คณะผู้รวมเดินทาง Drive Across Asia นำโดยคุณราชัน ไตรรัตน์ และพวรรคพวกรวม 18 ท่าน พร้อมด้วยรถยนต์ 4WD จำนวน 9 คัน โตโยต้า Prado 3 คัน, Revo GR Sport 1 คัน, ฟอร์ด Raptor 4 คัน และ Everest 1 คัน
(ต่อจากฉบับที่แล้ว) จากกรุงเทพ ขับมาถึงชายแดนจีน-ปากีสถาน 15 วัน พัก 2 คืนเพื่อพักผ่อนและตรวจเช็ครถ 1 วัน ที่เมืองชายแดนแท็กซ์คอร์แกน หนาวสุดๆ เจออากาศติดลบ -18C’ Day 16 (5 มี.ค.68) เดินทางต่อจาก แท็กซ์คอร์แกน > คัชการ์ ทาง 300 กม. จากนี้เส้นทางล่องกลับเมืองไทย Day 17 คัชการ์ > คู่เชอ ทาง 720 กม. และเส้นทางอีกกว่าพ้นกิโลเมตรกว่าจะเข้าเขตซินเจียงเพราะซินเจียงเป็นมณฑลที่มีพื้นที่มากที่สุดในประเทศจีน จากนั้นเราจะผ่านมณฑลกานซูผ่านพื้นที่มณฑลเสฉวนและมณฑลชิงไห่ ไปจนถึงมณฑลยูนาน
Day 18 คู่เชอ > ถู่หลู่ฟาน ระยะทาง 650 กม. จากตะวันตกสุดของจีน ไปใต้สุดของจีนยาวมากกว่า5,000 กม. แผ่นดินจีนที่มีธรรมชาติสวยสุดอลังการต้องที่ แชงกรีล่า (Shangri La) เมืองสวยแห่งเทือกเขาหิมาลัยอยู่ทางตะวันตกเฉียงเหนือของมณฑลยูนานเดิมมีชื่อว่า เมืองจงเตี้ยน (Zhongdian) ดินแดนในฝันของใครหลายคน มีภูเขาสูงโอบล้อม ตัวเมืองมีความเก่าแก่ ทั้งวัด ทะเลสาบ ภูเขา มีความเป็นชนบท สถาปัตยกรรมงดงามเป็นดินแดนที่ตั้งอยู่บนที่สูงกว่าระดับน้ำทะเลถึง 3,160 เมตร อากาศเย็นสบายตลอดทั้งปีทำให้เมืองแห่งนี้ไม่ต่างจากสวรรค์บนดินผ่านกลางทะเลทราย จะผ่านภูเขาสูงเส้นทาง G318
Day 19 ถู่หลู่ฟาน > ฮามิ ระยะทาง 410 กม. ช่วงนี้ขับรถจากพื้นที่ภูเขาสูงน้ำแข็งและหิมะทั้งเมืองด้านจีนตะวันตกเฉียงเหนือติดชายแดนรัสเซีย, อุซเบกิสถาน ผ่านทะเลทรายโซนที่ใหญ่ที่สุดเพื่อที่จะมุ่งหน้ามาทางใต้จากพื้นที่ใกล้ชายแดนมองโกเลียขับล่ิองใต้ ผ่านทะเลทรายไปชายแดนอินเดียและเนปาล ไปเทือกเขาหิมาลัยเป็นเส้นทางฝั่งตะวันตกเฉียงเหนือไปตะวันตกเฉียงใต้ ภาพจากช่วงนี้จะเป็นถนนผ่านทะเลทรายอีกหลายวัน เวลาขับผ่านทะเลทรายจะเห็นเป็นพายุหมุนระหว่างทางเป็นระยะเราต้องเปิดไฟหน้า และเข้าจุดพักรถไม่สามารถเปิดหน้าต่างและประตูพร้อมกับได้ทั้ง2 บาน เนื่องจากความแรงของลมจากกระชากเอาสิ่งของภายในรถปลิวหายไป อย่างรวดเร็วคนจีนที่ใช้ชีวิตอยู่กับทะเลทรายเป็นเผ่าพันธุ์ที่อดทนมาก แกร่งมาก
