ดวงจันทร์ห่างออกจากโลกไป 3 เซนติเมตรทุกปี จะนับอะไรกับความสูงของตัวรถออฟโรดความสูงในวันนี้อาจไม่ใช่ระดับสูงที่สุดในวันหน้า สเต็ปการตกแต่งช่วงล่างในระดับความสูง 3 นิ้ว และ 7 นิ้ว ในรถรุ่นเดียวกันมันก็มีรายละเอียดที่น่าสนใจ พูดมาแล้วถ้าไม่ไปลองมันก็น้ำนองในบ้านร้างกันน่ะสิ….
IMAGE IS FIRST…..สร้างเอกลักษณ์ด้วยของแต่ง
เรื่องราวของการขยับปรับเปลี่ยนโฉม หน่วยจู่โจมรถปิกอัพในบ้านเราให้กลายร่างเป็นรถที่มีขนาดใหญ่ขึ้น มันก็ต่อเนื่องกันมาตั้งแต่ปี 1997 เมื่อล่วงเลยเวลามาปี 2012 คำว่าใหญ่ของปิกอัพมันก็ถูกนิยามขึ้นมาใหม่ด้วยนายแบบที่มีความสด สดขนาดที่เรียกว่าดิ้นพล่านเหมือนปลาซาดีนขึ้นจากทะเล และเมื่อเวลาผ่านเลยไปเป็นไปได้ไงจะไม่ถูกตกแต่ง ช่วงเวลานี้จึงไม่ต้องแปลกใจที่จะเห็นได้มากมาย
และในครั้งนี้เองเมื่อคนแต่งอยากลองดูว่าไอ้ที่ตกแต่งไว้มันไปแนวไหนยังไง ไม่มีอะไรจะชัดเจนได้มากไปกว่าลองดู ทั้งหมดนอกจากจะได้ลองของกันแล้วยังได้ยืดเส้นยืดสายโชว์ลวดลาย แต่แท้จริงประเด็นสำคัญของการเดินทางมันก็คือการ “พัก” พักกายชั่วครู่พักหัวใจไว้ชั่วคราวแล้วมุ่งหน้าไป
สิ่งแรกที่ลูกเล็กเด็กแดงมองหาเมื่อเริ่มโตเป็นสาว นั่นก็คือกระจกกับแป้งพับสักตลับถ้าไม่อาจจับต้องก็แป้งกระป๋องไปก่อน นายแบบทั้งสองคันคือ FORD RANGER ที่ผ่านการตกแต่งมาในสเต็ปที่มีทั้งคล้ายคลึงและแตกต่างกันในแต่ละจุด หลักๆ เลยก็คือภายนอกรูปร่างหน้าตา มันก็ต้องจัดให้มันดูโดดเด่นกันด้วยของแต่ง ซึ่งปิกอัพพื้นฐานที่มีระบบขับเคลื่อนสี่ล้อ ทุกวันนี้มีคุณสมบัติติดตัวมาจากช่องคลอด ที่พัฒนาไปมากของแต่งก็มีทำออกมารอเหมือนประมาณว่ายื่นเอกสารและรับบัตรไปเลย ทั้งของแต่งสำนักต่างๆ หรือแม้กระทั่งของแต่งตรงรุ่นเองก็มีให้หากันเหลือคณา
รูปทรงที่คงไว้ซึ่งการออกแบบของรถยนต์ปิกอัพ จำต้องถูกเพิ่มเติมด้วยชุดแต่งต่างๆ นาๆ และสิ่งที่จะขาดไม่ได้ก็เป็นของแต่งรอบคันว่ากันตั้งแต่หน้ากระจังไปยันกันชนหลัง โดยมากของแต่งที่เป็นชุดพลาสติกหรือไฟเบอร์รอบคันจะเป็นของทาง GT-PRO ลักษณะของแผงกระจังซึ่งมันจะเสริมความสปอร์ตให้กับตัวรถและสร้างความแตกต่างให้กับเพื่อนร่วมรุ่นซึ่งมันก็ต้องแล้วแต่ว่าใครจะ “รถนิยมแบบไหน” บางครั้งของแต่งใส่เหมือนกันในส่วนใหญ่แต่เมื่อเปลี่ยนหรือเพิ่มเติมรายละเอียดเล็กๆ น้อยๆ เข้าไปรถมันก็ดูเป็นเอกลักษณ์ที่แตกต่างกัน
