ด้วยว่ายางของรถออฟโรดนั้นมีหลายประเภทอย่างที่รู้กัน ประกอบไปด้วย 3 ประเภทหลัก คือ
1.ยาง HT หรือ Highway Terrain ยางที่พบเห็นกันได้ในรถทั่วไป ออกแบบมาให้เหมาะสำหรับบนถนนทางเรียบเป็นหลัก ใช้ความเร็วได้สูงตามกำหนดของยางแต่ละรุ่น
2.ยาง AT หรือ All Terrain ยางที่ออกแบบมารองรับการใช้งานได้ในหลากหลายสภาพถนน ทั้งบนถนนทางเรียบและทางทุรกันดาร ซึ่งเป็นเหมือนยางอเนกประสงค์ เพราะสามารถขับลุยในเส้นทางออฟโรดได้เหมาะสมกว่ายางแบบ HT แต่ต้องเป็นยางคุณภาพมาตรฐาน จึงจะสามารถใช้งานได้อย่างเต็มที่ ทั้งการใช้ความเร็วบนทางเรียบและการลุยอุปสรรค
3.ยาง MT หรือ Mud Terrain ยางที่ออกแบบมาสำหรับงานลุย แตกต่างด้วยลักษณะของยางที่มีความแข็งแกร่ง ทนทานต่อการบด เบียด ทิ่ม แทง จากสิ่งรอบข้าง ดอกยางใหญ่กว่าเพื่อการแทรกตัวในพื้นทางที่อ่อนนุ่ม ลดการยึดเกาะของดินโคลน เรียกได้ว่าเป็นยางสำหรับการเดินทางแบบออฟโรดอย่างแท้จริง
บางคนอาจมีข้อสงสัยว่าสำหรับรถออฟโรดแล้วหากจำเป็นต้องเดินทางไปบนเส้นทางถนนหลวง จะต้องทำการเปลี่ยนยางให้เหมาะสมก่อนหรือไม่ ตรงนั้นอยู่ที่ความต้องการ บางคนเลือกที่จะสลับยางใช้งานไปมา มียางหลายชุด ถ้าหากใช้งานบ่อย เป็นประจำอย่างเช่นเอารถออฟโรดไปเดินทางบนถนนหลวง แบบนี้เลือกยางให้เหมาะสมจะช่วยให้ขับขี่ได้สะดวก
แต่ความเป็นจริงหากเป็นการเดินทางจริงสามารถใช้งานยาง Mud Terrain บนถนนทางเรียบได้ อาจจะใช้ความเร็วได้ไม่สูงมากนัก เสียงของยางกับพื้นถนน และการสึกหรอของยางที่ผิดปกติอาจจะเกิดขึ้นได้บ้าง ใช้เชื้อเพลิงมากขึ้นสักเล็กน้อย แต่ไม่ใช่เรื่องที่ต้องกังวล ให้ดูที่ความต้องการใช้งานที่เป็นจริงเป็นหลักจะสะดวกกว่า
ในส่วนของยาง Mud Terrain ปัจจุบันมีการแตกไลน์ออกมาเป็นยางแบบ Extreme อีกด้วย บางคนนำเอามาใส่ในรถออฟโรดซึ่งไม่ผิด เพราะมีคุณสมบัติที่เทียบเท่ากับยางแบบ Mud Terrain แต่อาจจะมีราคาที่สูงกว่า มีขนาดยางที่หลากหลาย ใหญ่กว่าให้เลือก อาจจะพบเห็นได้ในรถที่ตกแต่งในลักษณะของ Big foot ลวดลายการออกแบบของดอกยาง จะมีลวดลายแปลกตา เพิ่มการยึดเกาะกับพื้นผิวที่สูง เพื่อการปีนป่ายอุปสรรค ซึ่งหากเป็นรถเพื่อการเดินทางออฟโรดท่องเที่ยวแล้ว ยางแบบ Mud Terrain ก็ถือว่าเหมาะสมแล้ว…
Comments are closed, but trackbacks and pingbacks are open.