Day 20 ฮามิ > ตุนหวง วันนี้ติดชายแดนมองโกเลียจะมุ่งหน้าลงใต้สุดไปจนถึงชายแดนเนปาล และอินเดีย เส้นทางขนส่งสินค้าเศรษฐกิจสายเลือดใหญ่สุดจากภาคตะวันออกของจีนจากเมืองใหญ่เช่น ปักกิ่ง,เซี่ยงไฮ้ ที่จะส่งไปทางยุโรปจะใช้ถนน G30 ที่จะต้องผ่านซินเจียงไปด่านประเทศอุซเบกิสถาน ผ่าน อัลมาตี เมืองในคาซัคสถานสู่กลุ่มประเทศยุโรปทั้งหมด
อะไรคือเส้นทางสายไหม แห่งศตวรรษที่ 21….ศักยภาพในการเร่งการเติบโตและยกระดับคุณภาพของการเติบโตทางเศรษฐกิจที่เกิดขึ้นจากระบบเศรษฐกิจเครือข่ายคือ ยุทธศาสตร์ “One Belt, One Road” (OBOR) หรือยุทธศาสตร์เส้นทางสายไหมใหม่ที่นำโดยสาธารณรัฐประชาชนจีน เพื่อพัฒนาความเชื่อมโยงด้านการคมนาคมและโลจิสติกส์ระหว่าง 60 ประเทศ ซึ่งมีรายได้ประชาชาติรวมกันคิดเป็นสัดส่วนราว 50% เราได้ยินถึงคำว่าเส้นทางสายไหมของศตวรรษที่ 21 หรือ One Belt One Road เริ่มต้นเมื่อปี 2013 เมื่อกางแผนที่ออกเราจะเห็นแขนของเส้นทางแผ่ออกไปทั้งทางบกและทางทะเลโดยจุดหมายปลายทางของทางบกนั้นสิ้นสุดที่ยุโรป เช่นเดียวกับทางทะเลปลายทางคือยุโรปเช่นเดียวกัน เส้นทางของ Silk Road Economic Belt คือเส้นทางขนส่งทางบกที่จะเชื่อมจีนและยุโรปเข้าด้วยกันดังเส้นทางสายไหมในยุคโบราณ เส้นทางนี้เป็นการเชื่อมโดยโครงข่ายรถไฟความเร็วสูงของจีนเข้าไปยังส่วนลึกของเอเชียกลาง เข้าไปยังตะวันออกกลาง ผ่านประเทศตลาดสำคัญอย่าง คาซัคสถาน อิหร่าน ข้ามไปยังตุรกีเข้าสู่ยุโรปผ่านเมืองสำคัญในยุโรป
Day 21 ตุนหวง > ฉาข่า มณฑลชิงไห่ ระยะทาง 740 กม.ช่วงนี้มีทั้งขับยาว 600-700 กม. และขับสั้น ๆเพื่อที่จะแวะเที่ยวระหว่างทางด้วย จุดพักนอนที่เมืองตุนหวง มีสถานที่ท่องเที่ยวสวยงามแปลกตา คือทะเลทราย หมิงซาซาน เนินทรายหมิงซาซาน (Mingsha Shan) กิจกรรมในการมาเยือนตุนหวง คือ การขี่อูฐ ที่เนินทรายแห่งนี้ เนินทรายนี้มีความสูงกว่า 200 เมตร และมีรูปร่างที่โค้งเว้าเป็นลอนคลื่น ทำให้ทัศนียภาพที่มองเห็นเหมือนทะเลทรายที่ทอดยาวไปจนสุดสายตา การขี่อูฐผ่านเนินทรายหมิงซาซานเป็นประสบการณ์ที่ทำให้เรารู้สึกเหมือนย้อนเวลาสู่ยุคโบราณ เมืองตุนหวง เป็นจุดแวะพักสำคัญบนเส้นทางสายไหมโบราณ ซึ่งเชื่อมโยงการค้าและวัฒนธรรมระหว่างจีนกับประเทศแถบตะวันตก เมืองนี้มีอายุมากกว่า 2,000 ปี และเป็นศูนย์กลางของศาสนา ศิลปะ และการแลกเปลี่ยนวัฒนธรรม