รถนายแบบทั้งสองคันถึงจะเป็นรถในรุ่นเดียวกันแต่สภาพโดยรวมจะมีความแตกต่างที่น่าค้นหาใน RANGER สีขาวจะมีความสปอร์ตที่เน้นไปทางนั้น ส่วนใน RANGER สีส้มก็จะเน้นรูปแบบรถลุยที่มากกว่า ในความเหมือนที่แตกต่างชุดโป่งล้อซึ่งในรถออฟโรดมันจะเป็นลายเส้นอย่างหนึ่งทั้งสองคันก็มีติดตั้งเอาไว้ ซึ่งสามารถที่จะเลือกการติดตั้งได้แบบถาวรและกึ่งถาวรเผื่อเปลี่ยนใจจะกลับไปเป็นสาย “แซ้ด” ในภายหลัง ที่กำลังจะบอกก็คือมันมีทางเลือกสำหรับการใส่ของแต่งอยู่มากมายไม่ต้องไปกลัวกับการตกแต่งรถ
คอนเซ็ปต์สปอร์ตที่คันสีขาวมีทั้งชุดไฟแต่งและเน้นการใช้งานในพื้นที่บรรทุกท้ายด้วยการติดตั้ง ROLLER LEAD และชุดสปอร์ตบาร์และการ์ดไฟพร้อมรายละเอียดของแต่งภายนอกรอบคัน แต่ก็ยังมีกลิ่นไอของกันชนหลังออฟโรดเอาไว้ประจำการซึ่งสิ่งที่ส่งเสริมกันในเรื่องของการใช้งาน
ตัวลุยสีส้มจะเพิ่มเติมของใช้แบบตัวลุยที่เน้นหนักไปยังภาพลักษณ์ออฟโรดอย่างที่เราคุ้นเคย จะเข้มกว่าด้วยกันชนหน้าของ PIAK และวินช์หน้า ROCK กับบันไดข้างที่เป็น SIDE STEP แบบปกป้องด้านข้างตัวรถพื้นตะแกรงกันลื่นสลัดดินโคลน ตั้งโด่งชัดเจนกับชุดท่อสนอร์เกิลของ IRONMAN 4×4 ที่เป็นรูปแบบของการถอดฝาข้างเพื่อติดตั้งไม่ต้องเจาะตัวรถ พร้อมด้วยราวหลังคาและกันชนท้าย และสิ่งที่จะขาดไปเสียไม่ได้กับของแต่ง “ถุงอัณฑะ” ห้อยใต้ท้องรถ
3 inch & 7 inch…..ขนาดไม่สำคัญอยู่ที่แรงดันและความถี่
ความได้เปรียบของรถยนต์ขับเคลื่อนสี่ล้ออย่างหนึ่งก็คือ มันพร้อมที่จะเดินทางไปในที่ซึ่งเราไม่แน่ใจได้ในระดับที่สมควรกับคุณสมบัติของรถ ในทุกวันนี้รถยนต์ปิกอัพพื้นฐานนั้นมี การออกแบบมาอย่างน่าพอใจ มันสามารถตอบสนองการใช้งานได้มากกว่าหนึ่งในนั้นก็คือเรื่อง ของการรองรับการตกแต่ง สมรรถนะของเครื่องยนต์ในรถนายแบบที่ทั้งสองคันเป็นรุ่นที่ใช้ เครื่องยนต์ขนาด 3,200 ซี.ซี. คันขาวนั้นติดตั้งชุดกล่องหลอกคันเร่งไฟฟ้าแบบปรับตั้งค่าได้ด้วย ตัวเองเอาไว้ คันส้มเน้นไปที่วิทยุสื่อสาร
