รถยนต์ไฟฟ้าจะกลายมาเป็น “New Normal” ได้หรือไม่?
เรารู้มานานแล้วว่าการเปลี่ยนไปใช้รถยนต์พลังงานไฟฟ้ากำลังเดินหน้าไปสู่อนาคต และแผนการยุติการขายเครื่องยนต์ ICE หรือเครื่องยนต์สันดาปภายในอีก 10 ปีข้างหน้า แม้แต่ในประเทศที่ยังคงสามารถซื้อรถยนต์ที่ใช้น้ำมันได้อย่างถูกกฎหมายหลังปี 2030 ก็เป็นอะไรที่ยากกว่ามากเพราะบริษัทรถยนต์หลายแห่งจะไม่ผลิตเครื่องยนต์ปล่อยมลพิษอีกแล้ว
ถึงแม้ว่ารถยนต์ใหม่จากผู้ผลิตรายใหญ่เกือบทุกคันที่มีขุมพลังไฟฟ้าหรือแม้กระทั้งไฮบริดบางประเภท แต่ปี 2030 หรือ 2035 อาจฟังดูยังอีกยาวไกล แต่ดูเหมือนว่าตอนนี้เรามาถึงจุดเปลี่ยนแล้วและการเปลี่ยนไปใช้พลังงานไฟฟ้านั้นเร็วกว่าที่คาดไว้มาก เพราะจากบทความล่าสุดโดย The Atlantic ได้ระบุไว้ว่า เราได้เข้าสู่จุดเปลี่ยนในการนำรถยนต์ไฟฟ้ามาใช้และมีหลักฐานมากมายที่บ่งชี้ว่านั่นคือสิ่งที่กำลังเกิดขึ้น
อย่างแรกเลยคือเน้นตัวเลขจาก S&P Global ที่ระบุว่ารถยนต์ไฟฟ้า (EV) และรถยนต์ไฮบริดเสียบปลั๊ก (PHEV) คิดเป็น 9 เปอร์เซ็นต์ ของยอดขายรถยนต์ทั่วโลกในปีนี้ ซึ่งเพิ่มขึ้นอย่างมากจาก 3 เปอร์เซ็นต์ เมื่อสองปีก่อน ซึ่งทราบดีว่ารถยนต์ไฟฟ้ามียอดขายสูงกว่าเครื่องยนต์ดีเซลในยุโรปในปีนี้เป็นครั้งแรก
หนึ่งในประเทศที่เป็นผู้นำในการผลักดันการใช้พลังงานไฟฟ้าคือประเทศนอร์เวย์ ซึ่งห้ามขายรถยนต์ ICE ตั้งแต่ปี 2025 ซึ่งเร็วกว่าประเทศอื่นๆ เช่น สหราชอาณาจักรถัดไปอีก 5 ปี แต่ตามรายงานของนิตยสาร Motor ของสหพันธ์ยานยนต์นอร์เวย์ ได้กล่าวว่า ผู้บริโภคกำลังเปลี่ยนจากรถยนต์ธรรมดามาเป็นทางเลือกรถยนต์ไฟฟ้าในอัตราที่เพิ่มมากขึ้นจนขายรถยนต์ใช้น้ำมันคันสุดท้ายในเดือนเมษายนในปี 2022
จากนั้นก็มีการประกาศล่าสุดของ Ford ว่ากำลังร่วมมือกับ SK Innovation ผู้ผลิตแบตเตอรี่ของเกาหลีใต้ พร้อมทุ่มเงินถึง 11.4 พันล้านดอลลาร์ (ประมาณ 385,548 ล้านบาท) เพื่อสร้างโรงงานแห่งใหม่สองแห่งในรัฐเทนเนสซีและเคนตักกี้เพื่อผลิตแบตเตอรี่และรถบรรทุกไฟฟ้า
นับว่าเป็นการลงทุนครั้งใหญ่ แม้ว่าบริษัทผู้ผลิตรถยนต์ของคู่แข่งจะทุ่มเงินจำนวนมหาศาลไปให้กับรถยนต์ไฟฟ้า อย่าง Honda ทุ่ม 46 พันล้านเหรียญสหรัฐ (1,556,640 ล้านบาท) และ Volkswagen มูลค่า 60 พันล้านเหรียญสหรัฐ (2,032,000 ล้านบาท) โดยรวมแล้ว อุตสาหกรรมรถยนต์จะใช้เงินมากกว่า 5 แสนล้านเหรียญสหรัฐ (16,935,000 ล้านบาท) สำหรับรถยนต์ไฟฟ้าภายในปี 2030 และวางใจได้เลยว่า “New Normal” รถยนต์ไฟฟ้า จะต้องมาถึงก่อนที่เราจะรู้ตัวอย่างแน่นอน
Comments are closed, but trackbacks and pingbacks are open.