Day 22 ฉาข่า > ซีหนิง ระยะทางทาง 300 กม. จากเมืองทะเลทราย ตุนหวง ความสูงระดับน้ำทะเลจาก 1,200 เมตรไต่ขึ้นภูเขาหิมะเป็นที่ราบสูงชิงไห่ ที่นี่เรียกว่าเป็นมณฑลหลังคาโลกก็ว่าได้เพราะความสูง 3,200 – 3,500 เมตร ตลอดระยะทางกว่า 1,000 กม. มณฑลชิงไห่ ที่เขตใจกลางของที่ราบสูงชิงไห่ – ทิเบต อุณหภูมิเฉลี่ยต่อปีต่ำกว่า 0 C’ ที่ราบสูงแห่งนี้เป็นต้นกำเนิดของแม่น้ำใหญ่หลายสายของเอเชีย เช่น แม่น้ำแยงซี แม่น้ำโขง แม่น้ำคงคาและแม่น้ำสินธุ แม่น้ำล้านช้าง เป็นแม่น้ำชื่อดังระหว่างประเทศ แม่น้ำสายสำคัญของเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ และจัดอยู่อันดับ 6 ของแม่น้ำสายสำคัญเอเชีย ต้นกำเนิดอยู่ที่มณฑลชิงไห่ ที่ราบสูงชิงไห่ – ทิเบต มีแม่น้ำสายเล็กประมาณ 400 สาย น้ำที่ละลายจากหิมะบนภูเขามาบรรจบกันในแม่น้ำสายนี้ ไหลผ่านมณฑลชิงไห่ เขตปกครองตนเองทิเบตของจีน และมณฑลยูนนานภาคใต้ของจีน ส่วนใหญ่ในบริเวณล้อมรอบมีธารน้ำแข็งหมื่นกว่าแห่งและลักษณะทางภูมิศาสตร์กับระบบนิเวศอื่น ๆ ที่ทำหน้าที่เป็น “หอเก็บน้ำ” ทำให้บางครั้งมีการเรียกบริเวณนี้ว่าขั้วโลกที่สาม เพราะมีทุ่งน้ำแข็งที่มีน้ำจืดสำรองขนาดใหญ่นอกเขตขั้วโลก ผลกระทบจากภาวะโลกร้อนในที่ราบสูงทิเบต ทำให้มีความสนใจในของวิทยาศาสตร์จีนเป็นอย่างมาก จีนอนุรักษ์ธารน้ำแข็งที่ราบสูงชิงไห่-ทิเบตอย่างเต็มที่
“ที่ราบสูงชิงไห่-ทิเบต” เป็นที่ราบสูงเนื้อที่ใหญ่ที่สุดและมีความสูงเหนือระดับน้ำทะเลสูงที่สุดในโลกน้ำที่นี่อยู่ในรูปแบบธารน้ำแข็ง ดินเยือกแข็งและทะเลสาบ ทำให้ที่ราบสูงชิงไห่-ทิเบตมีคุณสมบัติหอคอยน้ำธรรมชาติ ได้หล่อเลี้ยงแม่น้ำใหญ่หลายสายธารน้ำแข็งคิดเป็นมากกว่า 2 ใน 3 ของยอดปริมาณน้ำจืดของ เราเลือกมาพักที่เมืองฉาข่า เพราะต้องการชมทะเลสาบน้ำเค็มที่สูงกว่า 3,000 เมตร ทะเลสาบเกลือฉาข่า ทะเลสาบเกลือฉาข่าเป็นแหล่งเกลือที่มีอายุยาวนานกว่า 3,000 ปี น้ำในทะเลสาบมีปริมาณเกลือจำนวนมาก ตกผลึกตามธรรมชาติเป็นพื้นผิวทะเลสาบสีขาวหนึ่งผืน ท้องฟ้า ก้อนเมฆและภูเขาที่อยู่ฝั่งตรงข้ามสะท้อนเป็นเงาบนทะเลสาบอันงดงามมากหรือที่คนไทยรู้จักอีกชื่อหนึ่งว่าทะเลสาบเกลือ เป็นทะเลสาบน้ำเค็มที่เกิดขึ้นเองตามธรรมชาติ