อย่างที่ว่าถึงพื้นฐานที่มีมาในระดับหนึ่งสำหรับปิกอัพพื้นฐาน สมัยนี้เรื่องของการยกสูง หรือตกแต่งช่วงล่างไม่จำเป็นต้องจัดกันแบบเพียบก็สามารถที่จะส่งเสริมการใช้งานได้อย่าง สนใจ คันขาวทำการยกสูงขึ้นอีกสามนิ้วด้วยสเต็ปการตกแต่งเพียงแค่เปลี่ยนชุดโช้คอัพด้านหน้า พร้อมเปลี่ยนชุดปีกนกบนเป็นแบบปรับองศาเพื่อรองรับการตั้งมุมล้อที่มีปัจจัยที่ เปลี่ยนไป ด้านหลังนั้นใช้วิธีการรองก้อนใต้ตับแหนบกับชุดแหนบ ADD และโช้คอัพใหม่ ซึ่งดช้คอัพที่ใช้เป็นของแบรนด์ “แรด” หรือ RHINO ประมาณนนี้นายแบบก็ใส่ยางได้ขนาด 35 นิ้วและสามารถใช้งานได้ในระดับการขับขี่ที่รวดเร็วไม่ต้องปรับเปลี่ยนชิ้นส่วนมากมาย
ส่วนคันสีส้มนั้นเลือกที่จะมองไปที่ระดับความสูงเจ็ดนิ้ว ซึ่งจำเป็นที่จะต้องไปคบหากับ ชุดยกของ UNICON ระบบรองรับโช้คอัพหน้าและหลังก็ RHINO แต่ชุดสปริงหน้าเปลี่ยนไปเป็นของ DOBINSON เพื่อรองรับกับน้ำหนักที่เพิ่มมากขึ้นจากชุดกันชนหน้าและวินช์หน้านั่นเอง อย่างที่เรามักจะพูดกันอยู่เสมอ การตกแต่งรถนั้นมันต้องคำนึงถึงเรื่องของน้ำหนักรถและของแต่งเพราะมันเกี่ยวข้องกับการเซ็ตอัพช่วงล่างนั่นเอง ในสเต็ปนี้ก็จะทำให้มีทางเลือกในการสร้างรูปแบบตกแต่งได้มากขึ้นตามแบบตัวลุย ซึ่งคันส้มยังเลือกที่จะใส่ยางขนาด 35 นิ้วเช่นเดียวกัน ทั้งที่จริงๆ ความสูงระดับนี้สามารถใส่ได้ขนาดใหญ่กว่านี้ ส่วนการยกด้านหลังรองก้อนและโช้คอัพแบรนด์เดียวกัน ต่างกันที่รุ่นซึ่งใช้แบบแกนใหญ่พิเศษ และทั้งสองหนุ่มขนาดแตกต่างสามนิ้วและเจ็ดนิ้วมันจะตอบสนองหรือแสดงการตอบรับกับเราเป็นอย่างไรมันก็ต้องพากันไปค้นหาตัวตน
RANGER GONE WILD…..เหนื่อยก็พักรักก็เลื้อย
ทางเลือกของการยกสูงในสเต็ปที่ทั้งสองคันเป็น มันก็อาจจะหาคำจำกัดความได้จากการเดินทาง แต่คำจำกัดความเราไม่ได้ต้องการจะบอกว่าอะไรคือสิ่งที่เหมาะสมที่สุดแต่คุณควรจะเห็นในสิ่งที่เหมาะสมกับตัวคุณรูปแบบการใช้งานของคุณเป็นหลักมากกว่า
ระดับของช่วงล่างที่ยกสูงของทั้งสองคัน เป็นระดับที่สามารถใช้งานบนเส้นทางถนนออนโรดได้อย่างคล่องตัว แต่ความมั่นใจรถออฟโรดอย่างเรามันได้เปรียบผู้อื่นอยู่แล้วเป็นทุนเดิม เมื่อสิ่งที่บอกให้คุณรู้จักเป็นระยะความสูงที่แตกต่าง คำถามของใครหลายคนที่มาพร้อมกับข้อสงสัยว่าทำไมรถออฟโรดต้องยกสูง คำตอบของมันไม่ได้อยู่ที่ความต้องการเท่านั้นแต่มันต้องอยู่ที่การใช้งานจริง เมื่อเห็นว่ามันยกสูงแล้วก็คงเข้าใจว่าก็คงไม่ใช้เรื่องยากที่จะเดินทางผ่านเส้นทางออฟโรดไป แต่มันคงไม่สำเร็จรูปขนาดนั้น
