Ford Expedition เพิ่มความทันสมัยมากขึ้นทั้งดีไซน์และเทคโนโลยี
Ford เปิดตัวรถเอสยูวีฟูลไซส์ Expedition รุ่นใหม่ซึ่งเป็นเจเนเรชันที่ 5 ออกมา โดยถูกระบุว่าได้รับการออกแบบมาเพื่อตอบโจทย์ครอบครัวใหญ่ชอบเดินทางและใช้ชีวิตกลางแจ้ง พร้อมเพิ่มความทันสมัยมากขึ้นทั้งดีไซน์และเทคโนโลยี และเพิ่มความอเนกประสงค์มากขึ้น รวมทั้งยังมีเกรด Tremor ที่เน้นความแกร่งและความสามารถในการลุยออฟโรดให้เลือก
Ford Expedition ใหม่มีสองความยาวของรถให้เลือกระหว่างรุ่นมาตรฐานตัวรถยาว 5,331 มม. พร้อมระยะฐานล้อยาว 3,112 มม.และ Expedition Max มีความยาว 5,631 มม. ระยะฐานล้อยาว 3,340 มม. โดยรถทั้งสองรุ่นมีความกว้าง 2,032 มม. เท่ากัน ส่วนการออกแบบภายนอกรถแสดงถึงทั้งความทันสมัยและความแข็งแกร่ง ด้วยด้านหน้ารถที่มีกระจังหน้าตั้งตรง ไฟหน้าแยกเป็นสองส่วน ไฟ Daytime Running Light รูปตัวซีพร้อมมีแถบไฟใต้กระจังหน้า และกันชนหน้าที่เน้นความแข็งแกร่ง
ด้านข้างของรถเน้นความแข็งแกร่งด้วยเส้นที่เฉียบคมยาวจากเหนือซุ้มล้อหน้าถึงไฟท้าย พร้อมมีเสารถสีดำ ส่วนด้านหลังรถมีไฟท้ายแนวตั้ง โดยมีชื่อรุ่นของรถและแถบไฟที่ฝาท้ายของรถ
ส่วนเกรด Tremor ที่เน้นความสามารถในการลุยมากขึ้นมีความโดดเด่นกว่าเกรดอื่นด้วยการใช้สีส้มแต่งภายนอก มีไฟ LED เสริมที่กระจังหน้า ส่วนใต้ท้องรถมีการป้องกันด้วยแผงกันกระแทก พร้อมมีบันไดข้างมากับรถ นอกจากนี้รถยังมียางออลเทอร์เรน 33 นิ้วเป็นอุปกรณ์มาตรฐาน ส่วนความสูงจากพื้นถึงใต้ท้องรถอยู่ที่ 269 มม.
ห้องโดยสารของรถมีจอแสดงข้อมูลการขับพาโนรามาขนาด 24 นิ้ว ส่วนจอตรงกลางเปลี่ยนจากจอแนวตั้งในรุ่นก่อนหน้าเป็นจอแนวนอน นอกจากนี้ยังเพิ่มความสะดวกการใช้งานพื้นที่เก็บสัมภาระด้านหลังด้วยฝาหลัง Split Gate ไฟฟ้าที่ส่วนบนเปิดขึ้นด้านบน ขณะที่ฝาท้ายส่วนล่างเปิดพับลงในลักษณะฝาท้ายของรถปิกอัพได้
ความอเนกประสงค์ของรถยังรวมไปถึงการที่ฝาท้ายส่วนล่างที่เปิดแบบพับลงรองรับน้ำหนักได้ถึง 227 กิโลกรัมจึงทำให้สามารถใช้เป็นที่นั่งได้ ในขณะที่ด้านหลังของเบาะสามรถปรับเป็นโต๊ะได้ นอกจากนี้พื้นที่เก็บสัมภาระยังมีช่องจ่ายไฟสำหรับชาร์จไฟให้กับอุปกรณ์อีเล็กทรอนิก
รถยังมีออปชันเบาะแถวที่ 3 แบ่งพับ 40/20/40 สำหรับการขนสิ่งของที่มีความยาวให้เลือกติด รวมทั้งมี Digital Device Holders ที่พนักพิงศีรษะของเบาะหน้าสำหรับยึดสมาร์ทโฟนหรือแท็บเล็ต
ขุมพลังของรถมี 2 ทางเลือกระหว่างเครื่องยนต์ V6 EcoBoost 3.5 ลิตร 400 แรงม้า แรงบิด 651 นิวตัน-เมตร หรือเครื่องยนต์ V6 ที่มีกำลังมากขึ้นเป็น 440 แรงม้า แรงบิด 691 นิวตัน-เมตรขึ้นอยู่กับเกรด ส่วนการขับเคลื่อนมีทั้งด้วยล้อหลังหรือทุกล้อของรถผ่านระบบส่งกำลังอัตโนมัติ 10 สปีด ขณะที่ความสามารถในการลากจูงอยู่ที่ 3,175 กิโลกรัม และทำได้ถึง 4,355 กิโลกรัมเมื่อติดหูเกี่ยวที่เป็นอุปกรณ์เสริม รวมทั้งรถยังมาพร้อมกับระบบช่วยขับ BlueCruise ADAS ที่ทำให้สามารถละมือในขณะขับบนทางหลวงได้เกือบทุกเกรด
ทางFord จะเริ่มรับจองรถปลายเดือนตุลาคมนี้โดยราคารถเริ่มต้นตั้งแต่ 61,700 ดอลลาร์ ส่วนการส่งมอบรถถูกคาดการว่ามีในช่วงฤดูใบไม้ผลิปี 2025
เรื่อง : กองบรรณาธิการ
เรียบเรียงข้อมูลโดย Off Road Magazine
ติดตามข่าวสาร ยานยนต์ รถใหม่ ได้ที่ Off Road Magazine
Comments are closed, but trackbacks and pingbacks are open.