Day 23 ซีหนิง > หลงหนาน ระยะทาง 625 กม. ผ่านทุ่งหญ้าที่ราบสูงที่ใหญ่ที่สุดของประเทศจีน มณฑลชิงไห่ มีทุ่งหญ้าที่กว้างใหญ่ไพศาลเป็นหนึ่งใน 4 เขตปศุสัตว์ของจีนทั้งมณฑลได้เลี้ยงสัตว์พันธุ์ต่างๆกว่า 400 ชนิดมีพืชป่าไม้กว่า 1,000 ชนิด ส่วนมากเป็นสมุนไพร ปัจจุบัน “ซีหนิง” เป็นจุดเริ่มต้นของเส้นทางรถไฟสายชิงไห่-ทิเบต ที่ได้ชื่อว่าเป็นเส้นทางรถไฟสูงที่สุดในโลกผลของการเร่งพัฒนาภาคตะวันตกและระบบการคมนาคมขนส่งสมัยใหม่ ให้ทันสมัยรวดเร็วยิ่งขึ้น และการเปิดบริการรถไฟสายชิงไห่-ทิเบต ทำให้ซีหนิงกลายเป็นชุมทางรถไฟในที่ราบสูง พื้นที่ส่วนใหญ่อยู่ในส่วนของ “หลังคาโลก” (ที่ราบสูงชิงไห่-ทิเบต) อยู่เหนือระดับน้ำทะเลราว 1,650-6,860 เมตร พื้นที่เป็น เขาสูง ทะเลสาบ ทุ่งหญ้าและทะเลทรายเป็นสภาพอากาศมีฤดูหนาวยาวนานแต่ไม่หนาวจัด มีฤดูร้อนสั้นและเย็นสบาย มีจุดเด่นคือ มีน้ำไหลเข้าอย่างเดียว โดยมีพื้นที่ทั้งหมด 4,500 ตารางกิโลเมตร อยู่เหนือระดับน้ำทะเล 3,196 เมตร มีความยาวจากตะวันออกถึงตะวันตก 106 กิโลเมตร และมีความกว้างจากใต้ถึงเหนือ 63 กิโลเมตร น้ำลึกโดยเฉลี่ย 19 เมตร และลึกที่สุด 39 เมตร โดยมีภูเขาโอบล้อมอยู่ทุกทิศทาง
Day 24 หลงหนาน > หย่าอัน ระยะทาง 550 กม. ขับบนทางด่วน G5 (ปักกิ่ง-คุณหมิง) อีกยาว ๆ500 กว่ากิโลเมตรเพื่อที่จะไปพักที่เมืองหย่าอัน ก่อนที่จะแยกไปแวะท่องเที่ยวเมืองย่าติ่งและแชงกรีล่า เป็นทางด่วนที่เชื่อมต่อปักกิ่งกับคุนหมิงในมณฑลยูนนาน มีระยะทาง 2,865 กิโลเมตร (1,780 ไมล์) ทางด่วนสายนี้แล้วเสร็จตลอดทั้งสายตั้งแต่ในปี 2018 โดยเชื่อมต่อทางด่วนคุนหมิง–กรุงเทพ (Kunming–Bangkok Expressway) มีเส้นทางแยกไปยังเชียงรุ้งและข้ามชายแดนลาวที่บ่อหานโดยทั้งหมดอยู่ในพื้นที่ของมณฑลยูนนาน ส่วนสำคัญของทางด่วน เสฉวน-คุนหมิง (G5) และเป็น 1 ใน 8 เส้นทางเดินหลักสายตะวันตก คือ จากนครหลานโจว มณฑลกานซูถึง เมืองโม๋ฮัน มณฑลยูนนาน