ทางออฟโรดบางครั้งมันก็เหมือนกับเส้นทางชีวิตของคน บางคนเลือกที่จะหนีความลำบากด้วยการดีดตัวเองให้สูงขึ้นและคิดว่ายิ่งสูงคงจะยิ่งลำบากน้อยลง ซึ่งมันก็อาจจะจริงในปัจจุบันและอนาคตแต่ไม่ใช่ตลอดกาล เพราะความสูงไม่ใช่สิ่งเดียวที่จะสามารถทำให้การเดินทางออฟโรดสะดวกสบายเสมอไป รถเรากำหนดได้แต่เส้นทางบางครั้งเราก็กำหนดไม่ได้ ถ้าเป็นการข้ามเส้นทางซึ่งมีอุปสรรคที่เราต้องการจะหนี รถที่สูงกว่าย่อมได้เปรียบ แต่ภายใต้ความสูงบนพื้นผิวคุณก็ยังต้องเจอกับสิ่งที่มันจะดึงคุณลงต่ำทั้งจากการกระทำของคุณเอง เช่นในยามที่คุณปั่นล้อจนเกิดหลุมลึก
แต่ไม่ว่าจะยกสูงขึ้นไปแค่ไหนสิ่งที่อยู่ด้านล่างกับชิ้นส่วนช่วงล่างตัวรถก็ยังต้องมีเสมอ เหล่านี้เป็นสิ่งที่อาจจะเจอกับอุปสรรคที่พื้นผิวได้ง่าย การยกช่วงล่างปีกนกยังต้องใช้ความระมัดระวังในส่วนนี้ซึ่งมันเป็นจุดเด่นของการที่ไปคบหากับคานแข็งเพราะแข็งแรงกว่าอย่างที่เราทราบกัน แต่มันก็เดินทางได้นะ เพียงต้องอาศัยความไว้ใจและความร่วมมือบอกไลน์กันให้ดี เคลียร์พื้นที่ให้พร้อมแล้วก็หยอดบ้าง ที่สำคัญรู้จักลิมิตของปัจจัยทั้งหมดจะช่วยให้คุณถึงจุดหมาย
ส่วนบนทางออนโรดนั้นชุดระบบรองรับตอบสนองได้อย่างสนใจด้วยการเซ็ตช่วงล่างโดยเฉพาะโช้คอัพที่ใช้เทคโนโลยีแบบเดียวกับโช้คอัพแบรนด์ดัง ทำให้การตอบสนองเป็นอย่างที่เรารับรู้และบอกไป กับสิ่งที่เรากำลังมองหาก็คือการใช้งานในระดับที่เป็นระดับสากล การตกแต่งระดับนี้พาคุณเดินทางไปได้อย่างมากมาย จากระดับรถพื้นบานที่มันก็มาเต็มเพิ่มเติมส่วนเสริมด้วยการตกแต่งเข้าไปในชุดช่วงล่างที่เหมาะสมเป็นสิ่งที่น่าสนใจ ออฟโรดมันเป็นชีวิตกลางแจ้งที่น่าค้นหา เพราะไม่เพียงแต่เราจะได้อะไรจากการเดินทางไปถึงจุดหมาย แต่ระหว่างทางการที่เราได้หยุดมองสิ่งรอบๆ ตัวสิ่งที่เป็นธรรมชาติ พลังชีวิตของคุณก็จะเพิ่มเติมขึ้น กับสเต็ปและวิธีการของการตกแต่งในระดับที่นายแบบคู่ DUO มาโชว์ร่างให้เห็น ประมาณนนี้ก็ “ว๊าป” แล้วมั้ง
ตอนนี้เป็นยุคทองของการตกแต่งรถ ฝีมือช่างมีพร้อมของแต่งมีให้เลือกหลากหลายแต่งได้อย่างใจได้ใช้รถที่แตกต่าง เมื่อเราแต่งรถสิ่งที่เราจะได้ก็คือรถมันก็จะให้ความรู้สึกแปลกใหม่กับคุณ…..
เรียบเรียงข้อมูลโดย นิตยสาร ออฟโรด : www.grandprix.co.th/offroadmagazine
ติดตามข่าวสาร ยานยนต์ รถจักรยานยนต์ รถใหม่ ไดที่ www.grandprix.co.th
Comments are closed, but trackbacks and pingbacks are open.