Ford วางแผนที่จะเป็นผู้ผลิตรถยนต์ไฟฟ้ารายใหญ่เป็นอันดับ 2 ภายในอีก 2 ปีข้างหน้า ซึ่งคาดว่าจะต้องผลิตรถยนต์ไฟฟ้าออกมาประมาณ 600,000 คันต่อปี
Ford คิดว่าสามารถบรรลุเป้าหมายนั้นได้หลังจาก F-150 Lightning ได้รับความสนใจอย่างมาก และ Lisa Drake ซีโอโอของ Ford North America เปิดเผยว่า ยอดจองรถกระบะไฟฟ้าทั้งหมดใกล้ 200,000 คันแล้ว
Lisa Drake กล่าวในการประชุมนักลงทุนว่า Ford กำลังทำงานอย่างหนักเพื่อสร้างความสัมพันธ์กับซัพพลายเออร์ นั่นหมายความว่าโรงงานที่ผลิตชิ้นส่วนสำหรับรถสันดาปจะสามารถผลิตชิ้นส่วนสำหรับรถยนต์ไฟฟ้าได้เช่นกัน
นอกจากนี้ Ford ยังทำงานร่วมกับซัพพลายเออร์แบตเตอรี่ 5 รายทั่วโลก เพื่อตอบสนองความต้องการแบตเตอรี่ในการผลิตรถยนต์ไฟฟ้า และยังช่วย Ford พัฒนาและมีกำลังการผลิตสูงสุด 240 กิกะวัตต์ต่อชั่วโมงทั่วโลกภายในปี 2030 นอกจากนี้ Ford ยังมองหาเคมีสำหรับเซลล์แบบใหม่และแบตเตอรี่โครงสร้างแบบเซลล์ต่อแพ็คที่จะช่วยลดต้นทุนได้ ซึ่งในการร่วมมือดังกล่าวคาดว่าจะลดราคาแบตเตอรี่ลงเหลือ 80 ดอลลาร์ต่อกิโลวัตต์-ชั่วโมง
Ford และ BMW ยังได้ลงทุนใน Solid Power บริษัทผู้ผลิตชั้นนำของอุตสาหกรรมแบตเตอรี่โซลิดสเตต ซึ่งตั้งอยู่ที่รัฐโคโลราโด สหรัฐอเมริกา เพื่อพัฒนาแบตเตอรี่โซลิดสเตต เทคโนโลยีนี้ปลอดภัยกว่าและใช้พลังงานมากกว่าแบตเตอรี่รุ่นปัจจุบัน ซึ่งจะช่วยขยายช่วงระยะทางในการใช้งานรถยนต์ไฟฟ้าและลดเวลาในการชาร์จลงได้อีกด้วย
Comments are closed, but trackbacks and pingbacks are open.