Day 25 หย่าอัน > หลี่ถัง ระยะทาง 400 กม. จากเส้นทางสะสมถึงตะวันตกสุดของจีนและขับมาแวะเที่ยวถนน G318 ที่เมืองหย่าอัน เป็นระยะทางมากกว่า 12,000 กิโลเมตร จากนี้ไปอีก 5 วันอยู่ในเส้นทางยอดฮิตของคาราวานรถยนต์ไทยที่นิยมขับมาชมภูเขาหิมะนั่นคือเส้นทางไปย่าติง แชงกรีล่า ต้าลี่ ลีเจียง ซึ่งเป็นเส้นทางที่ไม่ไกลจากเมืองไทย และท่านที่สะดวกจะบินมาต่อรถไฟความเร็วสูง หรือจะขึ้นรถไฟจากเวียงจันทน์มาเที่ยวคุนหมิง เปลี่ยนขบวนมาเส้นทางนี้ก็ง่ายเช่นกัน เมืองหลี่ถัง มีความสูงเหนือระดับน้ำทะเลกว่า 4,000 เมตร มีชาวทิเบตจำนวนมากที่สุด 95 % หลี่ถัง มีสภาพภูมิอากาศแบบที่ราบสูง มีแสงแดดมากและแดดจัด ลมแรง อุณหภูมิต่ำ อุณหภูมิเฉลี่ยต่อปีเพียง 3℃ ขณะที่มีอุณหภูมิสูงสุด 25.6℃ และต่ำสุด -30.6℃ ฤดูหนาวแห้งแล้งหนาวจัดและยาวนาน ส่วนฤดูร้อนก็ไม่ค่อยอบอุ่นแถมยังสั้นด้วย เมืองหลี่ถัง เป็นเมืองที่เสนอเรื่องขอขึ้นทะเบียนเป็นเมืองที่สูงที่สุดในโลกสูงกว่าทิเบต เป็นดินแดนเรียกได้ว่าลึกลับที่สุดที่อยู่ในความสูงระดับ 4,000-6,000 เมตรจากระดับน้ำทะเล และเป็นบ้านเกิดขององค์ดา ไลลามะที่ 6 ระหว่างทางจะได้เห็นภาพชาวเมืองที่มีวิถีชีวิตสบายๆ ในการทำสวนทำไร่ วัฒนธรรมแบบชาวทิเบตตามสายถนนหลักของเมืองนี้จะมีเจดีย์ทิเบตตั้งเรียงรายเป็นสิ่งศักดิ์สิทธิ์ของชาวเมืองรวมทั้งได้ชมการ์เซีย (glacier) ปกคลุมภูเขา
ทางหลวงแห่งชาติจีน G318 วิ่งจากเซี่ยงไฮ้ > เนปาล เป็นที่ยาวที่สุดในประเทศจีนบนทางหลวงแห่งชาติที่ 5,476 กิโลเมตรในความยาวและวิ่งมาจากทางตะวันตกเซี่ยงไฮ้ , ต่อเจ้อเจียง , มณฑลอานฮุย , หูเป่ย , ฉงชิ่ง , เสฉวน และปลายทางในเขตปกครองตนเองทิเบตกว่าจะมาเมืองหลี่ถังก็เจอกับหิมะตกหนักระหว่างทางเห็นรถลื่นไถลเกิดอุบัติเหตุเยอะเลยชาวบ้านเอาโซ่ พันล้อมาเร่ขายกันเยอะแต่เราขับรถ 4WD ก็มั่นใจในระบบส่งกำลังไม่ได้แวะอุดหนุนชาวบ้านระหว่างทางไต่ภูเขาในเส้น 318 รถบรรทุกก็เยอะ วิวก็สวยทหนาวก็หนาวทัศนวิสัยมองเห็นระยะไม่ถึง 100 เมตร กว่าจะคลานค่อยๆขับมามาถึงที่พักก็มืดเลยระหว่างเจอรถเทรลเลอร์ตกข้างทางอึกทางก็แคบอีกด้านก็ผนังภูเขาสูงอีกด้านก็ลำธารเหวลึก
Day 26 หลี่ถัง > หย่าติง 230 กม. เส้นทางอารยธรรมทิเบตวันนี้ขับไม่ไกล ออกเดินทางสายหน่อยครับจะไปอุทยานย่าติ่ง ดินแดนในฝันของนักท่องเที่ยวหลายคนครับอุทยานแห่งชาติ ย่าติง Yading Nature Reserve เป็นสถานที่ขึ้นชื่อเรื่องความสวยงามทางธรรมชาติของจีน บนความสูง 4,000 เมตรเหนือระดับน้ำทะเล ในเขตเมืองเต้าเฉิง (Daocheng) มณฑลเสฉวน ทางตะวันตกของประเทศจีน หรืออยู่ตรงชายขอบของพื้นที่ราบสูงชิงไห่-ทิเบต (Qinghai – Tibet) ภายในอุทยานจะมีวิวธรรมชาติที่สวยงามมีครบ ภูเขาหิมะ ทะเลสาบ ลำธาร ป่าสน ธารน้ำแข็ง ได้ฟีลเหมือนไปยุโรปใครเป็นสายรักธรรมชาติ แนะนำเลยว่าต้องไปพิชิตย่าติงให้ได้สักครั้ง เรามาช่วงหนาว (พฤศจิกายน – มีนาคม)ใครชอบความหนาวได้เจอหิมะแน่นๆต้องมาช่วงนี้
Day 27 เต้าเฉิน > แชงกรีล่า ระยะทาง 320 กม. ตื่นเช้ามาเห็นท้องฟ้าเริ่มสดใส (ทุกวันเจอฝนเจอหิมะตลอด) ก็นับวัน ใกล้จะถึงบ้านแล้ว ช่วงเที่ยงบ่ายเจอพายุหิมะถล่มทั้งเมืองอีกระหว่างเดินทางจากฝนและพายุหิมะถล่มทำให้ถนนเป็นน้ำแข็งขับรถยากมากโดยเฉพาะคนจีน รถเก๋งที่ขับเคลื่อนล้อหน้าต้องจอดเอาโซ่พันล้อเพื่อที่จะขับไปต่อได้แต่กลุ่มคาราวานของเราต้องปรับโหมด 4 ผ่านเส้นทางน้ำแข็งร่วม 100 กม. ด้วยดี
ช่วงทางบนภูเขาน้ำแข็งจอดรอรถติดทั้งรถเทเลอร์ใหญ่ยาว +รถเก๋งจีนแค่เราจอดเฉยๆ รถก็ไม่นิ่งรถเราก็ไหลถอยหลังแล้วครับทำให้ประสบการณ์ในการเดินทางมาครั้งนี้ให้ผจญภัยได้เพิ่มทักษะครบทุกอย่างไม่ว่าจะเป็นทางหิมะ ทางเปียกฝนทางฝุ่นทางข้ามทะเลทราย และทางที่เป็นน้ำแข็ง
แชงกรีล่า Shangri-La เมืองสวรรค์แห่งเทือกเขาหิมาลัยเมืองสวยแห่งเทือกเขาหิมาลัยที่เชื่อว่า เป็น ยูโทเปีย (Utopia มหานครในฝันยูโทเปียจะเป็นเมืองที่มีอยู่จริงหรือเป็นเพียงเมืองในฝัน) เมืองแห่งความสุขและความเป็นอมตะตามนวนิยาย The Lost Horizon ของนักเขียนชาวอังกฤษ James Hilton
แม้จะไม่มีหลักฐานแน่ชัดว่าที่นี่คือเมืองที่กล่าวถึงในนวนิยายจริงหรือไม่แต่สถาปัตยกรรมอันงดงามเรืองรอง ที่ตั้งอยู่บริเวณเทือกเขาหิมาลัยก็ทำให้เมืองแห่งนี้ไม่ต่างจากสวรรค์บนดินแต่หลังจากที่ได้มีการกล่าวถึงเมืองแชงกรีล่าที่เปรียบเสมือนเป็นยูโทเปียแห่งเทือกเขาหิมาลัยใน The Lost Horizon (1933) ทั้งความงดงามของเมือง วัฒนธรรมและสถานที่ตั้งตรงบริเวณเทือกเขาหิมาลัยต่างก็ตรงกับเมืองจงเตี้ยนที่ประเทศจีนหลายประการ ทางจีนจึงได้เปลี่ยนชื่อมาเป็น “แชงกรีล่า”ตั้งแต่ปี 2003 เป็นต้นมาและพัฒนาให้เป็นเมืองท่องเที่ยว อย่างเต็มรูปแบบครับแชงกรีล่า เดิมมีชื่อว่า จงเตี้ยน (Zhongdian) เป็นเมืองที่ตั้งอยู่ทางตะวันตกเฉียงเหนือ ของ มณฑลยูนนาน (Yunnan) เขตปกครองพิเศษของชาวธิเบตตี้ชิง ชื่อของเมืองมาจากการที่ภูมิประเทศ ส่วนใหญ่ของเมืองเป็นทุ่งหญ้าซึ่งในภาษาจีน คำว่า “จง”แปลว่า ศูนย์กลาง “เตี้ยน” แปลว่า ทุ่งหญ้า หรือ อาณาจักร รวมกันจึงมีความหมาย+ว่าอาณาจักรแห่งทุ่งหญ้านั่นเอง ครับ
Day 28 + 29 แชงกรีล่า > ลี่เจียง ระยะทาง 170 กม. หลังจากชมเมืองต้าหลี่ ขับไปเมืองเก่าลี่เจียงไม่ไกล เพียง 72 กม. เป็นเมืองโบราณแห่งนี้มีความแปลกเพราะเป็นที่แห่งเดียวที่ไม่มีกำแพงเมืองในบรรดาเมืองประวัติศาสตร์ และวัฒนธรรมที่มีชื่อเสียงในประเทศจีน ถนนในเมืองเก่าลี่เจียง ถูกสร้างจากภูมิประเทศอย่างชาญฉลาด โดยใช้ประโยชน์ตามแนวภูเขา ถนนและตรอกซอกซอยถูกสร้างขึ้นตามกระแสน้ำ โดยปูด้วยอิฐสีแดงจะไม่เป็นโคลนในฤดูฝนและไม่ลอยเป็นขี้เถ้าในฤดูแล้งลวดลายบนหินมีเนื้อสัมผัสที่ละเอียดอ่อนเป็นธรรมชาติและงดงามแต่ดั้งแต่เดิม เมืองแห่งนี้เคยเป็นจุดแลกเปลี่ยนค้าขายสินค้าตามเส้นทางสาย Tea Horse สายเก่าขอประเทศจีน ย่านเมืองเก่านี้มีเอกลักษณ์ของที่นี่จะมีมีลำธารและคูคลองไหลผ่านอาคารบ้านเรือนโบราณ มีสะพานเล็ก ๆ ข้ามฝั่งไปมามากกว่า 300 จุดให้ความรู้สึกเหมือนอยู่เมืองเวนิสประเทศอิตาลี จนได้รับฉายาว่า “เวนิสแห่งตะวันออก ปี 1994 เมืองโบราณลี่เจียงเริ่มพัฒนาการท่องเที่ยว จนได้รับขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลกทางวัฒนธรรม จากองค์การ UNESCO ในปี 1997
Day 30 ต้าหลี่ > เชียงรุ่ง ระยะทาง 600 กม. จากซินเจียง ตะวันตกสุดจีนติดชายแดนปากีสถานอัฟกานิสถานขับกลับลงมายูนาน ใต้สุดของจีน ตอนนี้บนหน้าปัดไมล์รถวิ่งมา 14,000 กม. แล้ว ยังเหลือระยะทางกลับกรุงเทพอีก 2,000 กม. วันนี้เป็นเส้นทางทางด่วนใหม่จากเมืองต้าหลี่ผ่านเมืองโมเจียงตรงสู่เชียงรุ่ง ซึ่งแต่ก่อนต้องขับไปเข้านครคุณหมิงก่อนที่จะเลี้ยวขวาไปเชียงรุ้งนั่นคืออ้อมไปอีก 200 กม. เส้นทางการท่องเที่ยว เชียงรุ่ง คุณหมิง ตาหลี่ ลี่เจียง แชงกรีล่าเป็นเส้นทางที่ไม่ไกลมากได้เจอหิมะใกล้เมืองไทย
ถ้ามีโอกาสก็อยากชวนให้มาเส้นทางหิมะใกล้เมืองไทยมากที่สุดเพื่อให้มองภาพระยะทางใกล้ไกลของไทย ลาวสิบสองปันนา(เชียงรุ่ง) และคุนหมิง
1. เชียงรุ่ง > คุนหมิง 560 กม.
2. เชียงรุ่ง > บ่อเต็น 217 กม. (จีน-ลาว)
3. บ่อเต็น>เชียงของ 240 กม. (ลาว-ไทย)
และความสัมพันธ์ในอดีตของชนเผ่าไทต่าง ๆ ที่มีการย้ายถิ่นฐาน การไปมาหาสู่ ทำการค้าขายที่แน่ ๆอาณาบริเวณของภาคเหนือของไทย ของพม่า ของลาวและ มณฑลยูนนาน (ภาคใต้สุดของจีน) ก็คือดินแดนของบรรพบุรุษเรานั่นเอง (จากหลายตำรา)สิบสองปันนา (Xishuangbanna)หรืออีกชื่อหนึ่งคือเมืองเชียงรุ้ง หรือ เชียงรุ่งดินแดนแถบนี้เราเชื่อกันว่าเป็นต้นกำเนิดถิ่นฐานรกรากของคนไทย จากบางตำรา กล่าวว่า 4 เชียง อันได้แก่เชียงแสน เมืองเชียงตุง (ในพม่า) เชียงทอง (ในลาวหรือที่รู้จักกันว่าล้านช้าง) และเชียงรุ้ง (สิบสองปันนา) คือกลุ่มชาติพันธุ์เชื้อสายเดียวกันที่มีชื่อว่า ชาวไต (TAI) ที่ประวัติศาสตร์ขยายว่ามาจากคำว่า อัลไต (Altai) หรือเทือกเขาอัลไตที่เราเรียนในวิชาประวัติศาสตร์ว่าด้วยที่มาของชนชาติไทยและอีกคำที่ทุกคนควรจะจำได้คือ “อาณาจักรน่านเจ้า” ที่ชาวไตอาศัยอยู่นั้น ปัจจุบันก็คือเมืองต้าหลี่ ในมณฑลยูนนานนั่นเอง
Day 31 (20 มี.ค. 68) เชียงรุ้ง > ด่านบ่อหาน จีน ด่านบ่อเต็น ลาว > ด่านเชียงของ ไทย ด่านจีนจะเปิดเวลา 09:00 น. ก็เลยไม่ต้องรีบที่จะไปนอนริมชายแดนขั้นตอนการออกจากจีนข้ามลาวเป็นเรื่องที่แสนง่ายมากในวันนี้เราจะสามารถข้ามด่านไปทานมื้อเที่ยงได้ที่หลวงน้ำทาแบบสบายๆ
ด่านสะพานมิตรภาพไทย-ลาวแห่งที่ 4 เชียงของ- ห้วยทราย ด่านเปิดบริการ 06.00-22.00 ไม่ต้องรีบที่จะขับเร็วมากช่วงผ่านลาว ผ่านเมืองหลวงน้ำทา เมืองเวียงภูคาเส้นทางเป็นภูเขาสูง ผิวทางพัง หลุมเยอะค่อนข้างอันตรายทางเป็นเลนสวน รถบรรทุกเยอะต้องประคับประคองค่อยๆ ขับไปเน้นความปลอดภัยเป็นหลัก
เส้นทาง R3A ที่เชื่อมโยงจีนตอนใต้ ลาว และไทย เส้นทางนี้เป็นส่วนหนึ่งของถนนสายคุนหมิง กรุงเทพ ฯ โดยมีจุดเริ่มต้นที่คุนหมิง มายังเขตปกครองตนเองชนชาติไทสิบสองปันนา เมื่อถึงเมืองเชียงรุ่งเมืองเอกของเขตปกครองตนเองจะแยกเป็นถนนสาย R3A มุ่งชายแดนลาวที่บ่อหาน และข้ามไปยังบ่อเต็น ในแขวงหลวงน้ำทา ต่อไปยังเมืองห้วยทราย ในแขวงบ่อแก้วของลาว เข้าสู่เขตชายแดนไทยที่ อ.เชียงของ /จบ EP2
ขอขอบคุณคณะผู้ร่วมเดินทาง Drive Across Asia ทุกท่าน ผ่านการเล่าเรื่องจากคุณต้น จีรศักดิ์ สุวรรณพืช และผู้นำกลุ่มคุณต๋อย ราชัน ไตรรัตน์
Adventure: เรื่อง พิทักษ์ ปราดเปรื่อง ข้อมูล/ภาพ: ราชัน ไตรรัตน์, จีรศักดิ์ สุวรรณพืช
Comments are closed, but trackbacks and pingbacks are open.